ตะวันตกตาโพลงเมื่อข่าวผู้นำเกาหลีเหนือพบผู้นำรัสเซีย นานาชาติทั่วโลกต่างสนใจผลการพบกันของคู่หูสุดแสบของเมกา-นาโต้อย่างกว้างขวาง ล่าสุดปธน.ปูตินแห่งรัสเซียได้ต้อนรับประธานคิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือ และได้จัดการพูดคุยอย่างกว้างขวางเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประเด็นนี้นักวิชาการจีนชี้ว่า การพบปะระหว่างปูตินและคิมถือเป็นประวัติศาสตร์ของอำนาจโลกหลายขั้วที่กำลังขับเคี่ยวกับอำนาจเดี่ยวของโลกเก่าอย่างเข้มข้น
วันที่ ๑๔ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิก-รัสเซียทูเดย์และทาซซ์ รายงานเป็นหนึ่งเดียวกันถึงการเดินทางของผู้นำเกาหลีเหนือเยือนรัสเซีย พบปธน.ปูติน ครั้งแรกในรอบ ๔ ปีที่เจอกันแบบพบหน้า เป็นที่จับตาของทั้งโลกโดยเฉพาะเมกาและพันธมิตร
ศาสตราจารย์ดร. คิยูล ชุง เป็นหัวหน้าบรรณาธิการของ 4th Media และเกษียณอายุของมหาวิทยาลัยซินหัว บอกกับสปุตนิกว่า “การประชุมสุดยอดประวัติศาสตร์ เกาหลีเหนือ-รัสเซียในวันนี้ ที่วอสตอชนี-คอสโมโดรม ในรัสเซีย ถือเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง” “การประชุมสุดยอดปี ๒๐๒๓ ถือเป็นการสิ้นสุด กำหนดนิยาม รวบรวม และเป็นสักขีพยานการมาถึงของโลกหลายขั้วที่ต่อต้านจักรวรรดินิยมและเป็นผู้กำหนดตนเองแห่งศตวรรษที่ ๒๑”
ดร.ชุงระบุว่า “ทั้ง DPRK และรัสเซียกำลังเผชิญกับภัยคุกคามทุกประเภทจาก ‘อำนาจเดียวที่ครอบงำโดยตะวันตกซึ่งยาวนานถึงห้าศตวรรษ’ ที่ล่มสลายไปแล้ว หนึ่งในภัยคุกคามที่อำนาจเก่าหวั่นเกรงคือการดำรงอยู่ของทั้งสองประเทศ”
ดร. ชุงย้ำว่า “การประชุมสุดยอดคิม-ปูตินเป็นอันดับแรกและสำคัญที่สุด เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่จะลบล้าง ทำให้สงบลง หรือทำลายความพยายามใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเกมสงครามนิวเคลียร์ฆ่าตัวตายที่นำโดยสหรัฐฯ โดยเฉพาะทั้งในคาบสมุทรเกาหลีและยูเครน และท้าทายการคว่ำบาตรที่ผิดกฎหมายของชาติตะวันตกอย่างเปิดเผย”
สรุปคร่าวๆตามที่สื่อหลักของรัสเซียสะท้อนไว้ดังนี้:
๑.การพูดคุยที่คอสโมโดรม คิมมาถึงรัสเซียด้วยรถไฟส่วนตัว ซึ่งเป็นวิธีการเดินทางที่ทั้งพ่อและปู่ของเขาใช้เมื่อเป็นผู้นำเกาหลีเหนือ จุดหมายปลายทางหลักคือศูนย์ปล่อยยานอวกาศขั้นสูงในภูมิภาคอามูร์ มีการเจรจาทวิภาคีสองรอบเกิดขึ้นระหว่างคณะผู้แทนของทั้งสองชาติ จากนั้นจึงเป็นคุยต่อหน้ากันระหว่างปูตินและคิม และการประชุมส่วนตัวของทั้งสองไม่มีการเผยแพร่รายละเอียดถือเป็นความลับ
๒.การสนับสนุนอย่างแน่วแน่ของเปียงยาง ในระหว่างการเดินทางและให้สัมภาษณ์ คิมแสดงการสนับสนุนรัสเซียอย่างไม่เปลี่ยนแปลงต่อสิ่งที่เขาเรียกว่าการต่อสู้ร่วมกันกับ”พลังอำนาจ”และ”ลัทธิจักรวรรดินิยม”
๓.ความร่วมมือทางทหาร วอชิงตันเต้นเร้ามาหลายเดือนเมื่อรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เกย์ ชอยกู เยือนเกาหลีเหนือก่อนหน้านี้ การประชุมครั้งนี้ได้ตอกย้ำความกังวลของเมกาแม้ไม่ประกาศรายละเอียด แต่ส่งสัญญาณบอกตะวันตกว่าการร่วมมือระหว่างรัสเซีย-เกาหลีเหนือทางยุทธศาสตร์จะครอบคลุมถึงด้านอวกาศด้วย เรียกว่าครบทั้งทางอากาศ-ทางทะเลและไม่แน่อาจทางภาคพื้นดินด้วย
วิกเตอร์ เตียว นักรัฐศาสตร์ในสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก กล่าวว่า “ข้อความสำคัญประการหนึ่งที่การประชุมครั้งนี้กำลังส่งถึงตะวันตกก็คือ แม้ว่าสหรัฐฯ จะมีความเข้มแข็งในเอเชียแปซิฟิก แต่รัสเซียก็มีพันธมิตรที่เข้มแข็งในภูมิภาคนี้เช่นกัน”
การพบกันของสองคู่หูแสบสันต์สำหรับอำนาจเก่าที่นำโดยสหรัฐฯ เปิดเผยให้เราไดเห็นเค้าลางแล้วว่า หากเกิดศึกใหญ่สงครามโลกครั้งใหม่ ไม่ว่าจะระเบิดจากจุดวาบไฟไหน คิมยืนหยัดชัดว่าจะอยู่เคียงข้างใคร!!??