หลังจากที่เยเมน ประกาศศึกกับ อิสราเอล และขู่ว่าจะยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีอิสราเอลไปเรื่อยๆ จนกว่าอิสราเอลจะหยุดยิงในฉนวนกาซา พอแถลงจบ ก็ยิงจรวดใส่เมือง Eilat ของอิสราเอลในทันที
พลจัตวา ยาห์ยา ซารี แห่งเยเมน ออกมาแถลงประกาศสงครามกับอิสราเอล และยอมรับถึงการโจมตีไปที่อิสราเอลว่า “กองทัพของเราเปิดการโจมตีด้วยจรวดและขีปนาวุธนำวิถีอันทรงพลัง เช่นเดียวกับโดรนจำนวนมากต่อเป้าหมายต่างๆ ในอิสราเอล เราจะดำเนินการโจมตีที่รุนแรงยิ่งขึ้นต่อไปโดยใช้ขีปนาวุธและโดรนจนกว่าการรุกรานของอิสราเอลจะยุติลง”
ขณะเดียวกัน รมว.ต่างประเทศรัสเซียออกมาเตือนอิสราเอลเข้มว่า ระวังหน่อยห้าวมากในซีเรียอย่าหาว่าไม่บอกก่อน ในช่วงเวลาเดียวกันประเทศต่างๆเริ่มแสดงการตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอลมากขึ้นอย่างเป็นทางการ หลังตาสว่างว่า UNแค่องค์กรโลกบาลของสหรัฐฯที่อยู่ภายใต้อำนาจยิวไซออนนิสต์เบ็ดเสร็จ
วันที่ ๑ ต.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวอัลจาซีราห์และอัล-มายาดีน รายงานว่า กลุ่มฮูตีของเยเมนกล่าวว่าพวกเขายิงขีปนาวุธและโดรนใส่อิสราเอล ด้านกองทัพอิสราเอลกล่าวว่าได้ทำลาย ‘เป้าหมายทางอากาศ’ ที่ไม่ปรากฏชื่อ และสกัดกั้นขีปนาวุธจากพื้นสู่พื้นเหนือทะเลแดงได้
โมฮัมหมัด อัล-บูไคติ สมาชิกพรรคการเมืองเยเมน อันซาร์ อัลลอฮ์ กล่าวว่า ซานามีทางเลือกมากมายบนโต๊ะ ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดในฝั่งอิสราเอลหรือสหรัฐฯ
เขากล่าวว่า “สหรัฐฯข่มขู่เยเมนผ่านทางโอมาน ซึ่งเป็นคนกลางระหว่างสองชาติ คำตอบคือกองทัพเยเมนยิงขีปนาวุธใส่ “อิสราเอล”
“ศัตรูชาวอิสราเอลยอมรับว่าสกัดกั้นขีปนาวุธได้หนึ่งลูก แต่ปกปิดขีปนาวุธที่เหลืออยู่ได้ ชาวอเมริกันและชาวอิสราเอลยอมรับว่าได้สกัดกั้นขีปนาวุธเยเมนหนึ่งลูก แล้วขีปนาวุธส่วนที่เหลืออยู่ที่ไหนเล่า”
เขายืนยันว่าสหรัฐฯ เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการรุกรานฉนวนกาซา และกำลังก้าวข้ามเส้นสีแดงที่เยเมนประกาศไปก่อนหน้านี้ ซานา “บรรลุความสามัคคีในชาติด้วยการมุ่งโจมตีอิสราเอลผู้รุกราน” เขาเปิดเผยว่าบางพรรคที่ต่อต้านกับอันซาร์อัลลอฮ์ให้คำมั่นที่จะต่อสู้เคียงข้างกันในการเผชิญหน้ากับการยึดครองของอิสราเอล พร้อมขู่สำทับอีกว่า ความสูญเสียใด ๆ ที่จะต้องประสบในอนาคตระหว่างการทำสงครามกับ “อิสราเอล” ไม่สามารถเทียบได้กับสงครามในแนวรบภายในประเทศและกับเพื่อนบ้านที่สหรัฐฯอยู่เบื้องหลังมานาน
ผู้นำเยเมนย้ำว่า “ขณะนี้เรากำลังมุ่งเป้าไปที่กลุ่มไซออนิสต์ และหากชาวอเมริกันพยายามขยายความรุนแรง เราก็เตรียมพร้อม”
ซานาพยายามสื่อสารกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบียเพื่อยกเลิกการปิดล้อมเยเมนเพื่อไปสนับสนุนฉนวนกาซา แต่ทั้งสองประเทศปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว อัล-บูไคติเปิดเผยว่าซานามีข้อมูลที่ได้รับการยืนยันซึ่งบ่งชี้ว่ายูเออีมีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีฉนวนกาซา งานนี้อาหรับเต้นแน่ เพราะสหรัฐมีฐานทัพอยู่ในยูเออีจริง และที่มะกันยกพลขึ้นบกที่ยูเออีก็น่าจะมีมูลจริงแม้ทางการจะออกมาปฏิเสธ
นายกรัฐมนตรีของรัฐบาลชั่วคราวในซานา อับดุลอาซิซ บิน ฮับตูร์ ยืนยันว่ากลุ่มฮามาสเป็น “ส่วนสำคัญของชาวปาเลสไตน์” โดยเน้นว่า “มันไม่สามารถถูกถอนรากถอนโคนไปพร้อมกับการต่อต้านได้ เพราะพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อทั่วไปและพื้นฐานที่ชาวอาหรับในปาเลสไตน์ยึดถืออย่างสุดซึ้ง”
“ดินแดนที่อิสราเอลยึดครอง “สามารถยึดคืนได้โดยการต่อต้านเท่านั้น ผ่านคำพูด การกระทำ และทุกวิถีทางที่มีไม่เคยประสบผลเป็นจริง ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างไม่มีเงื่อนไข ของซานา กับประชาชนของเราในฉนวนกาซา ปาเลสไตน์ทั้งหมด เลบานอนตอนใต้ และที่ราบสูงโกลัน และในทุกตารางนิ้วของดินแดนอาหรับ”
เขาย้ำว่า “ฝ่ายต่อต้านขยายวงตั้งแต่เตหะราน แบกแดด ดามัสกัส เบรุต และกาซา ไปจนถึงซานา ไม่มีสิ่งใดสามารถขัดขวางการต่อต้านของเราได้ แม้ว่าเยเมนจะมีความเสียเปรียบทางภูมิศาสตร์ก็ตาม” บิน ฮับตูร์ ไม่คาดหวังระบอบการปกครองอาหรับ เขากล่าวว่า “พวกเขาหวาดกลัว หลับใหล หรือไม่ก็ขายเป้าหมายของชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด และเตรียมเข้าร่วมกระแสการฟื้นฟูเพื่อผลประโยชน์ของตน”
โลกกำลังล้อมสหรัฐและอิสราเอล แม้ว่ามหาอำนาจเดี่ยวจะเชื่อมั่นว่า การขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนเพื่อให้อิสราเอลเป็นรัฐเดียวในผืนดินแห่งนี้ จะสำเร็จ แต่กระแสภาคประชาชน และรัฐประเทศจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆกำลังแสดงออกต่อต้านอย่างเต็มที่ พร้อมๆกับระมัดระวังการก่อการร้ายของกลุ่มสุดโต่งที่ความจริงแล้วสหรัฐเป็นผู้อุปถัมภ์ สงครามใหญ่ปะทุขึ้นแล้วในสองจุดวาบไฟทั้งยุโรปและตะวันออกกลาง เพราะคู่ขัดแย้งต่างดึงลากพันธมิตรมาเผชิญหน้ากันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง!!
