การโจมตีโรงพยาลอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าของอิสราเอล เปิดเผยให้เห็นความโหดร้ายและวาระซ่อนเร้นที่ไม่ได้ต้องการทำลายแค่กลุ่มฮามาส แต่มุ่งเป้าไปที่ประชาชนปาเลสไตน์โดยตรง ล่าสุดรัฐบาลแอฟริกาใต้ยืนเรื่องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศหรือ ICC สอบสวนอิสราเอลในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในการโจมตีฉนวนกาซาที่กำลังดำเนินอยู่ ขณะที่WHO ออกมาประณามการบุกโจมตีโรงพยาบาลอัล-ชิฟาของกองทัพอิสราเอลว่า ‘เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง’
ทีโดรส เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ชี้ให้เห็นว่าสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ บุคลากร และยานพาหนะ “จะต้องได้รับการปกป้องจากการสงครามใดๆ” ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
วันที่ ๑๖ พ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวปาเลสไตน์โครนิเคิลรายงานว่า ซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีอาฟริกาใต้(SA) กล่าวในงานแถลงข่าวที่โดฮาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “ตอนนี้ฉนวนกาซากลายเป็นค่ายกักกันที่เกิดการล้างเผ่าพันธุ์อย่างโจ่งแจ้ง”
เขากล่าวว่า “เนื่องจากแอฟริกาใต้ เราได้ร่วมกับประเทศอื่นๆ ในโลก เห็นสมควรที่จะยื่นเสนอการดำเนินการของรัฐบาลอิสราเอลทั้งหมดต่อ ICC เราได้ดำเนินการส่งต่อเพราะเชื่อว่ามีอาชญากรรมสงครามเกิดขึ้นที่นั่นแล้ว”
รามาโฟซากล่าวว่า รัฐบาลของเขาไม่เห็นด้วยกับปฏิบัติการที่กำลังดำเนินอยู่ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตอนนี้กำหนดเป้าหมายไปที่โรงพยาบาลที่มีเด็กทารก ผู้หญิง และผู้บาดเจ็บกำลังจะตาย และที่ซึ่งการดูแลชีวิตถูกละเลยโดยสิ้นเชิง”
เขากล่าวเสริมว่า “เราร่วมมือกับประเทศและองค์กรอื่นๆ มากมายที่เรียกร้องให้ ICC ตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น และในขณะที่เรื่องนี้ปรากฏต่อหน้าต่อตาเรา เราก็สามารถเห็นได้ว่าอาชญากรรมสงครามกำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา”
เขาย้ำอีกว่า “มีความจำเป็นที่ทั้งโลกจะต้องลุกขึ้นและเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลยุติการยิง เพื่อหยุดสิ่งที่เกิดขึ้น และเราต้องการให้ ICC ตรวจสอบ และแน่นอนว่า มาตรการทางกฎหมายจึงจำเป็นต้องดำเนินการในระดับโลก” เป็นเรื่องที่ “ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง” ที่อิสราเอล “กลายเป็นกฎหมายสำหรับตนเอง”ฝ่ายเดียว
“รัฐบาลอิสราเอลได้ใช้วิธีการไม่ปฏิบัติตามการตัดสินใจที่เกิดขึ้นในสหประชาชาติหรือเวทีโลกอื่น ๆ อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว”
การดีเบตจะเกิดขึ้นในรัฐสภาแอฟริกาใต้ในวันพฤหัสบดีนี้ว่า ควรปิดสถานทูตอิสราเอลหรือไม่ และควรระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเทลอาวีฟหรือไม่
เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลแอฟริกาใต้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ทางการทูตทั้งหมดกลับจากเทลอาวีฟ และออกคำสั่งแบ่งเขตไปยังเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศ โดยอ้างถึงคำแถลงที่เขาแสดงเกี่ยวกับการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ของแอฟริกาใต้
การประท้วงครั้งใหญ่เกิดขึ้นเป็นประจำในประเทศ โดยครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในเมืองเคปทาวน์ มีผู้เข้าร่วมประมาณกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ จนถึงขณะนี้ อิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า ๑๑,๕๐๐คน รวมถึงเด็ก ๔,๗๑๐ คน
กองทัพอิสราเอลยังคงโจมตีบ้านเรือนของพลเรือนทั่วฉนวนกาซา โดยมีรายงานการทำลายชีวิตทุกที่ที่ถูกปิดล้อมอยู่
กาซาตกอยู่ภายใต้การปิดล้อมของทหารอิสราเอลอย่างแน่นหนามาตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ หลังการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ซึ่งผลลัพธ์ที่กลุ่มการเมืองฮามาสได้รับเลือกก็ถูกเทลอาวีฟและวอชิงตันปฏิเสธ