สถานการณ์ช่วงนี้ไม่ใช่แต่ตะวันออกกลางเท่านั้นที่ร้อนระอุ ที่รัสเซียเกิดเหตุการณ์การขับไล่ชาวยิวที่สนามบินในรัฐดาเกสถาน ปธน.ปูตินพูดถึงสถานการณ์นี้ว่า เป็นฝีมือ ‘นักเชิดหุ่นภูมิรัฐศาสตร์’ ของสหรัฐฯ ที่พยายามแบ่งรัสเซียออกจากภายใน
เหตุการณ์ไม่คาดฝันในดินแดนของรัสเซียที่ประชากรเกือบทั้งหมดเป็นมุสลิม มีกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไปในสนามบินของเมืองหลวงของแคว้น เพื่อ “จับตัว” ผู้โดยสารชาวยิวบนเครื่องบินที่เดินทางมาจากกรุงเทลอาวีฟและประกาศขับไล่ไม่ให้เข้าพื้นที่ ต่อมาได้ควบคุมสถานการณ์ได้
โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟบอกว่า ความรุนแรงที่สนามบินคราวนี้เป็นผลมาจากอิทธิพลภายนอก และ “พวกผู้ไม่หวังดี” ซึ่งต้องการใช้ภาพความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนในกาซา มาปั่นหัวประชาชนของรัสเซีย
ในวันเดียวกัน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลง ระบุชื่อยูเครนว่าเป็นผู้ต้องสงสัยรายสำคัญ โดยเธอบอกว่าพวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของยูเครนได้แสดง “บทบาทโดยตรงและสำคัญ” ในการตระเตรียมเพื่อให้เกิดสิ่งที่เธอเรียกว่า “การยั่วยุ” ขึ้นมา เธออ้างอิงถึงพวกทรัพยากรทางออนไลน์ที่มีความเชื่อมโยงกับ อิลยา โปโนมารีออฟ อดีตสมาชิกรัฐสภาชาวรัสเซียซึ่งเวลานี้หลบไปตั้งฐานอยู่ในยูเครน และก่อตั้งกลุ่มต่อต้านเครม ลินขึ้นมา
เมื่อเมกาแพ้เพราะยูเครนแพ้ในสนามรบ ก็ทุ่มป่วนภายในใช้ทุกเงื่อนไขและคนที่ต่อต้านปูตินและประเทศของตัวเอง
วันที่ ๓๑ ต.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและทาซซ์รายงานว่า ปธน.ปูตินแห่งรัสเซียกล่าวว่า “สหรัฐฯได้รับ ‘ผลกำไรนองเลือด’ จากความขัดแย้งในตะวันออก
กลาง แต่’Pax Americana’ หรือ ‘โลกอเมริกา’ ซึ่งมีอำนาจเดี่ยวเพียงอำนาจเดียว กำลังพังทลายลงอย่างช้าๆ และจะกลายเป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว”
ปูตินกล่าว ในการประชุมความมั่นคงเกี่ยวกับสถานการณ์ในดาเกสถานว่า “เราต้องตระหนักรู้และถูกควบคุมอารมณ์ให้ได้ เราต้องเห็นให้ชัดเจนว่าใครอยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมของผู้คนในตะวันออกกลางและในภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ซึ่งเป็นผู้กำหนดความวุ่นวายร้ายแรง และใครที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ ฉันคิดว่ามันชัดเจนสำหรับทุกคนในทุกวันนี้ ผู้ออกคำสั่งกำลังดำเนินการอย่างเปิดเผยและโจ่งแจ้ง ชนชั้นปกครองของสหรัฐฯ และตัวแทนของพวกเขาคือผู้ได้รับประโยชน์หลักจากความไม่มั่นคงทั่วโลก พวกเขากำลังได้รับผลกำไรอย่างนองเลือดจากความไม่แน่นอนนี้”
“สหรัฐฯ ในฐานะมหาอำนาจระดับโลกกำลังอ่อนแอลง สูญเสียตำแหน่งของตน และทุกคนมองเห็น เข้าใจ แม้กระทั่งเมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจโลก’โลกอเมริกัน’ ที่มีอำนาจเหนือกว่ารวมศูนย์เพียงจุดเดียว กำลังพังทลายลง ค่อยๆ กลายเป็นอดีตอย่างช้าๆ แต่แน่นอน นี่คือสาเหตุที่สหรัฐฯ พยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพรัสเซียและคู่แข่งอื่นๆ โดยการหว่านความขัดแย้ง เพื่อแบ่งแยกและปกครอง
ปูตินเปรียบเทียบสหรัฐฯเหมือนแมงมุมที่ต้องการลากโลกทั้งใบมาสู่ใยแมงมุม
“จำเป็นต้องรู้และเข้าใจว่าต้นตอของความชั่วร้ายอยู่ที่ไหน แมงมุมที่พยายามจะห่อหุ้มโลกทั้งโลกไว้ในใยของมัน และปรารถนาที่จะบรรลุความพ่ายแพ้เชิงกลยุทธ์ในสนามรบ โดยใช้ผู้คนที่เคยเป็นมา ซึ่งทำการหลอกลวงมานานหลายทศวรรษในดินแดนของยูเครนในปัจจุบัน การต่อสู้อย่างแม่นยำกับศัตรูรายนี้ภายใต้กรอบปฏิบัติการทางทหารพิเศษ เรากำลังส่งเสริมตำแหน่งของทุกคนที่ต่อสู้เพื่อเอกราชและอธิปไตยของพวกเขาอีกครั้ง”
เขาย้ำว่า “ความจริงก็คือ ยิ่งรัสเซียแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และสังคมของเราก็เริ่มมีเอกภาพมากขึ้น เราก็จะสามารถยืนหยัดเพื่อผลประโยชน์ของชาติของเราเองและผลประโยชน์ของประเทศเหล่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อของนโยบายลัทธิล่าอาณานิคมใหม่ของชาติตะวันตกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น”
เขาดึงความสนใจไปที่ความจริงที่ว่าชาวอเมริกันกำลังสร้างฐานทัพของตนทุกที่ โดยใช้กำลังทหารในทุกโอกาส ส่งอาวุธและเงินไปยังเขตความขัดแย้ง ยุยงให้เกิดความเกลียดชังในยูเครนและตะวันออกกลาง
ปูตินกล่าวว่า “เราเห็นว่าในตะวันออกกลาง แทนที่จะลงโทษผู้ก่อการร้าย พวกเขาเริ่มแก้แค้นแบบเหมารวม พวกเขากำลังพยายามใช้สถานการณ์ในตะวันออกกลางเพื่อสร้างความแตกแยก รวมถึงการใช้คำโกหก การยั่วยุ และความก้าวร้าว”
“เมื่อคุณดูเด็กที่เสียชีวิต เห็นความทุกข์ทรมานของคนชรา และสูญสิ้นของโรงพยาบาลในตะวันออกกลาง หมัดของคุณกำแน่น แต่อารมณ์ไม่ช่วยอะไรได้จริงอเมริกาต้องการความวุ่นวายอย่างต่อเนื่องในตะวันออกกลาง ดังนั้นพวกเขาจึงทำให้ผู้ที่พร้อมจะหยุดการนองเลือดเสื่อมเสียชื่อเสียง แม้แต่สหประชาชาติก็ยังถูกข่มเหงทำให้ไร้ความหมาย”
“จุดยืนของรัสเซียในตะวันออกกลางไม่เคยสนใจตนเอง และไม่เคยมีจุดต่ำสุด กุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาอยู่ที่การสร้างรัฐปาเลสไตน์ที่เต็มเปี่ยม สิ่งนี้ต้องถูกผลักดันให้สำเร็จ”
ประธานาธิบดีเรียกร้องให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัสเซียและผู้นำในภูมิภาคดำเนินการที่ชัดเจน มั่นคง ทันเวลาโดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องความสงบเรียบร้อยตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงสิทธิและเสรีภาพของพลเมือง เขาเน้นย้ำว่าการดำเนินการอย่างทันท่วงทีเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาความสามัคคีระหว่างชาติพันธุ์และระหว่างศาสนา
นับวันหน้ากากเทวดาของสหรัฐและพวกกำลังเปิดเผยให้โลกได้เห็น ว่าแท้จริงแล้วกระหายสงครามแค่ไหนล่าสุดเมกาปล่อยข่าวกำลังสร้างนิวเคลียร์ที่มีอำนาจทำลายล้างสูงกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ใช้ในฮิโรชิมาและนางาซากิ ดูเหมือนว่ามหาอำนาจหลายขั้วก็มีอยู่แล้วและคงไม่กลัวการข่มขู่ เพราะไม่มีใครยอมเป็นผู้ถูกกระทำฝ่ายเดียวอีกต่อไป!