อิสราเอล-สหรัฐฯ หน้าสั่น! ไทย-นานาชาติลงมติ หยุดโจมตีกาซ่า? ขณะภายในรบ.เถียงกันวุ่น แผนบุกชิงดินแดนเหลว?
จากกรณีที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น โดยเรียกร้องให้อิสราเอลและฮามาสหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม (humanitarian truce) เปิดเส้นทางส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นเข้าไปยังฉนวนกาซา รวมถึงปกป้องชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์
ร่างมติซึ่งเสนอโดยกลุ่มชาติอาหรับ แม้ไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย แต่ก็มีน้ำหนักในทางการเมือง และสะท้อนถึงความวิตกกังวลของทั่วโลกต่อหายนะด้านมนุษยธรรมที่กำลังเกิดขึ้น ขณะที่กองทัพอิสราเอลเร่งยกระดับโจมตีกาซาเพื่อแก้แค้นที่พวกฮามาสจู่โจมพลเรือนยิวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 75 ปี
ร่างมตินี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสมาชิกยูเอ็น 120 ชาติ โดยมี 45 ชาติงดออกเสียง และอีก 14 ชาติไม่เห็นด้วย ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ และอิสราเอล อย่างไรก็ตาม อิรักได้ขอเปลี่ยนการลงคะแนนจาก “งดออกเสียง” เป็น “เห็นด้วย” ซึ่งทำให้มตินี้ได้เสียงสนับสนุนจาก 121 ชาติ โดยมี 44 ชาติงดออกเสียง
ทั้งนี้ การลงมติในเวทีสมัชชาใหญ่ยูเอ็นนั้นจะต้องได้เสียงสนับสนุนถึง 2 ใน 3 จึงจะผ่าน โดยไม่นับประเทศที่งดออกเสียง ซึ่งการโหวตครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น (UNSC) ล้มเหลวในการลงมติเพื่อแก้ไขความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาสมาแล้วถึง 4 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
“นี่คือการส่งสารไปยังทุกๆ คนว่าพอได้แล้ว สงครามครั้งนี้จะต้องยุติเสียที การเราจะต้องยุติลงเสียที และต้องเริ่มส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังฉนวนกาซา”
ต่อมาเมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม 2566) Blockdit World News ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังล่าว โดยบอกว่า ทางการสหรัฐ แถลงเรียกร้องให้ทุกประเทศไม่สนับสนุนทัพฮามาส ที่ปกป้องดินแดนตนเอง แต่ขอให้สนับสนุนและยอมรับการรุกรานดินแดนทิ้งบอมบ์ของอิสราเอล ใส่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ เพื่อปกป้องประชาธิปไตย
สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) จัดการประชุมใหญ่ฉุกเฉินเพื่อลงมติให้อิสราเอลหยุดยิงทันที และหยุดทิ้งบอมม์ ใส่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสงคราม เพราะพวกเขาไม่ใช่นักรบฮามาส และเพื่อมนุษยธรรม ประชาคมโลก ลงมติเห็นชอบอย่างท่วมท้น 120 ประเทศ รวมทั้งไทย , ไม่เห็นด้วย 14 ประเทศ เช่น สหรัฐ อิสราเอล ฯลฯ เพราะต้องการทำลายพลเรือนปาเลสไตน์ไล่ที่ชิงดินแดน และงดออกเสียง 45 ประเทศ
ฟิลิปเป้ ลาซซารินี กรรมาธิการองค์กรบรรเทาทุกข์ฯ ของสหประชาชาติ (UNRWA) แถลงว่าเจ้าหน้าที่จำนวน 57 คน ถูกอิสราเอล ทิ้งบอมบ์ใส่เสียชีวิตในเขตกาซา จนถึงปัจจุบัน ชาวชาวปาเลสไตน์ถูกสังหาร และบาดเจ็บ รวมกันกว่า 28,000 คน และคาดว่าจะถึง 35,000 รายในไม่นานจากนี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงให้มีการคุ้มครองพลเรือนปาเลสไตน์โดยทันทีและส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างทั่วถึงทุกคน ตอนนี้ขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่สถานพยาบาล สาธารณสุข และพันธมิตรด้านมนุษยธรรมอื่นๆ ในกาซา จากการทิ้งบอมบ์ของอิสราเอล
ประธานาธิบดี ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล หนึ่งในชาติคณะมนตรีความมั่นคงของ UN ระบุว่า เวลานี้ไม่เกี่ยวกับใครถูกใครผิด ใครยิงก่อน ใครยิงทีหลัง นี่ไม่ใช่สงคราม แต่คือการล้างเผ่าพันธุ์ไปกว่า 2,000 คน ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต จะทำสงครามแบบนี้ได้อย่างไร
สื่อนิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า รัฐบาลอิสราเอล กำลังมีความขัดแย้งกันในวิธีการรุกรานแย่งชิงดินแดนกาซา ไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ เกี่ยวกับวิธีการ วันเวลา จำนวนกำลังพล โดยกองทัพเสนอแผนบุกแย่งชิงดินแดนแล้ว แต่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ต้องการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรีทั้งหมดก่อน เพื่อให้มีเวลามากขึ้นในเจรจาปล่อยตัวเชลยชาวอิสราเอล
นายอิตามาร์ เบน กวีร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ไม่ละอายใจที่จะลงมือสั่งยิงพลเรือนอิสราเอลที่ก่อความวุ่นวาย และสั่งให้ตำรวจจัดการได้ง่ายดายขึ้น โดยอ้างเหตุเพื่อความมั่นคง ซึ่งเป็นข้ออ้างครอบจักรวาลปราบปรามกดหัวประชาชน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/posts/653ce498100eeb7f0ee7b16d