ทูตนาโตถึงขั้นจัด ‘การประชุมฉุกเฉิน’ เกี่ยวกับผลการเจรจาระหว่างปูติน-ออร์บาน ประกาศ “ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ระหว่างรัสเซียและฮังการี ทำให้เกิดความกังวลด้านความปลอดภัย” ขณะที่กรณีความขัดแย้งของปาเลสไตน์-อิสราเอล ส่งผลให้รัสเซียกับตุรกีแน่นแฟ้นเพิ่มขึ้น ประกาศจะร่วมมือกันผลักดันให้หยุดยิงในฉนวนการซ่า ส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และต้องหนุนให้ปาเลสไตน์ได้เป็นประเทศ ภายใต้นโยบายสองรัฐให้สำเร็จ
วันที่ ๒๒ ต.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฮังการีเปิดเผยถึงการประชุมฉุกเฉิน ในกลุ่มประเทศ NATO ได้จัดการประชุมที่ไม่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับรัสเซียในสงครามตัวแทนยูเครน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ประธานาธิบดี ปูตินแห่งรัสเซีย และนายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บัน Viktor Orban) แห่งฮังการี ในกรุงปักกิ่ง สื่อของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่าง Radio Free Europe/Radio Liberty (RFE/RL) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า
“ปูตินและออร์บันพบกันเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคมที่ผ่านมาในเมืองปักกิ่งของจีน ระหว่างการประชุมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของประเทศ นี่เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างปธน.รัสเซียและนายกรัฐมนตรีฮังการีนับตั้งแต่ความขัดแย้งในยูเครนปะทุขึ้น
การประชุมเอกอัครราชทูตของกลุ่มและทูตจากสวีเดน ซึ่งประเทศตุรกีและฮังการียังไม่ให้สัตยาบันเป็นสมาชิก NATO เกิดขึ้นที่บูดาเปสต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ในการประชุม เดวิด เพรสแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฮังการี ได้หารือเกี่ยวกับ“ความกังวลด้านความมั่นคง”เกี่ยวกับ“ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น”ระหว่างมอสโกว์กับนาโต และสมาชิกสหภาพยุโรป
เพรสแมนยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าวอชิงตันคาดหวังให้รัฐบาลฮังการีให้ ความสำคัญ กับ “ข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ชอบด้วยกฎหมาย” เหล่านี้ อย่างจริงจัง โดยเรียกการประชุมปูติน-ออร์บานว่าเป็นเหตุการณ์ที่“น่ากังวล”
เมื่อวันอังคารซึ่งเป็นวันประชุม เพรสแมนโพสต์ภาพบน X หรืออดีตทวิตเตอร์ของออร์บันและปูตินจับมือกัน พร้อมคำบรรยายว่านายกรัฐมนตรีฮังการีเลือกที่จะยืนหยัดเคียงข้างรัสเซีย “โดยลำพังท่ามกลางพันธมิตรของเรา”
เกอร์เกลี กุลยาส(Gergely Gulyas) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของออร์บัน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ ATV เมื่อวันพุธว่า“เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ไม่มีความสามารถ และไม่มีสิทธิ์ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของฮังการี เพราะนั่นคืองานของรัฐบาลฮังการี”
ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมกับออร์บันว่า “ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกว์และบูดาเปสต์ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานผลประโยชน์ของกันและกันเท่านั้น”พร้อมย้ำว่าความสัมพันธ์ของรัสเซียกับหลายประเทศในยุโรปยังคงได้รับการ “รักษาและพัฒนา”ต่อไป
ทั้งตุรกีและฮังการีซึ่งเป็นสมาชิกนาโต้ต่างใกล้ชิดรัสเซียมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ร้อนระอุในสงครามตัวแทนยูเครน และสงครามขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ในขณะที่ไบเดนวิ่งวุ่นโหมจุดวาบไฟสงครามไปทั่ว หันกลับมาอีกที ปูตินก็เดินหน้าสร้างมิตรเพิ่มในหมู่ศัตรูอย่างNATO แก้เกมไม่ทัน เพราะเป็นความสัมพันธ์เป็นแบบวินๆ
