ตลอด ๑ เดือนนับตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ กองทัพโดรนของResistance หรือกลุ่มต่อต้านทำการโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ทางตอนเหนือของอิรัก และแหล่งขุดน้ำมันของสหรัฐฯในซีเรีย กลุ่มต่อต้านอิสลามแห่งอิรักระบุว่า UAV บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งหมดคือทำลายขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของสหรัฐในประเทศทั้งสองนี้อย่างมีนัยสำคัญ
วันที่ ๒๐ พ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และอนาดูลูรายงานว่า นักรบของขบวนการต่อต้านอิสลามในอิรักได้ใช้โดรนโจมตีฐานทัพอากาศอัล-ฮารีร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังอเมริกันและนานาชาติ ทางตอนเหนือของอิรัก ตามรายงานของสถานีโทรเลขของขบวนการ
องค์กรดังกล่าวเรียกการโจมตีฐานทัพอเมริกาว่าเป็นการตอบสนองต่อ “อาชญากรรมของศัตรูในฉนวนกาซา” ตามที่ผู้สนับสนุนกลุ่มต่อต้านอิสลามแห่งอิรักระบุว่า UAV บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
ฐานถูกโจมตีด้วยโดรนจากขบวนการชีอะต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อวันที่ ๑๗ พ.ย.ที่ผ่านมา สกายนิวส์อาระเบีย รายงานว่า UAV โจมตีเป้าหมาย เมื่อวันที่ ๙ และ ๑๑ พฤศจิกายน ฐานทัพสหรัฐฯก็ถูกโจมตีโดยโดรนเช่นกัน
ช่วงวันที่ ๑๖ พ.ย. สถานีโทรทัศน์อัลจาซีราของกาตาร์รายงานโดยอ้างถึงตัวแทนกระทรวงกลาโหมว่า นับตั้งแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคม ฐานทัพที่สหรัฐฯ ควบคุมในซีเรียและอิรักถูกโจมตีถึง ๕๘ ครั้ง
ซาบรินา ซิงห์ โฆษกเพนตากอนกล่าวว่า กองทหารสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศในศูนย์บัญชาการและควบคุม สถานที่จัดเก็บอาวุธ และพื้นที่ฝึกทหารสำหรับกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทั้งโดรนและวัตถุระเบิดมุ่งเป้าไปที่ขบวนรถและฐานทัพอากาศสหรัฐฯอีก ๒ แห่ง แนวร่วมพันธมิตรได้ประกาศกำหนดเป้าหมายไปยังฐานทัพอีก 2 แห่งในอิรัก ได้แก่ ฐานทัพฮารีร์ และฐานทัพไอน์ อัล-อัสซาด
มีรายงานการโจมตีด้วยโดรนสองครั้งที่ฐานทัพสหรัฐในอิรัก ขบวนรถพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ยังถูกโจมตีด้วยระเบิดแสวงเครื่อง (IED) ใกล้เขื่อนโมซุล
กลุ่มเคอร์ดิสถานในอิรัก เสริมว่าการโจมตีที่อัล-ฮารีร์ทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่คลังน้ำมันแห่งหนึ่ง แต่เสริมว่ากองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ได้อพยพออกจากฐานทัพอากาศตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคมที่ผ่านมา ผลการโจมตีทำให้สถานที่เสียหายแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯระบุว่า นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสเริ่มต้นขึ้น กองกำลังสหรัฐฯ และกองกำลังพันธมิตรถูกโจมตีอย่างหนักในอิรักและซีเรีย จนถึงขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกัน ๕๖ รายได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีเหล่านี้ และทุกคนกลับมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว
การปะทะกันในพื้นที่ขัดแย้งอิรักและซีเรีย สหรัฐฯยังคงชี้ไปที่อิหร่านไม่หยุดหย่อน ด้านผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ได้เรียกร้องให้รัฐมุสลิม“อย่างน้อยตัดความสัมพันธ์ทางการเมืองกับอิสราเอลในระยะเวลาที่จำกัด”คาเมเนอีกล่าวระหว่างการเยือนงานของกองกำลังอวกาศอิสลาม (IRGC) ในกรุงเตหะราน ว่าทั้งพลังงานหรือสินค้าของประเทศมุสลิมไม่ควรส่งถึงรัฐอิสราเอลในขณะที่ยังคงโจมตีฉนวนกาซา
ผู้นำสูงสุดยังกล่าวชื่นชมกองทัพ IRGCของเตหะราน ว่า“นี่คือองค์กรต่อต้านการก่อการร้ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างแท้จริง เป็นองค์กรทางทหารที่มีอุปกรณ์ครบครัน เป็นองค์กรอิสระที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ที่กองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของตะวันตกไม่สามารถทำได้”
