รัสเซียเย้ยเจ็บ! โลกไม่ได้หมุนรอบสหรัฐ หลังไบเดนเพ้อเมกาจะเป็นผู้นำสร้างระเบียบโลกใหม่

0

ความวุ่นวายในจุดวาบไฟทั้งในยุโรปและตะวันออกกลาง ที่กำลังลามสู่เอเชีย-แปซิฟิก เกิดจากฝีมือสหรัฐล้วนๆ และได้เปิดเผยเจตจำนงค์การปลุกปั่นสงครามโดยล่าสุด ไบเดนได้หาเสียงและกล่าวถึงการจัดระเบียบโลกที่นำโดยสหรัฐฯว่า ในปัจจุบันที่สหรัฐฯครอบงำอยู่“กำลังจะหมดแรง”

แต่ไบเดนสัญญาว่าวอชิงตันจะกำหนดรูปแบบระบบที่จะเข้ามาแทนที่เอง เขากล่าวกับผู้สนับสนุนเมื่อวันศุกร์สัปดาห์ที่ผ่านมา แน่นอน บรรดาผู้นำในมอสโกว์และปักกิ่งกลับโต้แย้งเป็นอย่างอื่น

ไบเดนกล่าวที่งานเลี้ยงต้อนรับการรณรงค์หาเสียงในกรุงวอชิงตัน โดยคุยโม้ถึงวิธีที่เขาโน้มน้าวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ให้ส่งความช่วยเหลือทางการเงินไปยังยูเครน และวิธีที่เขาลงนามข้อตกลงทางรถไฟและท่าเรือกับสหภาพยุโรป อินเดีย และซาอุดีอาระเบียในการประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงนิวเดลี เดือนที่แล้วว่านั่นคือความสำเร็จที่สามารถดึงพันธมิตรทั่วโลกมายืนเคียงข้างสหรัฐได้

ไบเดนย้ำว่า“ฉันคิดว่าเรามีโอกาสที่จะทำสิ่งต่างๆ ถ้าเรากล้าพอและมีความมั่นใจในตัวเองเพียงพอ ที่จะรวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียวในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน” 

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งจีนกล่าวถึงตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ ว่า”กำลังถดถอย”หลายต่อหลายครั้ง และยกย่องการเกิดขึ้นของ”โลกหลายขั้ว”ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอยู่ภายใต้กฎหมายและ สนธิสัญญามากกว่า”กฎ” ที่บังคับใช้โดยสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียยังได้พูดยาวๆ เกี่ยวกับการสร้างโลกที่มีหลายขั้ว โดยอธิบายถึงคำสั่งดังกล่าวที่”รัฐอารยธรรม” ปัจเจกบุคคล มีอิสระที่จะแสวงหาผลประโยชน์ของตนเองโดยปราศจากการบงการของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ รัสเซีย จีน และหุ้นส่วนในกลุ่ม BRICS และทั่วทั้งซีกโลกใต้ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน ปูตินบอกกับสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ปูตินบอกกับเครือข่ายสื่อจีนว่า “เราดำเนินการจากข้อเท็จจริงที่ว่าทุกคนเท่าเทียมกัน ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน สิทธิและเสรีภาพของประเทศหนึ่งและบุคคลหนึ่งสิ้นสุดลงเมื่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นหรือของทั้งรัฐเริ่มต้นขึ้น นี่คือวิธีที่โลกหลายขั้วควรจะค่อยๆ เกิดขึ้น”

วันที่ ๒๕ ต.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เซอร์เกย์ นาริชคิน หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย (SVR) กล่าวว่า “โลกกำลังเผชิญกับ “สถานการณ์การปฏิวัติแบบคลาสสิก” ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 

“มหาอำนาจหลายขั้วที่เพิ่มขึ้น” จำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องการความเป็นอิสระมากขึ้นในนโยบายต่างประเทศของพวกเขา และกำลังรื้อฟื้นอำนาจนำที่ล่มสลายของชาติตะวันตกอีกครั้ง ชาติตะวันตกซึ่งนำโดยสหรัฐฯ ไม่สามารถรับประกันการครอบงำของตนในระดับโลกได้อีกต่อไป ศูนย์กลางอำนาจที่เพิ่มขึ้นไม่ต้องการทนกับเผด็จการตะวันตกที่ก้าวร้าว”

ในความพยายามที่จะรักษาโลกที่มีขั้วเดียว สหรัฐฯ จงใจพยายามทำลายเสถียรภาพของภูมิภาคหลักๆ ของโลก วอชิงตันและพันธมิตรในลอนดอนและปารีสไม่ลังเลใจเมื่อพูดถึงการบงการกองกำลังทำลายล้างต่างๆ ในเวทีระหว่างประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ สหรัฐและพวกต่างสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศ กลุ่มอิสลามหัวรุนแรง และขบวนการคลั่งชาติสุดโต่ง

นาริชคินกล่าวย้ำว่า “ชาติตะวันตกกำลัง“เล่นกับไฟ”และ“อนาคตของระเบียบโลกตกอยู่ในความเสี่ยง”เขาเตือนและเรียกร้องให้“ผู้มีบทบาทระดับโลกและระดับภูมิภาคที่มีความรับผิดชอบเข้าร่วมและประสานความพยายามในการป้องกันความไม่มั่นคงที่เกิดจากตะวันตกและนำโลกไปสู่ระเบียบโลกหลายขั้วที่ยุติธรรม”

เวียเชสลาฟ โวโลดินประธานสภาดูมาแห่งรัสเซีย ฟาดปากไบเดนถึงความพยายามของวอชิงตันในการรักษาความเสี่ยงเพื่อการเป็นเจ้าโลกด้วยการเริ่มสงครามโลกครั้งใหม่ เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับสังคมโลก

ประธานสภาผู้แทนราษฎรของรัฐสภารัสเซียกล่าวว่า “สหรัฐก็เป็นเช่นเดียวกับผู้จัดการองค์กรที่ล้มละลายในมือ จะไม่ได้รับความไว้วางใจจากเงินของคนอื่นอีกต่อไป ไม่มีใครในโลกที่จะยอมรับ Biden และสหรัฐอเมริกาที่ทำลายล้างโลก ระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างระเบียบโลกใหม่เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาเท่านั้น”

เขาย้ำว่าสหรัฐฯ สร้างความเสียหายต่อโลก“ในความพยายามที่จะกอบกู้อำนาจอำนาจของตน”ทำให้เกิดการหยุดชะงักของการค้าระหว่างประเทศผ่านสงครามการค้า, วิกฤตการณ์ลึกล้ำในสหภาพยุโรป, ความตึงเครียดเหนือไต้หวัน และความเป็นปรปักษ์ในยูเครนและตะวันออกกลาง  ความพยายามที่จะปรับรูปร่างโลกให้เข้ากับแบบฉบับของอเมริกาจะไม่นำไปสู่อะไรดีๆ และจะส่งผลให้เกิดภัยพิบัติระดับโลกเท่านั้น ผู้นำสหรัฐฯจะต้องถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติก่อนที่เขาจะเปิดฉากสงครามโลก”

จากไบเดโนมิกส์ซึ่งใช้หาเสียงในตอนแรก แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากประชาชนและถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักธุรกิจ ตอนนี้ไบเดนต้องขายความคิดแก่คนอเมริกันว่า สหรัฐจะได้เป็นผู้นำโลกและจะเป็นผู้จัดระเบียบโลกใหม่ และสัญญาว่าอเมริกาและอเมริกันก็จะมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ดูเหมือน ว่าคนอเมริกันอาจไม่ฟังและไม่เชื่อว่าสหรัฐฯภายใต้การนำของไบเดนจะทำได้ เพราะสภาพปัจจุบันมันย้อนแย้ง!!