จากกรณีเมื่อวันที่ 13 พ.ย.2566 สำนักข่าว Reuters เผยแพร่ภาพส่วนหนึ่งของอุโมงค์ในเขตกาซาที่บันทึกไว้ในเดือน ส.ค.2014 หรือเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้สอดคล้องกับคำให้การของชาวอิสราเอล หนึ่งในตัวประกันของกลุ่มฮามาสที่ได้รับการปล่อยตัว
โดยเขาให้ข้อมูลว่า ขณะที่ถูกจับเป็นตัวประกัน บอกว่า ต้องเดินเข้าไปในอุโมงค์ที่ชื้นมาก ลักษณะเหมือนใยแมงมุม และเดินเข้าไปถึงห้องโถงที่มีคนอยู่ราว 25 คน หลังจากนั้น 2-3 ชั่วโมง ตัวประกันถูกแยกเป็นกลุ่มย่อยนำตัวไปไว้ตามที่ต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์คอยดูแล
ต่อมาเมื่อวานนี้ (18 พฤศจิกายน 2566) Blockdit World News ได้โพสต์ของความถึงกรณี อุโมงค์ของกลุ่มฮามาส โดยบอกว่า ภายหลังอิสราเอล รุกรานดินแดนเขตกาซา รัฐปาเลสไตน์ ได้เกิดการขาดแคลนเชื้อเพลิง อุปกรณ์ทางการแพทย์ และเวชภัณฑ์ ไฟฟ้า อาหาร และน้ำ จากความช่วยเหลือของสหประชาชาติ และกาชาดสากล เพราะอิสราเอลใช้ “ความหิวโหยเป็นอาวุธ” หวังขับไล่ชาวปาเลสไตน์ มากกว่า 2.3 ล้านคนที่อาศัยอยู่กาซา ข้ามชายแดนออกไปที่อียิปต์ ไล่ที่แย่งดินแดน ละเมิดมติสหประชาชาติ
อาเบียร์ เอเตฟา โฆษกประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง ของโครงการอาหารโลกสหประชาชาติ ระบุว่าด้วยอิสราเอล ขัดขวางการส่งเชื้อเพลิงในการจ่ายไฟฟ้าให้กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ ทำให้ระบบการสื่อสารในกาซาล่ม หน่วยงานบรรเทาทุกข์ต้องระงับการส่งมอบสิ่งของด้านมนุษยธรรมข้ามพรมแดนอียิปต์เพราะติดต่อกันไม่ได้ ชาวปาเลสไตน์ ในกาซาได้รับอาหารที่จำเป็นเพียง 10% ในแต่ละวัน
ระบบอาหารพื้นฐานที่มีอยู่ในกาซา กำลังล่มสลาย รถบรรทุกไม่กี่คันข้ามแดน เพื่อแจกจ่ายอาหาร ไม่มีทางที่จะสนองความต้องการความหิวโหยในปัจจุบันได้ เกิดภาวะขาดน้ำทุพโภชนาการเพิ่มมากขึ้น เผชิญกับความอดอยากเฉียบพลัน ล่าสุดคือ โรงพยาบาลอินโดนีเซีย ที่เป็นของเอกชน ทางตอนเหนือของกาซา ส่งผลให้มีแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วย บาดเจ็บหลายร้อยคน
ที่กองทัพอิสราเอล อ้างว่าได้รุกรานดินแดนรัฐปาเลสไตน์ โจมตีศูนย์บัญชาการสำคัญของกองทัพฮามาสในกาซา จึงไม่สอดคล้องความจริงตามอ้าง เพราะเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ลึกลับซับซ้อนคดเคี้ยวกว่า 500 กิโลเมตร ยังปกติดี
มีโครงสร้างเมืองใต้ดินลึกแบ่งหมวดได้ 8 ชั้นหลัก คือ ชั้นแรก ใกล้ผิวดิน เป็นทางเข้าและพื้นที่ยิงจรวด พร้อมห้องวางแผน , ชั้นสอง เป็นอุโมงค์คอนกรีตเสริมความแข็งแรง ใช้ทหารเดินเท้า และรถมอเตอร์ไซต์ ขนส่งและยิงจรวด พร้อมดูแลระบบต่างๆ
ชั้นสาม เป็นระบบเครื่องจักรไหลเวียนอากาศ และออกซิเจนในอุโมงค์ , ชั้นสี่ ห้องประชุมและห้องพักของทหารฮามาส , ชั้นห้า อุโมงค์เครือข่ายหลักที่เชื่อมโยงอุโมงค์ส่วนอื่นๆ ที่อยู่ด้านบน ใช้หลบซ่อนและเคลื่อนที่ไปตามอุโมงค์ต่างๆ
ชั้นหก คลังแสงเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ เชื้อเพลิง พร้อมระบบความปลอดภัย , ชั้นเจ็ด ห้องเก็บของ สต็อคเสบียง และห้องพัก ที่ทหารสามารถอยู่อาศัยได้ยาวนานหลายปี หรือตราบเท่าที่ต้องการ ชั้นแปด ศูนย์ควบคุมและบัญชาการกองทัพ เชื่อมโยงระบบเครือข่ายสื่อสารและจุดเชื่อมต่ออุโมงค์ เป็นเส้นทางลับ ของระดับผู้บังคับบัญชา
วิเคราะห์ว่า..แค่คนมีอาวุธร้ายแรงคนเดียวหลบซ่อนซุ่มอยู่ ยังใช้เวลานานก็หาไม่เจอกำจัดไม่ได้ แต่กองทัพฮามาส มีทหารจริงๆ หลายหมื่นคน อาวุธมากมายอยู่ในเมืองใต้ดิน ส่วนบนดินยังมีนักรบอาสาพลเรือนที่โกรธแค้นอีกหลายหมื่นคนคอยซุ่ม
การทำสงครามลักษณะนี้ยังไม่เคยมีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ากองทัพที่อาวุธเหนือกว่าจะชนะได้ นับวันยิ่งสูญเสียทหารมากขึ้นเรื่อยๆ เงินงบประมาณค่าทำสงคราม ค่ากู้อาวุธจากสหรัฐ ทางอิสราเอล ก็ต้องกัดฟันทุ่ม จนหนี้สินพะรุงพะรัง มากล้นพ้นตัวแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/posts/6558762636c582fd8f43df9f
