การเจาะจงจะโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯของฮิซบุลเลาะห์ และการประกาศมุ่งเป้าโจมตีฐานทัพสหรัฐและบ่อน้ำมันเถื่อนของเมกาของพันธมิตรต่อต้านในอิรักและซีเรีย แม้จะไม่ได้ลงรายละเอียดใดๆ ก็ตาม ถือเป็นสัญลักษณ์ที่เทียบเท่ากับฝ่ายต่อต้านที่ท้าทายอำนาจเจ้าโลกของสหรัฐฯ โดย ‘รับคำท้า’หรือจะเรียกว่าการข่มขู่สหรัฐ ก็ว่าได้ สิ่งนี้จะเข้าทางแผนใหญ่ของอิลิทโลกที่ต้องการความโกลาหลและศึกใหญ่ หรือไม่
ในทางการทูต พันธมิตรมหาอำนาจหลายขั้วกำลังเดินหน้าผลักดันทุกเวทีต่างประเทศ ให้ขัดขวางการทำลายล้างปาเลสไตน์อย่างเมามันของอิสราเอล ในขณะเดียวกันแนวรบทางทหารในพื้นที่ไม่ได้รามือลงเลย การขยายตัวของการสู้รบทางตอนเหนือและทางใต้ต่ออิสราเอลเป็นไปอย่างดุดัน ขณะเดียวกันแนวรบเพื่อนบ้านอาหรับอย่างเลบานอน อิรักและซีเรียยิ่งดุเดือดกว่าในลักษณะแลกหมัด สื่ออาหรับออกมาวิเคราะห์สถานการณ์โดยรวมไว้น่าสนใจ
วันที่ ๑๑ พ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวอัล-มายาดีนออกบมวิเคราะห์รายงานว่า ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และอิสราเอล ซึ่งเกิดขึ้น ท่ามกลางสายตาอันน่าสยดสยองของการเสียชีวิตของพลเรือนจำนวนมากในฉนวนกาซา กำลังแตกแยกกันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับ “อิสราเอล” รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงอิสราเอลกล่าวว่าสิ่งใดก็ตามที่ขัดขวาง”การยุติการดำรงอยู่ของกลุ่มฮามาสคือความล้มเหลว” สหรัฐฯ ทุ่มทุนทั้งหมดในการช่วย “อิสราเอล” เอาชนะกลุ่มฮามาส แต่ด้วยการตั้งมาตรฐานให้ ‘สูงเกินคาด’ เนทันยาฮูจึงวางกับดักสำหรับไบเดนซะเอง หาก IOF ล้มเหลวในการทำลายล้างกลุ่มฮามาส “อิสราเอล” ก็ไม่สามารถ ‘ชนะ’ ได้ และในท้ายที่สุด หาก “อิสราเอล” เพียงถอนตัวออกไป โดยที่กลุ่มฮามาสและหลักการปฏิวัติยังคงอยู่ ก็จะเข้าใจกันทั่วทั้งวงการอิสลามว่าเป็น ‘ชัยชนะ’ ของกลุ่มฮามาส พูดตรงๆ การปรับระดับฉนวนกาซาไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาสำหรับไบเดนอย่างแท้จริง
ที่แย่กว่านั้นคือ ในสถานการณ์หลังนี้ ไบเดนถูกปลดออกจากความสามารถในการสั่งให้ ‘เกมจบ’ อย่างชัดเจนในฉนวนกาซา เพื่อบรรเทาการวิพากษ์วิจารณ์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการที่เขาสนับสนุนการทำสงคราม “อิสราเอล” กับฮามาส แบบ “ไม่มีขีดจำกัด” ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นการสนับสนุนการล้างเผ่าพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ในสหรัฐฯ
นโยบายของฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะพลิกผันอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นความรับผิดทางการเมืองที่สำคัญโดยต้องมีแพะ จุดยืนของไบเดนจึงมี ‘เส้นเวลาหมดอายุ’ ก่อนกำหนดอย่างชัดเจน เมื่อไบเดนต้องการ ‘เดินหน้าต่อไป’
รัฐบาลอิสราเอล ได้รับการสนับสนุนจากสาธารณชนจำนวนมากในช่วงต้นเหตุการณ์ ได้ ‘ทุ่มสุดตัว’ ในการกำจัดกลุ่มฮามาส และถือว่าการเสียชีวิตของพลเรือนปาเลสไตน์เป็น ‘ราคาแห่งสงคราม’ระดับความรุนแรงดังกล่าวถือว่าจำเป็นในการปลอบโยนผู้มีสิทธิเลือกตั้งของอิสราเอล แต่คณะรัฐมนตรีอิสราเอลพูดถึงสงครามที่ยาวนานมากกว่า ‘เกมจบ’ โดยเร็วอย่างที่ประกาศไว้ในตอนต้น
ในปีการเลือกตั้งที่จะมาถึง ไบเดนต้องการก้าวไปไกลกว่ากลุ่มฮามาส เขาไม่ต้องการให้ฉนวนกาซาทำให้การเลือกตั้งในปี ๒๐๒๔ เสียไป แต่ต้องการหันเหความสนใจของสาธารณชนสหรัฐฯ ‘กลับ’ ไปที่ ‘ภัยคุกคาม’ จากรัสเซีย จีน และอิหร่านแทน
ทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลต้องการหลีกเลี่ยงสงครามในภูมิภาคที่ใหญ่กว่านี้ แต่ในมุมมองของทำเนียบขาว อิสราเอลกำลังเสี่ยงอย่างมากที่จะต้องเผชิญความรุนแรงมากขึ้นจาก”การทำลายล้างปาเลสไตน์แบบเหมารวม ซึ่งกำลังทำให้โลกโกรธเกรี้ยวหนักขึ้น
ไม่น่าแปลกใจเลยที่สื่อกระแสหลักในสหรัฐอเมริกากำลังคาดเดาถึงความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของเนทันยาฮู แต่การจากไปของเขาจะไม่เปลี่ยนความคิดเห็นที่ตกลงกันใน “อิสราเอล” ที่ว่าฉนวนกาซาจะต้องถูก ‘ลบออกจากแผนที่’
ซัยยิด นัสรุลเลาะห์ผู้นำฮิซบุลเลาะห์แห่งเลบานอน ท้าทายโดยตรงไม่เพียงแต่การยึดครองของอิสราเอลจะต้องถูกขัดขวางเท่านั้น แต่ยังท้าทายสหรัฐฯ โดยรวมด้วย ในเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ ตั้งแต่เลบานอน ซีเรีย อิรัก มาจนถึงปาเลสไตน์ ข้อความย่อยในสุนทรพจน์ของเซเยด นัสรุลเลาะห์เป็นการบอกใบ้ถึงการที่แนวร่วม ‘เดือดดาลอย่างช้าๆ’ ต่อ ‘เกมป้องปราม’ ของสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นการมุ่งหน้าเข้าสู่สงครามในภูมิภาคอย่างบ้าคลั่ง และสิ่งนี้ทำให้วอชิงตันกังวล
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ฐานทัพสหรัฐฯ ทั่วภูมิภาคถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำอีกจากกองกำลังติดอาวุธในภูมิภาค และไม่มีวี่แววว่าการโจมตีจะบรรเทาลงในเร็วๆ นี้ โดรนและจรวดของพวกเขาถูกยิงตกทั้งหมด CENTCOM ยืนยัน ขณะนี้ CENTCOM ได้หยุดการออกการอัปเดตแล้ว ข้อเท็จจริงคือ จนถึงขณะนี้มีชาวอเมริกันกี่คนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต? เสี่ยงต่อการเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสอีกกี่คน? ข้อมูลนี้เงียบกริบจากสื่อตะวันตก
โดยสรุปแล้ว ความขัดแย้งได้ยกระดับ มีความหลากหลายทางภูมิรัฐศาสตร์ และมีเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและหลายมิติมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการรวมตัวของตัวละครที่ไม่ใช่รัฐ และเชี่ยวชาญด้านการทหารเข้ามาด้วย นี่คือเหตุผลว่าทำไมการกระชับบ่วงมากขึ้นเรื่อยๆต่อสหรัฐฯ ในหลายแนวรบจึงสามารถเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพได้ จึง“เป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่ากองทัพสหรัฐฯ จะประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับสงครามพร้อมกันทั้งสามหรือสี่แนวหน้าหรือไม่ ความพยายามดังกล่าวอาจกลายเป็นหลุมดำที่สองต่อจากยูเครนได้อย่างง่ายดาย”
และนี่คือสถานะที่แท้จริงของสหรัฐ-อิสราเอลในศึกตะวันออกกลาง โดยไบเดนและเนทันยาฮู ที่กำลังอาจถูกเปลี่ยนแปลงจากภายในหากสถานการณ์ภายนอกเอื้ออำนวยอย่างสุกงอม!
