จากที่ปาเลสไตน์และอิสราเอลขัดแย้งกันมานาน เกิดการปะทะกันตลอดมา ล่าสุดสร้างความตื่นตะลึงและวิตกกับชาวโลกว่าจะบานปลายไปสู่ศึกใหญ่หรือไม่ ขณะเดียวกันมีเบื้องหลังการจู่โจมของนักรบฮามาสในครั้งนี้อย่างน่าติดตามด้วยเช่นกัน!!!
ทั้งนี้ มีความคืบหน้าต่อการบุกทะลวงบริเวณฉนวนกาซ่าที่ Blockdit World Update ได้ออกมานำเสนอเป็นรายงานไว้ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างน่าสนใจว่า
“จากกรณีนักรบฮามาส กองกำลังทหารกึ่งพลเรือนชาวปาเลสไตน์ ที่เป็นคู่ขัดแย้งกับอิสราเอล เกี่ยวกับการแย่งชิงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา และดินแดนอยู่อาศัย มานานเป็นศตวรรษ ตั้งแต่ยังไม่ได้ก่อตั้งเป็นรัฐ
พวกเขาได้นำกำลังบุกจู่โจมจากพื้นที่ฉนวนกาซ่าของชาวปาเลสไตน์ เจาะผ่านรั้วกันแข็งแรงเข้าสู่ชายแดนทางใต้ของอิสราเอล ปฏิบัติการพร้อมกับนักรบเฮชบุลเลาะห์ เลบานอน โจมตีชายแดนทางเหนือของอิสราเอล
สร้างความตื่นตะลึงให้กับอิสราเอล และสหรัฐอเมริกา และทั้งโลกเป็นอย่างมาก เพราะในรอบหลายปี กองทัพฮามาส ไม่เคยทำแบบนี้ได้ และไม่เคยสร้างความสูญเสียให้กองทัพอิสราเอลได้มากมายขนาดนี้มาก่อน
ไขปริศนาความลับนี้เริ่มขึ้นจาก การจู่โจมเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เวลา 6.30 น.เช้าตรู่ นักรบฮามาส ปาเลสไตน์ วางแผนการณ์แยบยลซับซ้อนลับลวงพรางอย่างมาก
เปิดฉากครั้งใหญ่เบี่ยงเบนความสนใจกองทัพอิสราเอล ด้วยการระดมยิงจรวดจริง และจรวดปลอมอย่างหนักเป็นจำนวนมากราว 3,500 – 5,000 ลูก จากเครื่องยิงหลายเครื่อง ตลอดแนวชายแดนอิสราเอล ไปยังภาคใต้ และภาคกลาง
ทำให้เกินกำลังของระบบป้องกันภัยทางอากาศไอรอนโดม ที่จะจำแนกจรวดจริง และปลอมได้ ส่งผลให้ฝนเหล็กห่าใหญ่รอดหลุดพ้นไปตกในพื้นที่กรุงเทลอาวีฟ เมืองเทคโนโลยี และอีกหลายเมืองโดยรอบ
จรวดพุ่งไปตกใส่อาคารตึกสูง ถนน รถยนต์ โรงงาน ตึกใดที่โดนจังๆ ถึงกับถล่มลงมา สร้างความตกตะลึงสับสนอลหม่านให้ฝ่ายอิสราเอล ในช่วงชุลมุนนั้นนักรบส่วนหนึ่งได้ใช้รถเครื่องจักร รื้อทำลายรั้วกันชายแดนออก
เกิดเป็นช่องโหว่พรุนไปตลอดแนวพรมแดน หน่วยรบพิเศษฮามาสชั้นยอดที่ฝึกฝนมาอย่างดี ได้ใช้ขบวนรถมอเตอร์ไซต์ และเครื่องพารามอเตอร์ บินข้ามชายแดนเหมือนกองทัพมด
กองกำลังแต่ละชุดมีไม่มากชุดละราวไม่เกิน 10 คน แต่ซอยออกบุกจู่โจมจากหลายจุดช่องโหว่ จึงสามารถข้ามพรมแดนได้หลายแห่งในคราวเดียวกัน บางชุดโจมตีเบี่ยงเบนความสนใจจากทางชายทะเลอีกด้วย
ส่วนนักรบที่ใช้เครื่องพารามอเตอร์ ก็บินร่อนทางอากาศไปลงจอดหลายจุดในดินแดนอิสราเอล แต่การโจมตีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเกิดขึ้นที่ด่านฐานทัพจุดตรวจของอิสราเอล 2 แห่งบริเวณชายแดนติดกับฉนวนกาซา คือ ฐานทัพเอเรตซ์ และเคเรม ชาลอม ที่นี่สร้างความประหลาดใจให้กองทัพอิสราเอลอย่างมาก เพราะนักรบฮามาส ไม่ได้ใช้ยานพาหนะรถเกราะใดๆ แต่ใช้ใจล้วนๆ วิ่งกรูกันเข้าโจมตีดื้อๆ เลย
พวกเขาสามารถจู่โจมบุกยึดฐานทัพได้ในพริบตา ยึดรถถัง รถหุ้มเกราะได้เป็นจำนวนมาก บางส่วนถูกทำลาย บางส่วนก็นำไปใช้งานเป็นยานพาหนะบุกพื้นที่อื่นๆ ในเมืองตลอดแนวชายแดน”