จากที่ Blockdit World Update โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 ถึงกรณียูเครนซึ่งมีเหตุการณ์ที่น่าจับตาตั้งแต่ยูเครน เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร NATO ทำสงครามกับรัสเซีย และทุ่มระดมกำลังบุกตีชายแดนนั้น
โดยรายงานระบุว่า เวลาผ่านมาปีครึ่งมีทหารยูเครน กลับบ้านเก่าไปแล้ว 500,000 นาย บาดเจ็บสาหัส พิการ กว่า 3 เท่าหรือ 1.5 ล้านนาย
ญาติของทหารยูเครนที่สูญหายไปในสนามรบและถูกจับเป็นเชลยสงคราม ได้จัดการชุมนุมประท้วงที่กลางเมืองหลวงกรุงเคียฟ พวกเขาต้องการให้กองทัพตามหาคนที่รักและพากลับบ้าน
หน่วยงานข่าวกรองกลางสหรัฐ มีรายงานว่าช่วงในเดือนกันยายน 2566 ได้กลิ่น รัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลยูเครน ผู้ก่อการเป็นทหารในกองทัพ ระดับกลางบางส่วนที่ประจำการทางภาคตะวันออก
กลุ่มทหารยูเครน เหล่านั้นรู้สึกถึงอันตรายมาถึงตนจากสต็อคทหารเดิมหมดลงแล้ว ทำให้รัฐบาลยูเครน เพิ่งออกประกาศเร่งบังคับเกณฑ์ทหารชุดใหม่ เพื่อส่งไปแนวหน้าของสงคราม ไม่ยอมเจรจา
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 โดยเว็บไซต์ TOP WAR ได้เผยแพร่ข้อมูลของผู้นำทั้งสองประเทศว่า สำนักข่าว Bloomberg โดยอ้างคำแถลงของ Vladimir Zelensky ว่า รัฐประหารรอบใหม่อาจเกิดขึ้นในยูเครนโดยมีเป้าหมายเพื่อถอดถอนตนเองออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศยูเครน
Zelensky อ้างว่ารัสเซียกำลังเตรียมปฏิบัติการ Maidan-3 เพื่อก่อรัฐประหารในยูเครน ไมดาน 1 และ 2 ตามลำดับ หมายถึงเหตุการณ์ปี 2547 และ 2557
ในความเป็นจริงความกังวลดังกล่าวของผู้นำยูเครนไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกคาดการณ์ว่า หากการรุกตอบโต้ของกองทัพยูเครนล้มเหลว เซเลนสกีอาจถูกโค่นล้ม อันตรายหลักต่อประมุขแห่งรัฐมาจากกองทัพ ในหลายๆด้าน เป็นตัวบุคคลของผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครนนายพล Valery Zaluzhny
หลังจากการตีพิมพ์บทความของ Zaluzhny ใน The Economist ซึ่งยอมรับจริง ๆ ว่าความล้มเหลวของการตอบโต้ของกองทัพยูเครนการขาดโอกาสในการ บุกทะลวงลึก และการหยุดชะงัก ที่แนวหน้า
มีการเปลี่ยนผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพยูเครน พลตรี Viktor Khorenko และประวัติศาสตร์ลึกลับกับการเสียชีวิตของผู้ช่วยของ Zaluzhny พันตรี Gennady Chistyakov ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนมองว่าเป็น คำเตือน ต่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ในสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นไปได้ว่าเพื่อรักษาอำนาจไว้ Zelensky จะกล่าวหา Zaluzhny และผู้ติดตามของเขาว่าวางแผนที่จะโค่นล้มเขาเพื่อผลประโยชน์ของรัสเซีย
ขณะที่ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวที่ฟอรัมวัฒนธรรมเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ด้วยว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีเพียงไม่กี่คนที่คิดว่ารัสเซียและยูเครนอาจเข้าสู่ความขัดแย้งทางอาวุธขนาดใหญ่เช่นนี้
ประธานาธิบดีแห่งรัสเซียยอมรับว่า คนที่วิพากษ์วิจารณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพียงไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น กิจกรรมของผู้คนไม่ควรประเมินจากสิ่งที่พวกเขาพูด แต่จากสิ่งที่พวกเขาทำ
“หากกิจกรรมนี้เกี่ยวข้องกับการสร้างความเสียหายให้กับประเทศของตนเอง ประชาชนของตนเอง – กิจกรรมดังกล่าวก็เกิดขึ้นเราเห็นเช่นกัน หากเป็นเพียงความคิดเห็น มุมมอง การประเมินสถานการณ์ นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง”
นอกจากนี้ เว็บไซต์ TOP WAR ยังระบุอีกว่า ประธานาธิบดีปูติน ได้เรียกร้องให้รับฟังปัจจัยวัตถุประสงค์หลัก ความคิดเห็นของประชาชน ควรเป็นปัจจัยกำหนด
ประธานาธิบดีปูติน ยังได้กล่าวถึงความพยายามที่จะยกเลิกวัฒนธรรมรัสเซียโดยชาติตะวันตก โดยเน้นย้ำว่าสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ ในส่วนของความสัมพันธ์กับยุโรปนั้น รัสเซียไม่ได้ตั้งใจที่จะตัดความสัมพันธ์ แต่ขณะนี้มีความขัดแย้งกับชนชั้นสูงในยุโรป