กลุ่มติดอาวุธยูเครนผ่านการฝึกอย่างกว้างขวางในประเทศ NATO และได้รับการติดตั้งรถถังใหม่ ซึ่งรวมถึงรถถังประจัญบาน Leopard 2 ระดับแนวหน้า แต่ปรากฎว่ารถหุ้มเกราะเหล่านี้เสี่ยงต่อการถูกไฟไหม้เช่นเดียวกับอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆและความพยายามครั้งใหม่ของกองทหารยูเครน ที่จะรุกตอบโต้อีก ก็ส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างร้ายแรงต่อกำลับรบของพวกเขา
ล่าสุดกระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่วีดิโอการปฏิบัติงานของนาวิกโยธินแปซิฟิกของรัสเซีย ทำการขับไล่การโจมตีของยูเครนที่อูเกลดาร์ ตอกย้ำการรุกกระหน่ำของรัสเซียที่เกิดขึ้นทุกวันในแนวหน้า
วันที่ ๑๕ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า กระทรวงกลาโหมเปิดเผยผลการปฏิบัติงานการสู้รบใน ๓ ภูมิภาค โดเนตสค์ ซาโปริชเชีย คาร์คอฟ
ในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนสูญเสียทหารประมาณกว่า ๗๐๐นายใน ๓ภูมิภาค พร้อมเสริมว่ากองกำลังรัสเซียสามารถต้านทานการโจมตีได้ ๑๑ ครั้งในพื้นที่เหล่านี้
“ในทิศทางโดเนตสค์ ในระยะเวลา ๑ วันมีจำนวนทหารยูเครนมากถึง ๓๕๐ นายที่ถูกสังหารและบาดเจ็บ รถหุ้มเกราะ ๓ คัน ยานพาหนะ ๕ คัน ระบบ ปืนใหญ่ M777 สาม ระบบ และปืนครก M109 ที่ผลิตในสหรัฐฯ หนึ่งกระบอก รวมถึงปืน D-30 หนึ่งตัว การโจมตี ๘ ครั้งของยูเครนถูกขับไล่ถอยร่น
ในทิศทางซาโปโรเชีย กองทัพรัสเซียยังได้ขับไล่การโจมตี ๓ ครั้งใกล้กับนิคมแวร์โบโวเย ซึ่งเคียฟสูญเสียทหารไปมากถึง ๙๕ นายและรถถัง ๑ คัน
“ในทิศทางทางใต้ของโดเนตสค์ ทหารยูเครนสูญเสียมากถึง ๑๔๐ นาย รถถัง ๑ คัน รถหุ้มเกราะ ๒ คัน และรถยนต์ ๒คัน” กระทรวงกล่าว พร้อมเสริมว่ากองทัพรัสเซียขับไล่การโจมตี ๑ ครั้งในทิศทางนี้
นอกจากนี้มีการโจมตีอีกครั้งในภูมิภาคคาร์คอฟ เมืองคูเปียนสค์ ซึ่งเคียฟสูญเสียทหารไปมากถึง ๑๓๐ นาย
พลเอกเซอร์เก ชอยกูรัฐมนตรีกลาโหมกล่าวว่า “สถานการณ์ในแนวรบซาโปโรเชียเป็นเรื่องที่ตึงเครียดที่สุด กองทัพยูเครนได้นำกองทหารจำนวนมากเข้าสู่การรบจากกองหนุนทางยุทธศาสตร์ของพวกเขา ซึ่งบุคลากรได้รับการฝึกฝนภายใต้การแนะนำของอาจารย์ชาวตะวันตก แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเหลวและสูญเสียกำลังพลและยุทโธปกรณ์อย่างมาก”
ภายใต้สถานการณ์ขับเคี่ยวที่แนวหน้า กองทัพรัสเซียจะได้รับเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-160M ใหม่อีก ๔ ลำ และเครื่องบินขนส่งทางทหาร Il-76 ที่ทันสมัย ๖ ลำ เร็วๆนี้!!