จากที่มีรายงานเขตกาซามีอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มนักรบฮามาส ที่กองทัพอิสราเอลต้องการทำลายเครือข่ายนี้ให้ราบคาบ แต่จนแล้วจนรอดขณะนี้ก็ยังไม่ปรากฏถึงการบุกเข้าโจมตีทางภาคพื้นดินแต่อย่างใด
ล่าสุดวันที่ 24 ตุลาคม 2566 Blockdit World Update ได้เผยแพร่ภาพและข้อความเกี่ยวกับอุโมงค์ใต้ดินของฮามาสไว้อย่างน่าติดตามข้อเท็จจริงว่า
“สถานการณ์สงครามในอิสราเอลที่รับศึก 2 ด้าน ทิศเหนือทัพฮิซบุลเลาะห์ เลบานอน, ตอนกลางปะทะปาเลสไตน์ในเวสแบงค์, ทิศใต้ทัพฮามาส ปาเลสไตน์ โดยทางภาคเหนือนั้นฝ่ายอิสราเอล เสียเปรียบ เนื่องจากมีแหล่งชุมชนที่ยึดครองดินแดนมากกว่า
กองทัพฮิซบอลเลาะห์ เลบานอน ยิงจรวดโจมตีที่ชานเมืองชโลมี มาร์กาเลียตและเอเคอร์ แถวนี้มีแรงงานไทยไปทำงานมากพอสมควร ภัยสงครามที่ทวีความรุนแรงขึ้น ที่พักโรงแรมไม่เพียงพอ ทางการตั้งแคมป์เต็นท์ขึ้นในเมือง Kibbutz Kfar Ha-Maccabi สำหรับผู้อพยพลี้ภัยชาวอิสราเอล
ส่วนภาคใต้นั้นถ้าใครคิดว่ากองทัพอิสราเอลจะทิ้งระเบิดทำลายทัพฮามาสทั้งหมดจนราบคาบ นั่นคือความเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะพื้นที่บนดินที่อิสราเอลทิ้งระเบิดทำลายตึกอาคารนั้นมีแต่พลเรือน แต่ไม่มีนักรบฮามาส
กองทัพฮามาส อยู่ในเมืองใต้ดินลึกไปกว่า 70 เมตร แม้แต่ระเบิดนิวเคลียร์ก็ทำอะไรไม่ได้ เมืองใต้ดินนี้มีฉายาว่า รถไฟใต้ดินฮามาส เนื่องจากใต้เขตกาซาเป็นเมืองแห่งอุโมงค์ ที่เป็นเครือข่ายใยแมงมุม ระยะทางยาวกว่ารถไฟใต้ดินในนครนิวยอร์คสหรัฐ
ไม่มีใครมีแผนที่สมบูรณ์ของอุโมงค์ยักษ์เหล่านี้ นักรบฮามาส แม้มีกำลังน้อยกว่า แต่ใช้กลยุทธ์ เอ็งมาข้ามุด เอ็งหยุดข้าแหย่ เอ็งแย่ข้าตี เอ็งหนีข้าตาม การโจมตี จะโผล่ขึ้นมาจากใต้ดินจากซากปรักหักพังอาคาร แล้วเคลื่อนที่โจมตีจรวดใส่อิสราเอล
อุโมงค์เมืองใต้ดิน แบ่งเป็นอุโมงค์เดินทาง ที่ต้องใช้รถมอเตอร์ไซต์ , อุโมงค์ฐานทัพ , อุโมงค์ฝึก , อุโมงค์ยิงขีปนาวุธ , อุโมงค์โรงพยาบาล , อุโมงค์อาศัย ฯลฯ หากทหารราบอิสราเอลบุกเข้าสู่ฉนวนกาซา พวกเขาจะไม่ใครรอดได้กลับบ้าน ต่อให้มีแสนนายก็หมด
หลักฐานนี้มาจากปากคำของนางโยเชฟ ลิฟชิตซ์ หญิงชราวัย 85 ปี ที่ถูกนักรบฮามาส บุกจับตัวไป และอียิปต์ กาตาร์ เจรจาปล่อยตัวเธอเพราะเห็นแก่มนุษยธรรม เธอได้บรรยายในงานแถลงข่าวด้านนอกโรงพยาบาลอิชิลอฟ ในกรุงเทลอาวีฟ
เธอถูกนักรบฮามาสพาตัว ไปโดยรถมอเตอร์ไซต์เข้าสู่ อุโมงค์ใยแมงมุม ใต้เมืองกาซา เดินผ่านอุโมงค์ลงไปถึงห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งมีเชลยอีกประมาณ 25 คนรวมตัวกันอยู่ และมีห้องอีกมากมาย โดยเชลยเฉพาะพลเรือนอิสราเอล และต่างชาติรวมถึงชาวไทย ประมาณ 220 คน
นักรบฮามาส บอกบรรดาเชลยว่าพวกเขาเชื่อในศาสนา และจะไม่ทำร้ายใคร เธอถูกนำตัวไปยังอีกห้องหนึ่งในเมืองใต้ดินนั้น จากนั้นมีแพทย์มาตรวจร่างกายเธอ มีเตียงที่นอนผู้ป่วยเหมือนในโรงพยาบาล
หมอจะมาตรวจผู้ป่วยทุก 2-3 วัน และจัดยาให้การรักษาต่อเชลยที่อาจเจ็บป่วยด้วยสาเหตุต่างๆ เธอรู้สึกได้รับสิ่งที่ดี แพทย์ของฮามาสปฏิบัติต่อเชลยที่รับบาดเจ็บอย่างสุภาพ ให้แน่ใจว่าถูกสุขอนามัย พวกเขาทำความสะอาดห้องน้ำ ไม่ใช่เชลยทำ เพราะกลัวการติดเชื้อ
เมื่อเธอสนทนากับนักรบฮามาส พวกเขาพยายามที่จะพูดคุยด้วยไมตรี เธอบอกไปว่าไม่มีการเมืองต่อกัน พวกเขาคุยกันทุกเรื่อง และเป็นมิตรกับเชลยมาก ดูแลความต้องการของเชลยทั้งหมด มีแชมพู และครีมนวดผมเตรียมบริการให้อาบน้ำด้วย
สิ่งนี้ต้องให้เครดิตพวกเขา เธอกินอาหารที่พวกเขาทำสุกสะอาด ที่มีพิต้า ชีส และแตงกวา ต่อมาเธอถูกย้ายขึ้นจากอุโมงค์ไปบนพื้นดินที่กองทัพอิสราเอล ทิ้งระเบิดใส่เธอตลอดเวลา พวกเขาพาเธอไปขึ้นรถพยาบาลของสภากาชาดอย่างรวดเร็ว”
Cr.https://www.blockdit.com/world.update
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454