จากเมื่อวันที่ 08 พฤศจิกายน 2566 Blockdit World Update เปิดเผยถึงสื่อ Financial Times ที่ได้ออกมารายงานว่าการทำสงครามกับกองทัพฮามาส สร้างผลกระทบสั่นสะเทือนให้อิสราเอลไปทั่วระบบเศรษฐกิจ
โดย GDP ประเทศมูลค่า 488,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากรัฐบาลใช้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 51,000 ล้านดอลลาร์ (1.81 ล้านล้านบาท) เกิน 10% ของ GDP
สงครามแค่ 30 วัน ได้สร้างผลกระทบร้ายแรงความปั่นป่วนบอบช้ำแสนสาหัส เสมือนคลื่นสินามิทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจหลายพันราย ทำให้การเงินสาธารณะตึงเครียด และทำให้ทั้งภาคส่วนเศรษฐกิจ ตกอยู่ในภาวะวิกฤติ
ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อวันที่ 09 พฤศจิกายน 2566 มีสถานการณ์ที่น่าสนใจ โดย Blockdit World Update ได้เผยแพร่ข้อมูลไว้ในเฟซบุ๊กว่าปี 2490 ภายหลังจากอิสราเอลชนะสงคราม 6 วันกับชาติอาหรับ ก็คุยโวสร้างตำนานต่อเนื่องมานานถึง 56 ปี แต่ต่อมาเกิดพลิกพ่ายแพ้สงครามต่อกองทัพฮิซบอลเลาะห์ เลบานอน ย่อยยับถึง 2 ครั้ง จึงเงียบไม่พูดถึง
ปี 2566 อิสราเอล ทำสงครามกับกองทัพฮามาส ปาเลสไตน์ ม้านอกสายตา หวังแย่งชิงดินแดนกาซา ลำพองตัวว่าจะชนะสงครามในเวลาไม่ถึง 6 วันเหมือนเคย แต่ผ่านไปแล้ว 33 วัน ช้างใหญ่ยังไม่สามารถทำลายรังมดในแนวหน้าสงครามได้
อิสราเอล ทำได้มากที่สุดแค่ทิ้งระเบิดของสหรัฐ ใส่แนวหลังสงคราม ที่เป็นที่อยู่อาศัยของพลเรือน เพื่อไล่ที่พวกเขาออกไปอยู่ที่แคว้นไซนัย อียิปต์ มุ่งก่ออาชญากรรมสงครามสังหารพลเรือน เสียชีวิตกว่า 10,500 ราย บาดเจ็บกว่า 27,000 ราย
การทำสงคราม ยิ่งเวลาทอดนานย่อมต้องเผาผลาญเงินมหาศาล เรื่องนี้ยืนยันโดย ชารอน โวรเบล กระทรวงการคลังอิสราเอล ระบุว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมาก่อนสงครามขนาดใหญ่ รายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นเป็น 121,880 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 4.8% ได้ประโยชน์อย่างมากจากการจัดเก็บภาษี
มีการเกินดุลงบประมาณเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 35 ปีคิดเป็น 0.6% ของ GDP แต่ภายหลังเกิดสงคราม ยอมรับว่าเดือน ตุลาคม2566 มี การขาดดุลงบประมาณผิดปกติ เกิดจากการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการทำสงคราม อย่างมีนัยสำคัญ
เดือน ตุลาคม 2566 รายจ่ายรัฐบาลเพิ่มขึ้น 14,300 ล้านดอลลาร์ เปรียบเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้วที่ใช้จ่าย 10,900 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นมา 131.1% จากเดิม
ในเดือนเดียวกัน รายได้ของรัฐบาล 8,300 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 9,400 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นติดลบ -11% ต่อเดือน เป็นผลมาจากรายได้ภาษีลดลง จากความเสียหายต่อเศรษฐกิจช่วงสงคราม
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 2565 รายได้จากภาษีลดลงติดลบ -15.2% ส่งผลกระทบการขาดดุลการคลังของอิสราเอล ติดลบเพิ่มขึ้นเป็น -2.6% ของ GDP ราว 5,960 ล้านดอลลาร์/เดือน
ส่งผลให้กระทรวงการคลัง ผิดนัดชำระหนี้ ต้องขอเลื่อนการชำระเงินให้กับเจ้าหนี้ทั้งใน และต่างประเทศ รวมถึงซัพพลายเออร์ต่างๆ และหน่วยงานท้องถิ่น ที่แทบจะสูญพันธุ์งบประมาณไปแล้ว และขาดดุลได้ขยายวงกว้างสูงขึ้นทุกวัน
ในรอบ 8 วันที่ผ่านมา เฉพาะกองพลน้อย Al-Qassam กองทัพฮามาส ปาเลสไตน์ แค่หน่วยเดียวได้ทำลายรถถัง ยานเกราะ และรถปราบดินของอิสราเอลไปแล้ว 135 คัน โดยเฉลี่ย 16.8 คันต่อวัน ฝ่ายอิสราเอลบาดเจ็บ 7,262 ราย ตามสูตรสงครามผู้บาดเจ็บจะเป็น 3 เท่าผู้สูญเสียแท้จริง
อิสราเอล กำลังเผชิญสงครามพร้อมกัน 5 แนวรบ คือ ภาคไต้กองทัพฮามาส และขีปนาวุธจากกองทัพฮูตี เยเมน , ภาคกลางกับนักรบกลุ่มใหม่ ในรัฐปาเลสไตน์ เขตเวสแบงค์ , ภาคเหนือกับกองทัพฮิซบอลเลาะห์ เลบานอน และที่ราบสูงโกลัน กับนักรบซีเรีย อิรัก
การทำสงครามสมัยใหม่นั้นมีบทเรียนชัดเจนแล้วจากยูเครน ยิ่งสงครามยืดเยื้อยาวนานเท่าไร ฝ่ายที่ระบบเศรษฐกิจพังทลาย คลังถังแตกขาดดุล ผิดนัดผัดผ่อนชำระหนี้ มาพร้อมกับต้องโหมกู้ยืมเงินและอาวุธมาทำสงคราม
ฝ่ายนั้นย่อมจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เผาผลาญตัวเอง หนี้สาธารณะท่วมหัว คนในชาติแตกแยก สังคมเสื่อมทราม ถูกสูบเงินภาษีชดใช้หนี้สินไปอีกแสนนาน