ท่ามกลางศึกนากอร์โน-คาราบัคห์ ปูตินหย่าศึกทำให้ยุติยิงได้ในบัฟเฟอร์สเตทขณะเดียวกันได้ส่งแม่ทัพใหญ่รัสเซียไปพบแม่ทัพอิหร่านหารือเรื่องนี้ ในฐานะที่อยู่ติดรั้วบ้านของทั้งสองประเทศ ขณะที่ผู้นำอิหร่านไปพูดที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นิวยอร์ก ประณามสหรัฐฯฐานเป็นต้นตอวิกฤตสงครามยูเครนและวิกฤตขัดแย้งทั่วโลก
วันที่ ๒๒ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซนิมนิวส์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ในการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งจัดขึ้นในกรุงเตหะรานเมื่อวันพุธ ที่ผ่านมา รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน นายพลโมฮัมหมัด เรซา อัชติอานี แสดงความต่อต้านอย่างดุเดือดของอิหร่านต่อการมีกองกำลังทหารนอกภูมิภาคอยู่ในภูมิภาคนี้ เกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งใหม่ในภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคห์ นายพลอิหร่านกล่าวว่าเตหะรานเชื่อว่ารูปแบบที่เสนอ ๓+๓ เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับการแก้ปัญหาอย่างสันติในคอเคซัส
นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำว่าการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศในภูมิภาคและขอบเขตระหว่างประเทศถือเป็นเส้นสีแดงสำหรับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับภูมิภาคและระหว่างอิหร่านและรัสเซียในการรับประกันความปลอดภัยและผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ
อัสติอานีกล่าวว่าประเด็นสำคัญในความร่วมมือทวิภาคีคือการจัดการกับความท้าทายร่วมกัน รวมถึงลัทธิฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ
รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เกย์ ชอยกู ยกย่องความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเชิงกลยุทธ์ระหว่างมอสโกว์และเตหะรานยกระดับลึกซี้งยิ่งขึ้น
เขากล่าวว่าปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศจะสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคและมีส่วนทำให้เกิดระบบพหุภาคี ชอยกูยกย่องแนวคิดรูปแบบ 3+3 ในการแก้ไขข้อขัดแย้งในคอเคซัส และสนับสนุนจุดยืนของอิหร่านต่อการพัฒนาคอเคซัส และประณามการแทรกแซงจากภายนอกโดยตะวันตก เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการริเริ่มระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับรัฐในภูมิภาค
นอกจากนี้แม่ทัพรัสเซียได้เข้าชมความสำเร็จล่าสุดของอิหร่านในด้านเทคโนโลยีขีปนาวุธ โดรน และเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศขั้นสูง
ผู้บัญชาการกองกำลังการบินและอวกาศหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม อามีร์-อาลี ฮาจิซาเดห์ และผู้บัญชาการอาวุโสของอิหร่านคนอื่นๆให้การต้อนรับและพาแม่ทัพรัสเซียเยี่ยมชมอุทยานการบินและอวกาศแห่งชาติ นิทรรศการถาวรเกี่ยวกับกองทัพและอวกาศในกรุงเตหะราน
เซวอม คอร์แดด(Sevom Khordad)ระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลางเคลื่อนที่บนถนนของอิหร่าน มีชื่อเสียงในการยิงโดรนสายลับ Global Hawk RQ-4A ของสหรัฐฯ ตกเหนือน่านน้ำอิหร่านในช่องแคบฮอร์มุซในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๒ มีโดรนติดอาวุธ HESA Shahed 136จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีFattah ซึ่ง เป็นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยกลางแบบใหม่ที่คล่องแคล่วของอิหร่าน
ขณะเดียวกันมีเรื่องฮือฮาจัดในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นิวยอร์ก ปธน.อิบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่านออกมากล่าวประณามสหรัฐฯเป็นต้นตอของปัญหาวิกฤตสงครามตัวแทนในยูเครนและลามไปถึงวิกฤตการณ์ต่างๆในโลก ด้านอิสราเอลออกมาประท้วงขณะผู้นำอิหร่านกำลังพูดถึงปัญหาในปาเลสไตน์และการข่มเหงรังแกของอิสราเอล ในที่สุดถูกเจ้าหน้าที่เชิญออกจากห้องประชุม แต่สื่อตะวันตกหลายสำนักรายงานว่า อิสราเอลประท้วงโดยวอร์กเอ้าท์ ความจริงทำสิ่งไม่เหมาะสมเลยถูกเชิญออกจากห้องต่างหาก
สุนทรพจน์ของผู้มีชัยของ Raisi ยืนยันว่าเขาเอาชนะความพยายามด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ ที่จะโค่นล้มระบอบการปกครองของเขา ยืนยันว่าอนาคตเป็นของประเทศอิหร่านที่อำนาจภายนอกไม่อาจแทรกแซงได้ และยุคสมัยของตะวันตกสิ้นสุดลงแล้ว
ไม่มีประเทศใดในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติจะพูดตรงไปตรงมาเท่าผู้นำอิหร่านอีกแล้ว และไม่มีใครวอร์กเอ้าท์ไม่ฟังนอกจากอิสราเอลซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงและได้รับการสนับสนุนจากเมกา-ตะวันตก โลกกำลังเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อBRICS แจ้งเกิดและเติบใหญ่ อำนาจบารมีของกลุ่มแองโกลแซกซอนมหาอำนาจเดี่ยวกำลังเสื่อมถอยโดยอัตราเร่งที่ใครก็ไม่อาจยับยั้งได้!!