สถานการณ์ในอาฟริกา ขยับเข้าใกล้ศึกใหญ่อีกครั้ง เมื่อมาลี ไนเจอร์ และบูร์กินาฟาโซได้ลงนามในสนธิสัญญาความมั่นคง Sahel ประกาศพร้อมลุยสู้ฝรั่งเศสและพวกที่จ่อคุกคามทางทหารทุกรูปแบบ ในโซเชียลมีการเคลื่อนไหวของกองกำลังวากเนอร์ เดินทางลงมาประจำการในมาลีอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เมกาพยายามสร้างภาพว่าไม่เกี่ยวแต่ไม่ยอมย้ายออก แค่ย้ายค่ายกองทัพโดรนไปอยู่นอกเมืองหลวง ความพยายามยามเจรจาผลประโยชน์กับคณะรัฐประหารดูจะไม่ค่อยได้ผล ไม่สีเสียงตอบรับแม้จะทอดเวลามานานคาดไฟเขียวให้มาครองลุยขยี้ไนเจอร์ รักษาส่วนแบ่งผลประโยชน์เดิมดีกว่าเสียทั้งหมด
วันที่ ๑๘ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ และอาฟริกานิวส์รายงานว่า รัฐบาลทหารของสามรัฐในแอฟริกา ซึ่งล้วนโค่นล้มผู้นำที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้ตกลงที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม ในกรณีที่เกิดการรุกรานจากภายนอกหรือภัยคุกคามภายในต่ออธิปไตยของพวกเขา
อัสซิมี โกอิตา ประธานาธิบดีชั่วคราวของมาลี กล่าวเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าเขาลงนามในกฎบัตรลิปตาโก-กูร์มากับผู้นำบูร์กินาฟาโซและไนเจอร์ “โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างกรอบการป้องกันร่วมกันและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
“การโจมตีใดๆ ต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของฝ่ายที่ทำสัญญาตั้งแต่หนึ่งฝ่ายขึ้นไปจะถือเป็นการรุกรานต่ออีกฝ่าย”ตามข้อความในกฎบัตร
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเรื่องนี้ระบุว่ากฎบัตรดังกล่าวได้จัดตั้งพันธมิตรรัฐ Sahel ซึ่งประกอบด้วยสามประเทศที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นสมาชิกของสนธิสัญญา G5 Sahel ที่ได้รับการสนับสนุนจากปารีสกับชาดและมอริเตเนีย และได้ล่มสลายหลังจากการรัฐประหารหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้มาลีและบูร์กินาฟาโซระบุไว้ว่าการโจมตีใดๆ ต่อไนเจอร์จะเป็น“การประกาศสงคราม”ต่อพวกเขาเช่นกัน หลังจากที่เพื่อนบ้านของไนเจอร์หลายคนจากประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) ขู่ว่าจะส่งทหารไปฟื้นฟูประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด บาซูมที่ถูกโค่นล้ม
ปารีสถูกบังคับให้ถอนทหารออกจากมาลีหลังจากเกิดความตึงเครียดกับรัฐบาลทหารในปี ๒๕๖๓ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ปารีสก็ถอนทหารออกจากบูร์กินาฟาโซด้วยหลังจากที่ผู้ปกครองทหารของประเทศสั่งให้พวกเขาออกไป
ผู้นำรัฐประหารของไนเจอร์ยังได้ยกเลิกข้อตกลงทางทหารที่อนุญาตให้กองกำลังฝรั่งเศสต่อสู้กับนักรบญิฮาดในภูมิภาคซาเฮล โดยให้เวลาเพียงเดือนเดียวเท่านั้นที่จะถอนทหารออกจากประเทศทั้งหมด ๑,๕๐๐ นาย แต่ฝรั่งเศสเพิกเฉยต่อคำขาดไม่ถอนเอกอัครราชทูตและทหารของตนออกไป เนื่องจากปฏิเสธที่จะยอมรับอำนาจของผู้นำคนใหม่ แม้จะถูกปิดล้อมบีบทั้งปิดไฟ งดส่งอาหารน่าแปลกว่าทำไมยังอยู่ต่อได้
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวของกองทหารฝรั่งเศสที่ประจำการในกลุ่มประเทศสมาชิกอิโควาส ขณะเดียวกันมาครงและแม่ทัพฝรั่งเศสประกาศกร้าวจะตอบโต้หากละเมิดทหารของฝรั่งเศส ท่าทีทางการทูตสหรัฐวางเฉยผิดปกติ ทั้งไม่ประณามการยึดอำนาจของไนเจอร์ว่าเป็นการรัฐประหารจนถึงบัดนี้
พันเอกอมาดู อับดรามาเน โฆษกรัฐบาลใน นีอาเม กล่าวในแถลงการณ์ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ กล่าวว่า“ฝรั่งเศสยังคงส่งกองกำลังในประเทศ ECOWAS (ชุมชนเศรษฐกิจของรัฐแอฟริกาตะวันตก) หลายแห่ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการรุกรานไนเจอร์ ซึ่งกำลังวางแผนร่วมกับองค์กรชุมชนนี้”
ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับการเผชิญหน้าระหว่าง ประเทศผู้ขับไล่เจ้าอาณานิคมเก่าไนเจอร์กับฝรั่งเศส ฝ่ายหนึ่งเตรียมเคลื่อนพลอยู่รอบๆรอจังหวะเวลา ฝ่ายไนเจอร์ก็ลงนามอย่างเป็นทางการพันธมิตรร่วมรบ จัดตั้งเป็นสหภาพซาเฮล ปักหลักสู้ ไม่นานสงครามเดือดที่ไนเจอร์จึงไม่น่าจะหลีกเลี่ยงได้!!??
