จากที่กองทัพอิสราเอลได้บุกโจมตีฉนวนกาซาหลายครั้ง แต่ยังปรากฏว่าไม่สามารถทะลวงแนวกั้นของกลุ่มนักรบฮามาสได้ ซึ่งว่ากันว่าเพราะมีอุโมงค์ใต้ดินที่เป็นอุปสรรคต่อการรุกอย่างเต็มกำลัง อีกทั้งยังกลายเป็นกับดักให้ติดหล่มอีกด้วย???
ทั้งนี้สถานการณ์ล่าสุดที่ถูกรายงานโดย Blockdit World Update เมื่อวันที่ 02 พฤศจิกายน 2566 มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจในประเด็นที่ระบุไว้ว่า
ในช่วง 3 สัปดาห์แรกในการทำสงคราม รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล แถลงว่าได้ทิ้งระเบิดและยิงจรวดกว่า 10,000 ลูก ใส่พลเรือนปาเลสไตน์ในเขตกาซา
สื่ออิสราเอลรายงานความเสียหายโดยตรงไปแล้วถึง 7,400 ล้านดอลลาร์ (266,622 ล้านบาท) ใช้เงินทำสงครามเฉลี่ยวันละ 12,696 ล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายทางอ้อมต่อเศรษฐกิจมากกว่าอีกหลายเท่า ท่ามกลางสถานะการคลังเริ่มสั่นคลอน มีความขัดแย้งกับภาคธุรกิจ และจำเป็นต้องขอกู้เงินและอาวุธเร่งด่วนจากสหรัฐ อีกจำนวนมาก
สื่อมวลชนถามเกี่ยวกับความชอบธรรมระหว่างประเทศในการรุกรานชิงดินแดนรัฐปาเลสไตน์ รัฐมนตรีกลาโหม Gallant ระบุว่า ในสงครามภารกิจคือการชนะ การเสียชีวิตพลเรือนอ่อนแอมีความสำคัญน้อยกว่า ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม จะสูญเสียพลเรือนปาเลสไตน์สักเท่าใด ก็จะไม่สนและจะทิ้งระเบิดใส่พลเรือนต่อไปจนกว่าจะชนะ
สื่อถามว่าการทิ้งระเบิดใส่พลเรือนที่อาศัยกว่า 60,000 คน ในค่ายผู้ลี้ภัยจาบาลิยา ซ้ำ 2 ครั้ง ในกาซา มีสื่อมวลชน และพลเรือนผู้ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามเสียชีวิตหลายร้อยคน ละเมิดอนุสัญญาเจนีวาหรือไม่
พ.ท.ปีเตอร์ เลิร์นเนอร์ โฆษกกองทัพอิสราเอล ระบุว่า การบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนในสงครามถือเป็นเรื่องปกติ และไม่รู้ว่านักรบฮามาสเสียชีวิตกี่ราย หรือไม่มีเลย และจะทิ้งระเบิดใส่พลเรือนต่อไป ต้องถามว่าชาวปาเลสไตน์ยินดีเสียสละอีกกี่คน
อิสราเอลมีแผนทางทหาร จะแย่งชิงดินแดนชาวปาเลสไตน์ โดยตัดเขตกาซาออกเป็นส่วนใต้ และส่วนเหนือ โดยส่วนเหนือจะชิงดินแดนจากชายฝั่งทะเล เพื่อตัดจากชายแดนอียิปต์ หวังขัดขวางการส่งอาวุธผ่านอุโมงค์ใต้ดิน
แต่ดูเหมือนว่า ความฝันของอิสราเอล จะต้องแลกด้วยชีวิตทหารอิสราเอลอีกนับไม่ถ้วน ล่าสุดแค่กองพลน้อยกัสซัม ของฮามาส กองพลเดียว ก็สร้างความสะพรึงตื่นตระหนกขวัญผวาให้ทหารอิสราเอล
ฮามาสได้ใช้กลยุทธ์การศึกคล้ายรัสเซีย คือ คีมปากอ้า หรือ Killing Zone ทางตอนเหนือ และตอนกลางของกาซา โดยเปิดทางปล่อยให้รถถัง รถหุ้มเกราะ และกำลังพลอิสราเอล เข้าไปในวงล้อมแบบจำกัดที่ควบคุมพิกัดโซนสังหารด้วยเนินเขาและทุ่นระเบิด
เมื่อได้จำนวนเหมาะสมที่ต้องการสังหารแล้ว ทหารฮามาสที่แต่งกายเป็นทหารอิสราเอลเทียม และนักรบชุดฮามาสปกติ ได้โผล่ขึ้นจากอุโมงค์ใต้ดินโดยรอบพื้นที่สังหารกำหนดนั้น
แบ่งเป็นทีมระดมยิงขีปนาวุธ AGTM ทำลายรถถัง รถเกราะ ที่มีทหารอิสราเอลในรถราวคันละ 4 – 5 นาย ถ้ารถหุ้มเกราะจะมากกว่า 10 นาย , ทีมยิงจรวด RPG ใส่ทหารไร้ที่กำบัง , ทีมสไนเปอร์ และมีทีมอากาศยานโดรนควอดคอปเตอร์
บินไปตรงกลางพื้นที่สังหาร หย่อนทิ้งระเบิดลงมาใส่กลุ่มทหารอิสราเอล ในแต่ละหมู่ย่อยอย่างแม่นยำ แล้วปล่อยคลิปผ่านสื่อเยาะเย้ยให้จิตตก เห็นภาพทหารอิสราเอล สูญเสีย บาดเจ็บจำนวนมาก
นี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ไม่เคยมีคลิปกล้องติดหมวกทหารอิสราเอล เอามาโชว์ออกสื่อ ขณะปะทะแบบระยะประชิดกับนักรบฮามาส เพราะพวกเขาเหล่านั้นจากไปแล้วตามวิถีนักรบนั่นเอง
