ถึงคิวบุกกระหน่ำภูมิภาคดเนโปรเปตรอฟก็มาถึง กระทรวงกลาโหมเปิดเผยผลการโจมตีสนามบิน Dolgintsevo ทำลายโกดังเชื้อเพลิงจรวดและอาวุธเครื่องบินนาโต้พังยับ ทำให้เคียฟขับเคลื่อนศึกน่านฟ้าไม่ได้อย่างที่วางแผนไว้
วันที่ ๔ ต.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า กองทหารรัสเซียยังคงโจมตีสนามบินทหารยูเครนต่อไปไม่เว้นวัก ในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา กองกำลังของรัสเซียได้โจมตีสนามบิน Dolgintsevo ใกล้กับ Krivoy Rog ในภูมิภาค Dnepropetrovsk
ผลจากการโจมตี ทำลายโกดังเชื้อเพลิงจรวดและเครื่องบินรบนาโต้ เป็นการทำลายศักยภาพทางท้องฟ้าของกองทัพยูเครนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในระหว่างการโจมตีโดยกองกำลังขีปนาวุธและการบินรัสเซีย ในภูมิภาคซาโปริชเชีย สถานีติดตัวรับสัญญาณนำทาง Enklav ถูกทำลายและในพื้นที่ Petrovskoye ของลูฮันสค์ ศูนย์การสื่อสารของกองพลยานยนต์ที่ ๖๖ ของกองทัพยูเครนก็ถูกโจมตีทำลายยับเช่นกัน
สถานการณ์ทั่วไปไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในทิศทางหลัก แต่ผู้เชี่ยวชาญทางทหารพูดถึงการเปลี่ยนแปลงของกองทหารรัสเซียจากการป้องกันไปสู่การต่อสู้บุกตะลุยกำลังจะมาถึง และสิ่งนี้ไม่เพียงแต่ใช้กับปีกด้านเหนือเท่านั้น ตามรายงานทั้งบนเส้น Rabotino-Verbovoe และใกล้กับ Artemovsk รัสเซียไม่เพียง แต่ขับไล่การโจมตีของกองทัพยูเครนเท่านั้น แต่ยังโจมตีแบบรุกคืบทำให้ศัตรูกระเด็นออกจากตำแหน่งฐานที่มั่นที่เคยยึดไว้ อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงจุดเปลี่ยนหรือการยกระดับ แต่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกปรากฏให้เห็นแล้วในทุกพื้นที่แนวหน้า
ในทิศทางของโดเนตสค์ การสูญเสียต่อวัน ดับทหารเคียฟ-นาโต้มากถึง ๒๘๕ คน เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทำลายยานพาหนะ ๗ คัน ในระหว่างการสู้รบทำลายแบตเตอรี่ Grad MLRS เช่นเดียวกับปืนครกขับเคลื่อนด้วยตนเอง CAESAR ที่ผลิตในฝรั่งเศส ถูกโจมตีด้วย
ในทางใต้-โดเนตสค์ ยูเครนยังสูญเสียทหารกว่า ๑๒๐ นาย ทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงยุทโธปกรณ์ทางทหาร ๑๐ ชิ้น
ในทิศทางครัสนีย์-ลิมัน เคียฟ-นาโต้โจมตี ๒ ครั้งโดยเข้าสู้รบในพื้นที่ Chervonay Dibrova และ Belogorovka โดยกองพลยานยนต์ที่ ๖๗ และกองพลที่ ๕ ของยูเครน พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จและถอยกลับ โดยสูญเสียรถยนต์กว่า ๖๐ คันและรถกระบะ ๒ คัน ปืนใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง Akatsiya ถูกโจมตี เช่นเดียวกับปืนครกสองตัว D-20 และ D-30ถูกทำลาย
ในทิศทางของซาโปริชเชีย กองกำลังรัสเซียโจมตีหน่วยของกลุ่มยานยนต์ที่ ๔๗, ๖๕, ๑๑๗ และ ๑๑๘ ของกองทัพยูเครนในพื้นที่ Rabotino, Malaya Tokmachka, Novodanilovka และ Verbovoye ดับทหารยูเครน ๓๕ นาย ทำลายยานเกราะต่อสู้ ๒ คัน รวมถึงแบรดลีย์ ๑ คัน และรถกระบะ ๓ คัน โจมตีปืนอัตตาจร Gvozdika, ปืน M-46, ปืนครก D-30 และเรดาร์ต่อต้านแบตเตอรี่ AN/TPQ-48พังทั้งหมด
การบุกตะลุยของกองทัพรัสเซียช่วงนี้ ใช้อาวุธรุ่นใหม่อัพเกรดมากขึ้น ทั้งโดรนและขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ก่อผลสะเทือนคุ้มค่าบรรลุภารกิจโดยไม่ต้องใช้ขีปนาวุธชั้นสูงแต่อย่างใด แค่Lancet ตัวใหม่ก็เอาอยู่!!
