CPJ หรือ Center for Public Justice องค์กรเอกชนของสหรัฐฯ กำลังสืบสวนรายงานทั้งหมดของนักข่าวและเจ้าหน้าที่สื่อที่เสียชีวิต บาดเจ็บ หรือสูญหายในสงคราม ณ วันที่ ๑๗ พฤศจิกายนที่ผ่านมา การสืบสวนเบื้องต้นของ CPJ พบว่ามีนักข่าวและเจ้าหน้าที่สื่ออย่างน้อย ๔๒ คนเสียชีวิตในสงครามความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์
นอกจากนี้ CPJ ยังสืบสวนและรวบรวมรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันจำนวนมากเกี่ยวกับนักข่าวคนอื่นๆ ที่ถูกสังหาร สูญหาย ถูกควบคุมตัว ทำร้าย หรือถูกข่มขู่ รวมถึงความเสียหายต่อสำนักงานสื่อและบ้านของนักข่าวด้วย
วันที่ ๑๙ พ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและเว็บไซต์CPJ รายงานว่า การสู้รบในฉนวนกาซาทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหลายหมื่นคน รวมถึงเจ้าหน้าที่สื่อด้วย
ประเด็นนี้ ฮักไก มาตาร์ นักข่าวและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวอิสราเอล ผู้อำนวยการบริหารนิตยสาร +972 กล่าวว่าเพื่อนร่วมงานของเขาที่นั่นยอมสูญเสียเงินทั้งชีวิตเพื่อ “ทำงานอันเหลือเชื่อ”นี้
เขายืนยันว่า กองกำลังอิสราเอลหรือIDFสังหารนักข่าวชาวปาเลสไตน์หลายสิบคนที่รายงานข่าวจากในฉนวนกาซา เป็นข้อมูลจากเพื่อนร่วมงานชาวอิสราเอล
หลังจากการทิ้งระเบิดนานหนึ่งเดือนต่อปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อม ซึ่งมีประชากร ๒.๓ ล้านคน กองกำลังป้องกันอิสราเอลได้เข้าล้อมเมืองกาซาและโจมตีอาคารรัฐบาลและโรงพยาบาล จนถึงขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า ๑๑,๐๐๐ คนเสียชีวิต และบาดเจ็บเกือบ ๓๐,๐๐๐ คน ตามการระบุของกระทรวงสาธารณสุขของหน่วยงานปาเลสไตน์ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครอง ในนั้นมีนักข่าวหลายสิบคนรวมอยู่ด้วย
ฮักไก มาตาร์ บอกว่าเพื่อนร่วมงานของเขาในฉนวนกาซาได้ทำงานอันล้ำค่าในการบันทึกผลลัพธ์ของการรุกรานของกองทัพอิสราเอลและสภาพการขาดมนุษยธรรมที่นั่น
มาตาร์กล่าวว่า “บทบาทที่เราเห็นออกมาจากฉนวนกาซาจากนักข่าวปาเลสไตน์ที่ทำงานได้อย่างเหลือเชื่อภายใต้สถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง” “ภาพที่สำคัญที่สุดบางส่วนที่ออกมาจากสงครามครั้งนี้มาจากนักข่าวชาวปาเลสไตน์”
แต่นักข่าวและช่างภาพเหล่านั้นต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการรายงานข่าวการโจมตีของอิสราเอลโดยตรงด้วยชีวิตของพวกเขา
มาตาร์กล่าวว่า “พวกเขาถูกสังหารไปหลายสิบคน มันน่าสะพรึงกลัวจริงๆ”
นักข่าวคร่ำครวญว่า“ในอิสราเอล เราไม่ได้ยินเสียงของชาวอิสราเอลบอกว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องยุติ” “เราพยายามทำให้แน่ใจว่าเสียงเหล่านั้นจะได้ยินความจริงที่นี่”
“สิ่งที่น่าสนใจคือ เสียงที่ดังที่สุดในสังคมอิสราเอลที่พูดว่า ‘เราต้องการการหยุดยิงเราต้องการวิธีแก้ปัญหาอย่างสันติ’ คือเสียงของครอบครัวผู้สูญเสีย และครอบครัวของคนเหล่านั้นที่ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวไปยังฉนวนกาซา และผู้คนที่รอดชีวิตจากกลุ่มฮามาส” มาตาร์กล่าวเสริม
เขายอมรับว่า “มันยากมากที่จะหาเสียงเหล่านี้ในสังคมยิว-อิสราเอล” ซึ่ง “ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่สนับสนุนสงคราม” และส่วนใหญ่เป็น “พลเมืองปาเลสไตน์ภายใต้การควบคุมอิสราเอลที่ต่อต้านสงครามครั้งนี้เป็นอย่างมาก แต่ถูกปิดปากเงียบอย่างโหดร้าย”
“เราเห็นการประหัตประหาร ซึ่งเราไม่ได้เห็นมานานหลายปีต่อพลเมืองปาเลสไตน์ของอิสราเอล พวกเขากำลังถูก “จับกุมจำนวนมากและควบคุมตัว และถูกไล่ออกจากที่ทำงาน และพักงานหรือไล่ออกจากมหาวิทยาลัยที่ พวกเขาทำงานหรือเรียนหนังสือ เพียงบอกว่าเราต้องการหยุดยิง หรือบอกว่าเราจะดูแลชาวกาซาที่พี่น้องของเราถูกสังหาร”
เขากล่าวสรุปว่า “ทุกคนอาจถูกจับกุมในข้อหาแบบนั้นได้ในตอนนี้ ดังนั้น เสียงเหล่านั้นจึงสำคัญมาก และพวกเขาก็ถูกปิดปากไว้จริงๆ ผมรู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ในโลกไม่ได้สนใจพวกเขาอย่างแท้จริง”
สำหรับ นักเขียนอิสระและนักข่าว เอวา บาร์ตเลตต์ บอกกับสปุตนิกว่า “การที่กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) เดินหน้าโจมตีกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา โดยไม่คำนึงถึงจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นของพลเรือน คือเจตนาล้างชาติพันธุ์ชาวปาเลสไตน์อย่างชัดเจนมาก”
บาร์ตเลตต์ฟันธงว่า “ชาวปาเลสไตน์กำลังถูกทำลายล้าง อิสราเอลต้องการผลักดันพวกเขาลงทะเลและออกจากฉนวนกาซาอย่างแท้จริง”!!