สหรัฐฯยังคงเพิกเฉยต่อคำเตือนของรัสเซียซ้ำแล้วซ้ำอีกเกี่ยวกับอันตรายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเมกา-นาโต้ส่งอาวุธขั้นสูงไปยังยูเครน วอชิงตันและพันธมิตรได้เคลื่อนไหวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อจัดหาขีปนาวุธร่อนระยะไกล คลัสเตอร์บอมบ์ และอาวุธยูเรเนียมที่หมดสิ้นลงให้กับเคียฟ ขณะที่หน้างานในสนามรบยูเครน กองทหารรัสเซียเปลี่ยนแนวรบเป็น “ทุ่นระเบิดขนาดใหญ่” ปราบเคียฟ-นาโต้แพ้หลุดลุ่ยมากว่า ๓ เดือน
ล่าสุดนักวิเคราะห์อดีตCIA หวั่นใจว่าสหรัฐฯ อาจมอบมินินิวเคลียร์ให้ยูเครนหลังจากส่งระเบิดคลัสเตอร์ให้เพื่อต้องการชัยชนะยืนยันความเหนือกว่าก่อนเลือกตั้ง
ด้านรัสเซีย ได้อวดเครื่องบินตัวเด่นแก่ผู้นำเกาหลีเหนือ พร้อมขีปนาวุธเหนือเสียงคินซาลตัวดุ ส่งสัญญาณกลายๆว่า กำลังยกระดับแนวรบทางอากาศอย่างดุดันเครื่องบินบรรทุกขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ Tu-160 ของรัสเซียจะติดอาวุธด้วยขีปนาวุธร่อน Kh-BD ตัวใหม่ วิสัยการยิงเกิน 6 กิโลเมตร
นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมได้เปิดตัว EWF:คระสุคา’Krasukha’: ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่รัสเซียเชื่อว่าไม่มีใครเทียบได้ใหม่ของรัสเซีย กราสุคา-เอส4 ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำให้ดาวเทียมสอดแนม เรดาร์ภาคพื้นดิน และระบบทางอากาศไม่มีประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง ซึ่งบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยการสร้างสัญญาณรบกวนที่กำหนดเป้าหมายไปที่ความถี่เรดาร์หลักและแหล่งปล่อยคลื่นวิทยุอื่นๆ ไม่นับการเปิดเผยการใช้งาน บินรบสุคอยรุ่นใหม่ๆ ทั้ง Su-34, Su-57
สถานการณ์วันนี้ร้อนระอุ ด้วยท่าทีเมกา-นาโต้ขยับแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
วันที่ ๑๘ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า อดีตเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯเรย์ แม็คโกเวิร์น (Ray McGovern) เกรงกลัวสถานการณ์จะบานปลายคุมไม่อยู่ เพราะไบเดนหลังพิงฝา
McGovern ถกเถียงในพอดแคสต์ร่วมกับ Scott Ritter คู่หูอดีตCIA ทั้งคู่ เขาเล่าว่า “การติดอาวุธให้กับเคียฟอาจเป็นการจัดหาอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กให้กับลูกค้า ซึ่งเวลานี้หมายถึงยูเครน” ปธน.โจ ไบเดนกล่าวว่า“กระสุนเรากำลังจะหมด ‘โอเค ให้กระสุนเพิ่มเติมแก่ชาวยูเครนกันเถอะ’ และที่ปรึกษาของเขากล่าวว่า ‘เราต่ำเกินไป’ แล้วเรามีอะไรอีกบ้าง? เราไม่มีกระสุนขนาด 155 มม. สำหรับปืนครกของเราและอื่นๆ อีก แต่เราสามารถจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้พวกเขาได้ ตอนนี้เรากำลังมอบเปลือกยูเรเนียมที่หมดสภาพให้พวกเขาแล้ว และขั้นตอนต่อไปคืออะไร? ขั้นต่อไปก็คือมินินิวเคลียร์เล็กๆ พวกนี้ เราจะให้สิ่งนั้นแก่พวกเขา หากแรงผลักดันเข้ามาบีบ”
อดีตเจ้าหน้าที่ CIA แสดงความกังวลอย่างสุดซึ้งว่าชาวอเมริกันจำนวนมากยังคง “เตรียมพร้อมที่จะถูกนำไปสู่สงครามกับรัสเซีย” และยอมรับสถานการณ์ที่เป็นไปได้ที่ฝ่ายบริหารของไบเดนลงพื้นที่ในยูเครนในภารกิจของพวกเขาที่จะ “ทำให้รัสเซียอ่อนแอลง” และก่อ “ความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์” ต่อมอสโกว์ และนี่เป็นสถานการณ์ที่อาจบานปลายไปสู่สงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว
“ตั้งแต่สมัยผมย้อนกลับไปในยุค ๘๐ ยังไม่มีภัยคุกคามจากรัสเซียเลย คุณจะได้ยินคนพูดว่ารัสเซียต้องการยึดครองยูเครน ต้องการยึดครองโปแลนด์และทะเลบอลติค นั่นคือสิ่งที่คนอังกฤษเรียกว่าขยะ นี่เป็นสงครามป้องกัน เป็นสงครามยึดครองถ้าคุณต้องการ ปธน.ปูตินไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว และใครเป็นคนผิด? คุณรู้ไหมว่าผู้คนพูดว่า ‘ส่วนใหญ่มันเป็นความผิดของเรา’ มันเป็นความผิดของอเมริกา ๑๐๕ เปอร์เซ็นต์ และฉันสามารถพิสูจน์ให้คุณได้”
การออกมาส่งเสียงเตือนของอดีตCIA ส่งสัญญาณว่าเมกาส่อแววจะส่งมินินุกส์ให้เคียฟ โอกาสศึกใหญ่ระหว่างเมกา-รัสเซียอาจเร็วกว่าที่คิด เพราะรัสเซียขยับแล้วทางทางทะเล และอาวุธทางท้องฟ้า ที่นักวิเคราะห์ค่ายสหรัฐฯยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าปูตินกำลังเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ด้วยการมุ่งสู่อำนาจสูงสุดของภาคท้องฟ้าในศึกที่กำลังจะมาถึง คลื่นรังสีพิฆาตกำลังเอิบอาบท้องฟ้าเหนือสมรภูมิยูเครนและอาจยาวไปถึงผู้สนับสนุนหลักอย่างลอนดอน-วอชิงตัน ไม่ว่าใครจะเปิดเกมก่อน!!