ขณะที่โลกพุ่งความสนใจไปที่สงครามตัวแทนยูเครน ที่นับวันส่อเค้าขยายวงเป็นศึกนาโต้กับรัสเซียและดึงให้สหรัฐฯต้องออกหน้ามากขึ้น สังเกตดูการเคลื่อนไหวในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่เพิ่งจบลงไป ที่มุมหนึ่งนอกรอบ กลุ่มอัสตานาที่ประกอบไปด้วย รัสเซีย-อิหร่าน-ตุรกีได้ประชุมหารือเรื่องซีเรียอย่างเคร่งเครียด เนื่องจากระยะนี้เมกา-อิสราเอลส่งบินรบมาทิ้งบอมบ์ที่ซีเรียบ่อยผิดสังเกต และยั่วยุบินเฉียดใกล้บินรบรัสเซียบ่อยมาก
วันที่ ๒๓ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และโกลบัลไทมส์ รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กระทรวงออกแถลงการณ์กรณีซีเรียระบุว่า “รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย อิหร่าน และตุรกี ได้แก่ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ฮอสเซน อามีร์-อับดุลลาห์ยัน และฮาคาน ฟิดาน ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของพวกเขาที่จะดำเนินการต่อไปเพื่อช่วยแก้ไขสถานการณ์ในซีเรียในการประชุมนอกรอบเซสชั่นสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เน้นย้ำถึง “ความจำเป็นในการระดมความช่วยเหลือจากต่างประเทศไปยังซีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการบูรณะใหม่หลังความขัดแย้ง และส่งเสริมการส่งผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกลับไปยังประเทศบ้านเกิดของตน”
กต.รัสเซียสรุปว่ารัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสามยังได้หารือกับเกอีร์ เพเดอร์เซน ทูตพิเศษประจำซีเรียของเลขาธิการสหประชาชาติ “ถึงวิธีการส่งเสริมกระบวนการทางการเมืองที่นำและเป็นเจ้าของโดยชาวซีเรียด้วยความช่วยเหลือของสหประชาชาติ ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจกับความจำเป็นในการรับรองกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพของคณะกรรมการรัฐธรรมนูญภายในซีเรีย และพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวซีเรียทุกคนที่ต้องการตามบรรทัดฐานและหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ” นั่นคือการประกาศจุดยืนของกลุ่มอัสตานา รัสเซีย-อิหร่าน-ตุรกีที่จะเข้ามาหนุนซีเรีย
ขณะเดียวกัน ปธน.อัสซาดเยือนจีนพบปธน.สี จิ้นผิง ได้ประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์จีน-ซีเรีย ท่ามกลางการก่อกวนของเมกาและพวกส่งบินรบถล่มชายแดนซีเรียเป็นระยะ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปธน.จีนสี จิ้นผิงของจีน และปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ร่วมกันประกาศการจัดตั้งหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ระหว่างจีน-ซีเรีย ในขณะที่ผู้นำทั้งสองพบกันที่หางโจว ก่อนการเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ ๑๙ เป็นครั้งแรกเกือบสองทศวรรษหลังจากการเยือนครั้งสุดท้ายของอัสซาดเยือนประเทศจีนในปี ๒๐๐๔
เมื่อพบกับอัสซาด สีกล่าวว่าซีเรียเป็นหนึ่งในประเทศอาหรับกลุ่มแรกๆ ที่สร้างความสัมพันธ์ทางการฑูตกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมสนับสนุนมติในการฟื้นฟูที่นั่งที่ถูกต้องตามกฎหมายของสาธารณรัฐประชาชนจีนใน สหประชาชาติ สีกล่าวย้ำว่า “จีนสนับสนุนซีเรียในการดำเนินการฟื้นฟู เสริมสร้างศักยภาพในการต่อต้านการก่อการร้าย และส่งเสริมการตั้งถิ่นฐานทางการเมืองในประเด็นซีเรียตามหลักการ “ที่นำโดยซีเรียและมีชาวซีเรียเป็นเจ้าของ”
จู หยงเปียว ผู้อำนวยการศูนย์อัฟกานิสถานศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยหลานโจว บอกกับโกลบอลไทมส์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การก่อตั้งความร่วมมือมีความสำคัญในทางปฏิบัติอย่างยิ่งต่อทั้งสองฝ่าย และมีศักยภาพมากมายสำหรับการพัฒนาในอนาคต นอกจากนี้ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ด้วย เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ซีเรียพัวพันกับความวุ่นวายที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
สำหรับซีเรีย การสร้างความร่วมมือกับจีนเป็นทางออกจากการแยกตัวทางการฑูต โดยเน้นย้ำถึงความล้มเหลวของสหรัฐฯ และพันธมิตรในการโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด
หลังการประชุม ประมุขแห่งรัฐทั้งสองได้เป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงความร่วมมือหลายฉบับ รวมถึงการร่วมกันก่อสร้างโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง การแลกเปลี่ยนการพัฒนาเศรษฐกิจ และความร่วมมือทางเทคโนโลยี
ความคุกรุ่นที่ชายแดนซีเรีย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เมกาไม่มีวันยอมถอยจากตะวันออกกลางและไม่ยอมปล่อยมือจากการปล้นน้ำมันซีเรียแน่ ทุกวันมีการส่งบินรบของเมกา-อิสราเอลมาทิ้งบอมบ์อ้างโจมตีก่อการร้าย เฉี่ยวกับบินรบซีเรีย-รัสเซียทุกวันเสี่ยงปะทะในวันใดวันหนึ่ง กรณีของซีเรียวันนี้จะเห็นผู้เกี่ยวข้องสองฝ่ายอย่างชัดเจน คือ ซีเรีย-รัสเซีย-อิหร่านและวันนี้มีจีนมาหนุนอีกหนึ่งแรง ฝ่ายสหรัฐแทคทีมอิสราเอลอย่างเหนียวแน่นอ้างสารพัดเหตุผล ไม่สนใจแม้โลกจะรู้แล้วว่าสหรัฐฯปล้นน้ำมันซีเรีย แต่องค์กรโลกบาลทั้งหลายเงียบกริบ เมื่อเจ้าของบ้านหันมาสู้และมีพันธมิตรที่แน่นแฟ้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ จุดวาบไฟตรงนี้จึงไม่อาจมองข้าม !!?