จากที่วันนี้(2 พ.ค.63) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้แจ้งสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม – 1 พฤษภาคม 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 220 ราย
ทั้งนี้เป็นรายใหม่ 3 รายโดยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน 176 ราย (ไม่มีกลับบ้านเพิ่ม) เสียชีวิต 2 ราย จำหน่าย 1 ราย (จำหน่าย เนื่องด้วยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์) กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 41 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 1 ราย ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 4,823 ราย (รายใหม่ 111 ราย)โดยยังคงรักษาพยาบาล 99 ราย (เป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน 41 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 58 ราย) กลับบ้านแล้ว 4,724 ราย และจำนวนผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อทางห้องปฎิบัติการทั้งหมด 8,858 ราย ( พบเชื้อ 220 ราย ) เป็นผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสม 4,823 ราย (พบเชื้อ 182 ราย) และ เป็นผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุก 4,035 ราย (พบเชื้อ 38 ราย)
สำหรับผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ 3 ราย มีรายละเอียดดังนี้ ลำดับที่ 1 รายที่ 218 หญิงไทย อายุ 58 ปี อาชีพแม่บ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่บางเทาพบจากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีอาการป่วย
ลำดับที่ 2 รายที่ 219 ชายไทย อายุ 48 ปี อาชีพค้าขายอาศัยอยู่ในพื้นที่บางเทา มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง พบจากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีอาการป่วย และลำดับที่ 3 รายที่ 220 หญิงไทย อายุ 21 ปี อาชีพพนักงานร้านสะดวกซื้อในพื้นที่บางเทา อาศัยอยู่ในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง พบจากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีอาการป่วยทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ ทั้งหมดพบจากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ซึ่งปัจจุบันไม่มีอาการป่วย และมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง รายก่อนหน้านี้มาก่อน ซึ่งในช่วงถือศีลอดอยากจะเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติตัวโดยเฉพาะการงดกิจกรรม
รวมตัวทั้งในมัสยิดและสถานที่อื่นอยู่แต่ในที่พักอาศัยและสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา การรับประทานอาหารละศีลอดควรทานในบ้านและห่างกันมากกว่า 1 เมตรและงดการพูดคุยกัน ทั้งประชาชนทั่วไป จึงขอเน้นย้ำ เรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมถึงแม้จะไม่มีอาการป่วยก็ต้องแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น งดรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็นไม่เข้าไปที่ชุมชน หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะหรือ ถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์