ดูเหมือนว่าจุดยืนระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอลที่เคยสอดคล้องต้องกันอย่างสมบูรณ์กำลังจะไม่สอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์แบบอีกต่อไป ด้วยกระแสการคัดค้านการกวาดล้างปาเลสไตน์โดยอ้างทำลายกลุ่มฮามาส กำลังแพร่ขยายอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก ทั้งตะวันออกกลางยุโรป เอเชียและสหรัฐอเมริกา
วันที่ ๘ พ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวเดอะปาเลสไตน์โครนิเคิลและอัล-มายาดีนกล่าวว่าทำเนียบขาวไม่เห็นด้วยว่าอิสราเอลควรยึดครองฉนวนกาซาอีกครั้ง ตามคำพูดของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เกี่ยวกับ “ความรับผิดชอบด้านความมั่นคงโดยรวม” เหนือดินแดนที่ถูกปิดล้อมหลังสงครามสิ้นสุด
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า “ประธานาธิบดียังคงเชื่อว่าการยึดครองฉนวนกาซาโดยกองกำลังอิสราเอลนั้นไม่ดี มันไม่ดีสำหรับอิสราเอล ไม่ดีสำหรับคนอิสราเอล”
เมื่อวันจันทร์ เนทันยาฮูกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์ว่า “อิสราเอลจะมีความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยโดยรวมเป็นระยะเวลาไม่มีกำหนด เพราะเราได้เห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราไม่มี”
สหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีคัดค้านการยึดครองฉนวนกาซาอีกครั้งแล้ว หลังจากเดือนที่แล้วก็มีประเด็นเรื่องหยุดยิงชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรม ล่าสุดปธน.โจ ไบเดนของสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับ CBS กล่าวว่ามันจะเป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่” สำหรับอิสราเอลที่จะยึดครองแถบนี้
เลธ มารูฟ ผู้ประกาศข่าวและนักข่าวมือรางวัลในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนกล่าวว่าความขัดแย้งในฉนวนกาซากระตุ้นให้เกิดการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบางแห่งจะปราบปรามผู้ประท้วงก็ตาม
มาลูฟกล่าวว่า “สิ่งที่น่าตกใจที่สุดสำหรับมหาอำนาจคือการประท้วงในกรุงเบอร์ลิน ผู้คนหลายหมื่นคนออกมาที่ถนนเพื่อต่อต้านคำสั่งห้ามการชุมนุมและถือธงปาเลสไตน์ คุณรู้ไหม มีเยาวชนหลายสิบคนอยู่เคียงข้างกันด้วยธงปาเลสไตน์อยู่เหนือสิ่งนี้ ตำรวจเยอรมันกลัวที่จะเผชิญหน้ากับฝูงชนจำนวนมหาศาลเหล่านี้” รัฐบาลของเบอร์ลินก็วิตกกังวลเช่นกัน
เมื่อวันเสาร์ ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนเดินขบวนในสหรัฐฯ ฝรั่งเศส อิตาลี สหราชอาณาจักร และเยอรมนี เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซา ผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม แสดงความไม่พอใจต่อการสนับสนุนของรัฐบาลตะวันตกต่อเทลอาวีฟ ท่ามกลางผู้เสียชีวิตจำนวนมากในฉนวนกาซา
ในเวลาเดียวกัน คนหลายพันคนออกมาที่ถนนในนิวยอร์กซิตี้เพื่อแสดงการสนับสนุนต่ออิสราเอลในวันจันทร์ ผู้ประท้วงที่สนับสนุนอิสราเอลและโปรปาเลสไตน์ปะทะกันในลอสแอนเจลิส ส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ และชายสูงอายุชาวอเมริกันเชื้อสายยิวเสียชีวิตในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน
มาลูฟย้ำว่า “การประท้วงที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์เป็นการประท้วงของชาวปาเลสไตน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดบางส่วนเกิดขึ้นในโทรอนโต วอชิงตัน นิวยอร์ก และลอนดอน”“โลกตะวันตกและคำตอบที่มาจากนักการเมืองในสถานที่ต่างๆ เช่น แคนาดา สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกาพยายามทำให้ประชากรจำนวนมากเหล่านี้ที่ต่อต้านการตัดสินใจทางการเมืองของพวกเขาเป็นอาชญากร นี่คือ ฉันคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัว และหากพวกเขาควบคุมไม่ได้มันหมายถึงมิคสัญญีอย่างแท้จริง”
และล่าสุด ๙ ประเทศประกาศตัดสัมพันธ์กับอิสราเอล และอีกหลายประเทศเรียกทูตกลับ ขับไล่ทูตอิสราเอล มีเค้าลางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้อิสราเอลจะไม่แคร์โลกก็ตาม!