สื่อสิงคโปร์เผยรายงานพิเศษ!สุดทึ่งน้ำใจคนไทยแบ่งปันอาหารช่วงล็อกดาวน์

0

จากมาตรการล็อกดาวน์หยุดแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบกับประชาชน ซึ่งรัฐบาลไทยก็ได้ช่วยเหลือเยียวยาหลายอย่างรวมทั้งคนไทยที่มีน้ำใจน่าชื่นชม จนวันนี้สื่อสิงคโปร์ต้องนำเสนอไว้อย่างน่าทึ่งสำหรับประเทศไทย

โดยวันนี้(1 พ.ค. 63) มีความเคลื่อนไหวจาก สำนักข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์ ที่ได้เสนอรายงานพิเศษ “United in kindness, Thais launch food campaign for those left out of government’s COVID-19 measures” ซึ่งเผยแพร่ความพยายามของคนไทยในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ “ล็อกดาวน์ (Lockdown)” ที่รัฐบาลสั่งปิดกิจการต่างๆ เพื่อลดการรวมตัวของกลุ่มคนอันเป็นช่องทางการระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้รายงานพิเศษชิ้นนี้ของ Channel News Asia มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเนื้อหาบางส่วนระบุถึงชีวิตของ Pattawadee ‘Dao’ Boonsamak แม่ค้าแผงลอยรถเข็นขายข้าวไข่เจียวในกรุงเทพฯ เมื่อวิกฤติโควิด-19 ทำให้สูญเสียรายได้ไปถึงร้อยละ 70 เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากกลายเป็นคนตกงาน

แม้ข้าวไข่เจียว 1 จานจะมีราคาเพียง 1 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30 บาท ก็ยังไม่มีเงินซื้อโดย Dao เล่าว่า เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน วันที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายแรกตนยังไม่รู้สึกอะไร กระทั่งมีการสั่งปิดห้างสรรพสินค้าและธุรกิจอื่นๆ ทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยสำหรับตนหมายถึงลูกค้าซึ่งทำงานกลางวันได้หายไป

คนไทยจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล นำมาสู่การที่ประชาชนต้องหยิบยื่นน้ำใจช่วยเหลือกันเอง อย่าง อริสา โพธิ์ชัยสาร (Arisa Phochaisarn) นักศึกษาระดับปริญญาเอกด้านการแพทย์ สุขภาพและสังคมศาสตร์ (medical and health social sciences) มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ตนกำลังดูความแตกต่างของสังคม ระบบสนับสนุนที่เป็นแบบคัดสรรและกระบวนการวางแผนไม่ได้นับรวมคนชายขอบ

“เราคิดเกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถช่วยเหลือคนเหล่านี้ซึ่งรัฐบาลมองไม่เห็นหรือเข้าไม่ถึง จากนั้นเพื่อนคนหนึ่งบอกฉันเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า Pay it Forward ซึ่งคุณจ่ายค่าอาหารล่วงหน้าเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ นั่นเป็นวิธีที่ฉันสนใจแนวคิดและเริ่มออกแบบคูปองอาหาร ในวันแรกฉันมอบคูปองให้กับร้านค้า 2-3 แห่งและขอให้ผู้ขายมอบอาหารให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง” อริสา กล่าว

ทั้งนี้เดือน เม.ย. 2563 อริสาและเพื่อนฝูงเริ่มระดมทุนลงขันกันเอง แม้กระทั่งนักวิจัยและแพทย์ที่กำลังรักษาผู้ป่วยจากไวรัสโควิด-19 ก็มาร่วมสนับสนุนด้วย กองทุนถูกใช้เพื่อแจกจ่ายคูปองไปตามร้านอาหารต่างๆ มีราคาตั้งแต่ 0.6-1.2 เหรียญสหรัฐ หรือราว 20-40 บาท ต่อคน ครอบคลุมอาหารและเครื่องดื่ม

โครงการ Pay it Forward มีมาก่อนการระบาดของโควิด-19 แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่วันนี้มันถูกจุดประกายจนแผ่ขยายไปทั่วประเทศ บนโลกออนไลน์ผู้คนช่วยกันระบุที่ตั้งร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ และคนอีกมากมายติดต่อขอรับคูปอง เด็กบางคนมาจากสลัม ฉันได้รับข้อความจากหน้าหนังสือเด็กที่ฉีกขาด ข้อความนั้นเขียนว่า

‘พี่สาว! หนูไม่มีเงินและต้องการรับอาหาร 3 กล่องสำหรับเด็กๆ’ ตอนนี้โครงการได้ขยายไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศไทย มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันมีในหลายจังหวัด รวมถึงอุตรดิตถ์ อุทัยธานี ขอนแก่น นครราชสีมา สระบุรี พระนครศรีอยุธยา อุบลาราชธานีและปัตตานี มันใหญ่ขึ้นจนเกินกว่าที่ฉันคาดหมาย มันยอดเยี่ยมมาก” อริสา ระบุ

นอกจากนี้รายงานยังเผยแพร่ว่า รัฐบาลไทยได้จัดมาตรการ “เราไม่ทิ้งกัน (We Don’t Leave Anyone Behind)” โดยจะมอบเงินช่วยเหลือ ให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ในความเป็นจริงผู้คนจำนวนมากเข้าไม่ถึง การลงทะเบียนออนไลน์นั้นช้าและซับซ้อนสำหรับคนไทยที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล และมีส่วนหนึ่งเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต

ขอบคุณ : ที่มาภาพ-ข้อมูล Channel News Asia สิงคโปร์

(อ่านรายละเอียด) เว็บไซต์ https://www.channelnewsasia.com/news/asia/thais-campaign-covid19-victims-left-out-by-government-12680708