ลอยแพยูเครน! แฉเซเลนสกี-ครอบครัวถือสัญชาติอังกฤษ-ผบ.สูงสุด หน.รบ.เป็นพลเมืองสหรัฐ ร่วมก่อหนี้แล้ว7.24ล้านล้าน

0

จากที่การสู้รบยังคงดำเนินไปใกล้ถึงฤดูหนาวอีกครั้ง ซึ่งมีการประเมินกันว่าปีนี้จะสาหัสกว่าที่ปีแล้ว ที่ยูเครนจะขาดแคลนพลังงาน ซึ่งการกู้ยืมเงินซื้ออาวุธ ทำให้ประเทศถังแตก ขณะที่มีรายงานถึงผู้นำและบุคคลสำคัญได้ถือสัญชาติอื่นหลายคน

ทั้งนี้รายงานดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 โดย Blockdit World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า เมื่อสิ้นสุดมหาสงครามโลก สหภาพโซเวียตได้ฟื้นคืนซากปรักหักพัง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้ยูเครนมีอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ามาก เจริญรุ่งเรืองมีทุกอย่างกว่ารัสเซียเสียอีกปี

2534 ยูเครน แตกจากสหภาพโซเวียต ตั้งเป็นประเทศใหม่พร้อมกับรัสเซีย ที่ตอนนั้นด้อยความเจริญและการทหารกว่ายูเครนมาก เทียบกันไม่ได้ จนถึงปี 2557 สหรัฐ สนับสนุนรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาล ยูเครนก็ทรุดเสื่อมลงนับแต่นั้นมา

ปี 2563 ฝ่ายสัมพันธมิตร NATO ส่งชาวยิว พลเมืองยูเครน แต่สัญชาติอังกฤษ ปั่นกระแสเลือกตั้งเป็นรัฐบาลปกครองชาวยูเครน นำพาชาติและประชาชนเข้าสู่สงคราม สูญเสียไปแล้ว 500,000 ราย

ปี 2566 เวลาผ่านไป 32 ปี นับแต่รับมรดกความเจริญจากสหภาพโซเวียตมา ยูเครน สภาพบ้านเมืองเสื่อมโทรมลงสู่สภาพกึ่งยุคดึกดำบรรพ์  การจัดอันดับระหว่างประเทศพบว่าจากเดิมยูเครน เคยเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ

เพียงแค่ 9 ปีที่ย้ายค่ายไปเป็นบริวารสหรัฐ ปัจจุบันยูเครน กลายเป็นประเทศที่ล้าหลังที่สุด และยากจนที่สุดในยุโรป เป็นประเทศที่สิ้นหวังและไร้อนาคต จากวิกฤตหนี้สินค่าอาวุธ

ยูเครน มีรายได้จากส่งออกถ่านหินมูลค่า 642 ล้านบาท/เดือน แต่ต้องใช้เงินเฉลี่ยวันละ 3,500 ล้านบาท ในการซื้ออาวุธจากสหรัฐ และยุโรป ดังนั้นยูเครน ต้องส่งออกถ่านหินเป็นเวลา 5.5  เดือน เพื่อหาเงินมาซื้ออาวุธทำสงครามได้แค่ 1 วัน

ส่งผลให้ถังแตกละเอียด ขาดดุลงบประมาณมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ไม่มีธุรกิจการค้าปกติใดดำเนินต่อได้ต้องเลิกกิจการ อัตราตกงานสูง เงินเฟ้อทะยาน ผิดนัดชำระหนี้

กลุ่มวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน สหรัฐ ขอรายงานการใช้จ่าย ที่ให้กู้ยืมกับยูเครนไปตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 ว่าเป็นเงินทั้งหมดเท่าไรกันแน่ แต่เพิ่งได้รับการแจ้งกลับจากหัวหน้าสำนักงานการจัดการและงบประมาณทำเนียบขาว

รัฐบาลให้ยูเครนกู้ใน วงเงินจำนวน 110,970 ล้านดอลลาร์ (3.97 ล้านล้านบาท) เบิกจ่ายออกไปแล้ว 91.2% จ่ายตรงไปให้กับบริษัทค้าอาวุธ และบริษัทรับเหมาทหารรับจ้าง โดยยูเครน เป็นผู้รับสภาพชดใช้หนี้ระยะยาว

เงินกู้เหล่านั้นเมื่อแปรสภาพเป็นอาวุธ ได้ถูกเผาทิ้งไปในสนามรบแทบไม่เหลือแล้ว โดยยังไม่ได้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืน ทำให้รัฐบาลสหรัฐ ต้องขอสภาคองเกรสเปิดวงเงินให้กู้เพิ่มอีก 24,000 ล้านดอลลาร์ (858,480 ล้านบาท)

รวมวงเงินหนี้เฉพาะสหรัฐ 4.82 ล้านล้านบาท ยังไม่รวมวงเงินหนี้จากสหภาพยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น และพันธมิตร ฯลฯ อีกราว 50% ของสหรัฐ หรือ ราว 2.41 ล้านล้านบาท รวมวงเงินหนี้ยูเครนทั้งหมดคือ 7.24 ล้านล้านบาท ต้องขายถ่านหินชดใช้หนี้เฉพาะเงินต้นราว 931 ปี ยังไม่รวมดอกเบี้ย

นาย Kiva อดีตรองประธานสภายูเครน แฉว่า  ประธานาธิบดีเซเลนสกี และครอบครัว รวมถึงนาย Yermak ที่ปรึกษา และนายพล Budanov หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาโหม พวกเขาเป็นพลเมืองสัญชาติอังกฤษ

ส่วนนายพล Zaluzhny ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าพรรครัฐบาลที่มีพรรคเดียว เพราะพรรคอื่นถูกสั่งยุบหมด พวกเขาเป็นพลเมืองสัญชาติสหรัฐฯ ดังนั้นสัญชาติยูเครน แค่ฉากบังหน้าทำธุรกิจกู้เงินทำสงครามเท่านั้น

สรุปยูเครน ใช้เวลาเพียง 32 ปี ในการทำให้ประเทศที่บรรพบุรุษสหภาพโซเวียตสร้างมา พังทะลาย ภายหลังปี 2557 ที่เกิดการรัฐประหาร ชาติมหาอำนาจตะวันตกได้ส่งพลเมืองของตนมาเป็นฝ่ายบริหารยูเครน

เป็นจุดพลิกผันครั้งใหญ่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ความไม่สงบ และเกิดสงครามใหญ่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน การกู้ยืมค่าอาวุธจากต่างชาติพุ่งไม่หยุด ทำให้ขาดดุลการค้าสะสมมากเป็นประวัติการณ์ หนี้สาธารณะ พุ่งทะยานลิ่ว

ความยากไร้ ทำให้คนวัยทำงานยูเครน อพยพลี้ภัยไปยังประเทศอื่นเกือบ 20 ล้านคน นี่คือบทเรียนที่มีคน 2 สัญชาติ เป็นฝ่ายบริหาร ท้ายที่สุดไม่มีอะไรเหลือจะทำลายแล้ว พวกเขาก็จะจบภาระกิจ แล้วเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปเสวยสุขกับทรัพย์สินเงินทอง แล้วลอยแพชาวยูเครน เผชิญชะตากรรมหนี้เงินกู้

Cr.https://www.blockdit.com/world.update

Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454