ฉีกหน้าเมกา! EU กลับหลังหัน หนุนนโยบาย ๒ รัฐ หลังกระแสโลกแรง

0

ชักจะเข้าเค้าตามการวิเคราะห์กูรูมะกันว่าศึกกาซาจะทำเมกาล่มสลาย ยังไม่ทันไรสหภาพยุโรปออกอาการถอยดีกว่า หลังแกนนำนาโต้ออกตัวแรงทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนีประกาศส่งอาวุธช่วยอิสราเอลล้างบางปาเลสไตน์ตามวอชิงตัน เป็นการราดน้ำมันไปบนสถานการณ์ระอุที่ หลายฝ่ายพยายามดึงรั้ง

เปลี่ยนท่าทีทางการเมืองเพราะเศรษฐกิจอาการหนักยิ่งกว่าเก่านับตั้งแต่ทุ่มงบฯประเคนให้ยูเครนตามคำสั่งวอชิงตัน เกิดศึกกาซาอเมริกาดึงยุโรปมาร่วมแบกด้วยเพราะมีแนวโน้มว่าจะขยายวงเป็นศึกภูมิภาคมากกว่า อาจต้องทุ่มงบฯมหาศาลและที่สำคัญเผยไต่กลัวคลื่นอพยพมาถาโถม นอกจากรับไม่ไหวแล้ว ยังหลอนจะเป็นโอกาสให้กลุ่ม Extremist หรือกลุ่มหัวรุนแรงแฝงเข้ามาได้

Palestinian flag is raised in front of the EU Commission building during the Palestinian President Mahmoud Abbas’ visit to Brussels, Belgium on June 22, 2016. (Photo by Dursun Aydemir/Anadolu Agency/Getty Images)

วันที่ ๑๖ ต.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์รายงานว่า รายงานว่า สหภาพยุโรปออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางทันที ตามหลักการสองรัฐ พร้อมเรียกร้องให้ร่วมมือกับ “หน่วยงานที่ถูกต้องตามกฎหมายในการปกครองตนเองของชาวปาเลสไตน์” เพื่อป้องกันไม่ให้บานปลายต่อไป

แถลงการณ์ระบุว่า “เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนและยั่งยืนบนแนวทางการแก้ปัญหาของสองรัฐผ่านความพยายามที่ได้รับการฟื้นฟูในกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง เราเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางกับหน่วยงานปาเลสไตน์ที่ชอบด้วยกฎหมายตลอดจนพันธมิตรระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่อาจมี บทบาทเชิงบวกในการป้องกันไม่ให้บานปลายต่อไป” 

เอกสารส่วนที่เหลือทำซ้ำแถลงการณ์ของสหภาพยุโรปก่อนหน้านี้: ประณามการโจมตีอิสราเอล, เรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดทันที, ยืนยันสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตัวเอง, ความจำเป็นในการปกป้องผู้คนในฉนวนกาซา และจัดหาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างจริงจัง

ประธานสภายุโรปเตือนว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อาจกระตุ้นให้เกิดลัทธิหัวรุนแรงในสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น

ชาร์ลส มิเชล ประธานสภายุโรป เรียกร้องให้ สมาชิกจัดการประชุม “วิสามัญ”เพื่อจัดการกับความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง เขากล่าวว่า“ความขัดแย้งนี้มีผลกระทบตามมามากมาย รวมถึงพวกเราในสหภาพยุโรปด้วย ผลกระทบศึกกาซาจะทำให้ความตึงเครียดระหว่างชุมชนรุนแรงขึ้นและป้อนให้เกิดลัทธิหัวรุนแรงในยุโรป”

เขาย้ำว่า มีความเสี่ยงสำคัญ”ที่ความรุนแรงที่กำลังดำเนินอยู่จะกระตุ้นให้เกิดการอพยพจำนวนมากไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และหากไม่ได้รับการจัดการอย่างระมัดระวัง ก็มีความเสี่ยงที่จะมีการอพยพไปยังยุโรปเป็นระลอกๆ”

ภายหลังการโจมตีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนโดยกลุ่มฮามาสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตพลเรือนและทหารกว่า ๑,๔๐๐ รายในอิสราเอล อิสราเอลประกาศสงครามกับกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้และเปิดฉากปฏิบัติการทิ้งระเบิดอย่างรุนแรงในฉนวนกาซาอย่างปูพรมไม่เลือกเป้าหมาย

ชาวปาเลนสไตน์มากกว่า ๒,๓๒๙ คนถูกสังหารในการโจมตีตอบโต้ ประชาชนปาเลสไตน์หลายแสนคนต้องพลัดถิ่นตามคำสั่งอพยพของอิสราเอล คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเตือนว่า “ชาวปาเลสไตน์จวนจะถูกกวาดล้างชาติพันธุ์จำนวนมาก”และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศไกล่เกลี่ยการหยุดยิงโดยทันที

การเปลี่ยนท่าทีทางการทูตเกิดขึ้นหลังจากกระแสทั่วโลก เกิดการประท้วงอย่างกว้างขวางของประชาชนประเทศต่างๆทั้งในตะวันออกกลาง สหรัฐฯ ที่ยุโรปเกิดการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลีและกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การออกมาพูดเพื่อลดกระแสแค่ทำให้ดูดีขึ้นในทางการทูตแต่ในทางปฏิบัติ ไม่อาจหยุดยั้งกระแสคลื่นไม่พอใจของประชาชนที่ขยายตัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดูเหมือนว่า อิสราเอลไม่เพียงจะลากเมกามาร่วมชะตากรรม ยุโรปก็ไม่รอดเพราะไม่มีทางปฏิเสธคำสั่งของได้อย่างแน่นอน อิสราเอลล้มเหลว เมกาและพวกจะล่มสลายไปทั้งแก๊ง!!