สภาพการณ์ล่าสุดของสงครามยูเครน ดูจะไม่เหมือนเดิม เมื่อแพคเกจความช่วยเหลือทางทหารสำหรับยูเครนจากเมกา-นาโต้ที่ขาดแคลนกว่าเดิม ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถของสหรัฐฯ ในการรักษาสงครามตัวแทนยูเครนในระยะยาว พอร์ทัล Defense Connect ของออสเตรเลียลงบทความวิเคราะห์ไว้ว่าก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งทางอุตสาหกรรมของสหรัฐฯไม่สม่ำเสมอ แต่ตอนนี้แตกต่างไปมาก และเพนตากอนอาจถูกทิ้งไว้โดยไม่มีกระสุนในกรณีที่เกิดสงครามเต็มรูปแบบ ตามตัวชี้วัดบางตัว การรบอาจจะสิ้นสุดในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
สถานการณ์นี้เป็นผลมาจากการปรับลดการผลิตที่ส่งผลกระทบต่อศูนย์อุตสาหกรรมกลาโหมของอเมริกาหลังสงครามเย็น นอกจากนี้ระบบราชการใหม่ยังมีบทบาทในการเสื่อมโทรมของกองทัพสหรัฐฯอีกด้วย สถานการณ์ที่คล้ายกันนี้พบเห็นได้ในหมู่พันธมิตรอเมริกัน เช่น อังกฤษ เยอรมนี หรือออสเตรเลียเอง แม้สภาพความจริงเบื้องหน้าจะสะท้อนความไม่พร้อม แต่ท่าทีของสหรัฐฯ-นาโต้ยังคงมุ่งมั่นยั่วยุรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัสเซียยังขีดวงจำกัดสนามรบในเขตแดนภูมิภาคใหม่ที่เข้าร่วมกับรัสเซีย แต่ล่าสุดได้บุกทำลายกำลังพลและคลังนาโต้ที่แนวหลังยูเครนอย่างเอาการเอางานมากขึ้น
วันที่ ๒๗ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยผลการสู้รบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “กองกำลังรัสเซียเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธร่อนที่คลังกระสุนร่วมของกองทหารยูเครน-นาโต้ ซึ่งทำลายกระสุนและโรงเก็บเครื่องบินรบของเคียฟ-นาโต้ยับ
รัสเซียปฏิบัติการโจมตีอย่างแม่นยำที่คลังกระสุนของยูเครนใกล้หมู่บ้านคิเซเลฟกา ภูมิภาคเคอร์ซอน ผลจากการโจมตีและการระเบิดในเวลาต่อมา โรงเก็บเครื่องบิน ๑๒ แห่งถูกทำลาย คลังกระสุนมากกว่า ๓,๐๐๐ ตันจากกระสุนขนาดต่างๆ ที่ถูกเก็บไว้ถูกทำลายยับ ”
นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้เผยแพร่ภาพหน่วยรบพิเศษออสมัน (Osman) ของรัสเซียที่กำจัดยานเกราะคาซัคของยูเครนโดยใช้โดรนกามิกาเซ่ FPV ในภูมิภาคซาโปริชเชีย
หน่วยสอดแนมรัสเซียค้นพบตำแหน่งของเคียฟโดยมีปืนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่า เครื่องบินรบได้ส่งพิกัดไปยังปืนใหญ่รัสเซียและปรับการยิง ศัตรูถูกทำลาย
ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นยานพาหนะหุ้มเกราะ ‘คาซัค’ ของยูเครนที่กำลังเคลื่อนตัวไปตามถนนในสนาม โดรนของหน่วยรบพิเศษออสมานของรัสเซีย โจมตีทางด้านขวาของยานเกราะยูเครนทำให้สูญเสียการทำงาน เกิดไฟลุกไหม้ตามมา
‘Kazak-2’ เป็นตระกูลยานเกราะต่อสู้ของยูเครนที่ผลิตโดยบริษัท NPO Praktika ในกรุงเคียฟ เพิ่งปรากฎให้เห็นและมีรายงานเป็นทางการจากรัสเซีย
ทั้งๆที่การสู้รบในสมรภูมิแนวหน้ายิ่งดุเดือดมากขึ้น แต่เคียฟกลับลดการนำรถถังชื่อดังของนาโต้ มาลุยในแนวหน้า โดยหันมาใช้รถถัง ปืนใหญ่สมัยโซเวียตที่มีอยู่ในสต็อกมากขึ้น อาจเป็นได้ว่าเก็บไว้ลุยสมทบขบวนรถถังล็อตใหม่ เพื่อเตรียมบุกอีกครั้งในหน้าหนาวตามที่เซเลนสกี้ประกาศไว้ ภาคพื้นท้องฟ้ารัสเซียยังคงเหนือกว่าส่งผลให้ภาคพื้นดิน ยูเครนไม่อาจตีแตกแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การเปิดสงคราม โดรนและเปิดฉากใช้ขีปนาวุธอังกฤษ-ฝรั่งเศสก่อกวนทะเลดำ จึงเป็นความท้าทายใหม่ที่ตอนนี้รัสเซียโต้กลับด้วยการบุกไปแนวหลังของยูเครนลึกขึ้น ไครเมียและทะเลดำจึงกลายเป็นสมรภูมิร้อนที่เมกา-นาโต้ต้องช่วยเคียฟให้บรรลุเป้าหมาย ชิงคืนไม่ได้ก็ทำลาย สร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน และหวังให้เกิดความวุ่นวายภายในแผ่นดินรัสเซีย เพราะจนบัดนี้เมกา-นาโต้ยังไม่สามารถทำให้เคียฟพลิกเกมกลายเป็นฝ่ายชนะได้ในทุกพื้นที่!!??
