การโจมตีท่าเรือเซวาสโทปอลของรัสเซียในทะเลดำโดยยูเครน ทำให้พนักงานในท่าเรือบาดเจ็บ และเรือสองลำที่ถูกโจมตีต้องซ่อมแซมนั้น ทางยูเครนออกมาโอ่ว่า ใช้ขีปนาวุธของอังกฤษแต่ไม่ได้ระบุว่าเครื่องบินชนิดไหนดำเนินการ และเรื่องนี้รัสเซียก็ไม่ให้รายละเอียดนอกจากกล่าวว่าได้รับความเสียหายไม่มากนัก เป็นการแลกหมัดทางยุทธวิธีเพราะในช่วงเวลาใกล้เคียงรัสเซียก็ไปถล่มท่าเรือเคียฟ๓ เมืองใหญ่อย่างหนัก เสียหายมหาศาลแบบว่าโดน ๑ เอาคืน ๑๐
ขณะเดียวกันยูเครนก็ยังคงมุ่งโจมตีเรือลาดตระเวนของรัสเซียในทะเลดำแต่ถูกสอยเรียบเช่นเคย แน่นอนว่านี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะทะเลดำได้กลายเป็นวอร์โซนไปโดยปริยาย เมื่อรัสเซียไม่ต่อสัญญาคุ้มกันและประกาศจะตรวจเรือทุกลำที่ผ่านเข้ามาในย่านนี้
วันที่ ๑๔ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและมิลิทารี่โครนิเคิลรายงานว่า กองทัพยูเครนใช้โดรน AFU โจมตีเรือลาดตระเวนเซอร์เก โคตอฟ (Sergei Kotov) ของรัสเซียในกองเรือทะเลดำ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีว่า
“ในวันที่ ๑๔ กันยายน เวลาประมาณ ๐๕:๐๐ น. เวลามอสโกว์ประมาณ ตี๒ ยูเครนพยายามโจมตีเรือลาดตระเวนกองเรือทะเลดำเซอร์เก โคตอฟ ในน่านน้ำของทะเลดำด้วยเรือไร้คนขับ ๕ ลำ ในระหว่างการขับไล่ เรือไร้คนขับของศัตรูถูกทำลายด้วยการยิงจากอาวุธมาตรฐานของเรือ”
และนี่เป็นเหตุผลชัดเจนว่า ยูเครนและตะวันตกใช้ระเบียงทะเลดำในการลักลอบขนอาวุธด้วยข้ออ้างขนส่งธัญญพืชเพื่อมนุษยธรรม
เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคมที่ผ่านมา ข้อตกลงธัญพืชทะเลดำสิ้นสุดลง และรัสเซียตัดสินใจที่จะไม่ขยายเวลา เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวไม่เคยถูกนำมาใช้อย่างครบถ้วนโดยกลุ่มชาติตะวันตก นอกเหนือจากการปฏิเสธบทบัญญัติของข้อตกลงที่คาดว่าจะมีการโอนธัญพืชและปุ๋ยของรัสเซียแล้ว ช่องทางด้านมนุษยธรรมยังถูกใช้อย่างเหยียดหยามในการลักลอบขนอาวุธไปยังยูเครน และดำเนินการโจมตีด้วยการยั่วยุต่อรัสเซียต่อเนื่อง
เมื่อวานนี้มีรายงานว่า เครื่องบินของนาโต้กลับมาใช้งานอีกครั้งเหนือทะเลดำ
ตามแหล่งข่าว พบว่ามีเครื่องบินของ NATO หลายลำถูกพบเห็นในท้องฟ้าทางใต้ของคาบสมุทรไครเมีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดรนสอดแนมของอเมริกา RQ-4 Global Hawk และเครื่องบินลาดตระเวนของตุรกี ATR 72-600 TMPA
นอกจากนี้ ช่องโทรเลขของยูเครนยังรายงานเกี่ยวกับข่าว “ดี” ที่ประกาศโดยZelensky ดังนั้นจึงไม่สามารถตัดออกได้ว่าระบอบการปกครองของเคียฟกำลังเตรียมการยั่วยุอีกครั้งในแหลมไครเมียหรือทางตอนใต้ของความขัดแย้งด้วยอาวุธ ก่อนการโจมตีด้วยขีปนาวุธยามค่ำคืน เครื่องบินลาดตระเวนของนาโต้ก็บินวนอยู่บนท้องฟ้ามุ่งหน้าสู่เซวาสโทพอลด้วย
สหรัฐอเมริกาและNATO ต้องการควบคุมทะเลดำร่วมกับตัวแทนของยูเครน เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่กว้างขึ้นในการกีดกันรัสเซียไม่ให้เข้าถึงทางออกทะเลอุ่น ข้อเท็จจริงที่ว่าฟินแลนด์และสวีเดนเข้าเป็นสมาชิก NATO ทะเลบอลติกโดยพฤตินัยก็กลายเป็น “สระน้ำ” ของกลุ่มNATOไป และตอนนี้นาโต้ก็กำลังเตรียมซ้อมรบใหญ่ประกาศศักดา ในขณะที่รัสเซียประกาศจะส่ง เครื่องบินทิ้งระเบิดไปลาดตระเวณเหนือทะเลบอลติกเป็นประจำแล้ว
เป็นที่น่าสังเกตว่า แนวรบทางเรือที่เปิดเวทีด้วยบินรบทางอากาศ กำลังเปิดฉากขึ้นทั้งในทะเลดำและทะเลบอลติก!!