สถานการณ์ร้อนในตะวันออกกลางวันนี้ ๑๐ พ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวอัลมายาดีและปาเลสไตน์โครนิเคิลรายงานว่า ทาเฮอร์ เอล-นูนู ที่ปรึกษาด้านสื่อของหัวหน้ากลุ่มโปลิตบูโรของกลุ่มฮามาส ยืนยันว่า “การเจรจายังดำเนินอยู่ และยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ”
เอล-นูนูยืนยันว่าการหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงดำเนินไปเป็นเวลาหลายวัน และการยึดครองของอิสราเอลกำลังขัดขวางกระบวนการดังกล่าว โดยเสริมว่านายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ปฏิเสธการหยุดยิงใดๆ เพราะเขาไม่ต้องการแก้ไขปัญหาเชลยชาวอิสราเอลที่ถูกจับเพื่อยืดเวลาการต่อสู้
เอล-นูนูว่าการประชุมของฮานิเยห์ในอียิปต์มุ่งเน้นไปที่วิธีหยุดยั้งการรุกรานของอิสราเอลและให้ความช่วยเหลือผ่านการข้ามราฟาห์
เอล-นูนูแสดงอย่างชัดเจนว่าการประกาศหยุดยิง ๔ ชั่วโมงนั้นเป็นฝ่ายเดียว และฮามาสไม่ไว้วางใจอิสราเอล เนื่องจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ มีความแตกต่างค่อนข้างมากระหว่าง “สิ่งที่เราได้ยินจากผู้ไกล่เกลี่ยในระหว่างการเจรจากับสิ่งที่ผู้นำอิสราเอลกำลังพูด”
เอล-นูนูเรียกร้องให้นานาชาติกดดันการยึดครองของอิสราเอลให้เปิดทางข้ามราฟาห์และส่งมอบความช่วยเหลือต่อพลเรือนปาเลสไตน์
อับบาซ ผู้นำสายกลางของปาเลสไตน์ ย้ำว่าการยึดครองของอิสราเอลต้องรับผิดชอบต่อการขัดขวางข้อตกลงหยุดยิงและการปล่อยตัวเชลย “กาตาร์กำลังใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อให้บรรลุการหยุดยิงที่น่าพอใจ”
ฮามาสแสดงให้เห็นชัดเจนว่าชาวปาเลสไตน์ได้เรียนรู้บทเรียนที่ชัดเจนจากนักบา (ภัยพิบัติ) ในปี ๑๙๔๘ และมุ่งมั่นที่จะทวงคืนดินแดนของพวกเขาและปฏิเสธการบังคับย้ายถิ่นฐาน
เกี่ยวกับการสู้รบที่กำลังดำเนินอยู่ในฉนวนกาซา กองกำลังยึดอิสราเอลพยายามบุกเข้าไปในฉนวนกาซา เอล-นูนูกล่าวว่าฝ่ายอิสราเอลกำลังปกปิดการสูญเสียของตน และประกาศให้มีผู้เสียชีวิตเพียงรายเดียวต่อวัน ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตมีอยู่หลายสิบรายต่อวัน เขาย้ำว่าIDFกำลังถอยออกจากเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับการรบเนื่องจากความล้มเหลวที่เผชิญอยู่
ทหารอาชีพอิสราเอลที่กลุ่มฮามาสควบคุมไว้นั้นจะปล่อยด้วยเงื่อนไขเดียวว่าต้องแลกเปลี่ยนกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด
เมื่อทำเนียบขาวประกาศว่าการยึดครองของอิสราเอลจะเริ่มดำเนินการหยุดทางตอนเหนือของฉนวนกาซาชั่วคราว ๔ ชั่วโมงเพื่อให้ผู้คน “หนีจากสงคราม” ในเวลาเดียวกันปธน.ไบเดนแห่งสหรัฐฯออกมายอมรับว่า กล่อมเนทันยาฮูไม่สำเร็จจะไม่มีการหยดยิง สอดคล้องกับฝ่ายทหารและเนทันยาฮู
การหยุดชั่วคราวเป็นไปตามคำกล่าวแก้เกี้ยวของโฆษกความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว จอห์น เคอร์บี อ้างเป็นผลมาจากการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่อเมริกันและอิสราเอลในช่วงหลายวันที่ผ่านมา รวมถึงการสนทนาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล
สหรัฐฯ อ้างซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตนปฏิเสธการบังคับย้ายถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์จากทางเหนือไปทางใต้ของฉนวนกาซา โดยกล่าวว่านักบาคนใหม่จะไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย และเคอร์บีเองเคยพูดว่า การหยุดยิงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยเนื่องจากจะทำให้กลุ่มฮามาสมีความชอบธรรม และเราจะไม่ยืนหยัดเพื่อสิ่งนั้นในเวลานี้” พอกระแสต่อต้านกระหึ่มไปทั้งโลกก็ออกมาพลิกลิ้น ความจริงที่หน้างานยังรบกันเดือดระอุ ในทุกปริมณฑล กาซา เวสต์แบงก์ อิสราเอลตอนเหนือและใต้
ข้อสังเกตในปรากฎการณ์ล่าสุดจะพบว่า อิสราเอลกร้าวไม่มีผ่อนปรนและสหรัฐฯยังคงเล่นบทคนดีที่ไม่มีอำนาจคุมเนทันยาฮู ด้านหนึ่งอาจหมายถึงความมั่นใจของฝ่ายอิลิทมหาอำนาจเดี่ยวว่า คุมฝั่งอาหรับได้หมดด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน โลกมุสลิมยังไม่เป็นเอกภาพ เหลือไว้เพียงตัวตึงที่สหรัฐต้องการกำจัด
สหรัฐและนาโต้ระดมสรรพกำลังมาพร้อมสรรพ เปิดทางให้อิสราเอลดำเนินตามแผนการใหญ่ยึดครองแผ่นดินปาเลสไตน์ได้ทั้งหมด เปิดเรียลลิตี้โชว์ปราบมุสลิมที่หาญกล้ามาท้าทายอำนาจแองโกลแซกซอน เสียงเรียกร้องของทั่วโลก ก็เป็นเพียงกระแสคลื่นทางการเมืองที่สามารถรับมือได้ ที่หน้างานนั้นชาวปาเลสไตน์ถูกทำลายชีวิตทุกวัน แต่ทุกอย่างจะเป็นไปตามภาพที่เราเห็นเบื้องหน้าแค่นั้นหรือไม่
เมกาและอิสราเอลดูหมิ่นจิตใจของชาวปาเลสไตน์และประชาชนทั้งโลกไปหน่อย ปูตินเคยเตือนเมกาแล้วว่า คนที่นี่เขากลัวตายกันที่ไหน ทั้งไบเดนและเนทันยาฮูอาจลืมไปว่าคนแบบนี้ก็มีอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าอย่างไรกระแสความบีบคั้นทั้งหลายจะส่งให้ความรุนแรงปะทุขยายตัวอย่างไม่อาจควบคุมได้ และนั่นหมายความว่าโลกกำลังเดินเข้าสู่เส้นทางมหาสงครามทำลายล้างอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง!!