เมกาหน้ามืด!! จ่อส่งขีปนาวุธระยะไกลให้ยูเครน สั่งNATO ซ้อมรบใหญ่ทหารกว่าครึ่งแสน ส่งซิกขยายศึกสู่ยุโรป

0

มีรายงานแพร่สะพัดในหน้าสื่อทุกค่ายว่า วอชิงตันอาจส่งขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบกหรือระบบจรวดนำวิถีหลายลำ (GMLRS) ที่ติดอาวุธด้วยคลัสเตอร์บอมบ์ไปยังเคียฟ แต่อ้างว่าการตัดสินใจ “ยังไม่สิ้นสุด”

ขณะเดียวกันได้สั่งกองหลังที่แน่วแน่ของ NATO ฝึกซ้อมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็นใกล้รัสเซีย ส่งสัญญาณการเปลี่ยนกลุ่มNATOไปสู่ ​​’ฐานทัพสงคราม’ ครั้งใหญ่รับไม้ต่อยูเครน ที่นำโดยสหภาพโปแลนด์-ยูเครน-ลิทัวเนีย

วันที่ ๑๒ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า ประเทศใน NATO ทั้งหมด ๓๑ ประเทศรวมทั้งสวีเดน กำลังเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการฝึกซ้อมทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดของกลุ่มนับตั้งแต่สงครามเย็นในช่วงต้นปี ๒๐๒๔ 

มิคาอิล มาลูฟ(Michael Maloof) อดีตนักวิเคราะห์นโยบายความมั่นคงในสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการฝึกครั้งใหญ่นี้

สื่อธุรกิจของอังกฤษรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า NATOวางแผนที่จะจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่ทั่วเยอรมนี โปแลนด์ และประเทศแถบบอลติกระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม ๒๐๒๔ โดยข้ออ้างในการฝึกเป็นไปเพื่อ “ต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย” ต่อพันธมิตร การฝึกซ้อมดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า Steadfast Defender 24 มีกำหนดใช้กำลังทหารสูงสุด ๔๑,๐๐๐ นาย เรือรบ ๕๐ ลำ และจะมีภารกิจสู้รบทางอากาศระหว่าง ๕๐๐-๗๐๐ ภารกิจ ตามแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับแผนดังกล่าว

ก่อนหน้านี้พันธมิตรส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงการฝึกซ้อมขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงของรัสเซีย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นของมอสโก ท่ามกลางคำเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีกจากหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซียว่าบางประเทศของ NATO อาจเตรียมเปลี่ยนตัวแทนของยูเครน ขัดแย้งกันจนกลายเป็นสงครามยิงโดยตรงกับรัสเซีย มาลูฟระบุชัดว่าการฝึกซ้อมดังกล่าว “ออกแบบมาเพื่อให้รัสเซียและพันธมิตรอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบที่สุด”

มาลูฟตั้งข้อสังเกตว่า “ความจริงก็คือคลังยุทโธปกรณ์สงครามของ NATO ส่วนใหญ่ “หมดลงเพราะยูเครน” โดยที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกาต่างมีอาวุธและกระสุนเหลือน้อยหลังจากส่งอาวุธไปเกือบ ๑ แสนล้านดอลลาร์ ส่งความช่วยเหลือแก่เคียฟในช่วง ๑๘ เดือนที่ผ่านมา

ผู้สังเกตการณ์เน้นย้ำว่า “สิ่งสุดท้ายที่ยุโรปต้องการคือการทำสงครามกับรัสเซีย” โดยชี้ให้เห็นว่า แม้แต่สงครามตัวแทนในยูเครน ซึ่งประเทศตะวันตกไม่ได้หลั่งเลือดใดๆ ก็กลายเป็น “หายนะ” อย่างแท้จริงสำหรับพันธมิตรโพ้นทะเลของวอชิงตันอย่างยุโรป เศรษฐกิจตกต่ำและทำให้มาตรฐานการครองชีพย่ำแย่ (ใครจะเชื่อว่าเมืองใหญ่อันดับสองของอังกฤษเพิ่งประกาศล้มละลาย และมีเค้าจะโดมิโนล้มละลายตามมาอีกหลายเมืองอย่างน่าตกใจไม่ใช่แค่ธนาคาร)

ผู้สังเกตการณ์ไม่เชื่อว่าพันธมิตรพร้อมจริงๆ สำหรับการเผชิญหน้าที่แท้จริงและการทำสงครามแบบเต็มรูปแบบกับรัสเซีย ไฟลุกไหม้ที่ใดๆก็ตามแน่นอนว่าจะส่งผลให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ต่อยุโรปเอง Maloof สรุปว่า”ฤดูหนาวนี้จะเป็นช่วงเวลาที่บอกเล่าจริงๆ สำหรับยุโรปเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ตามความเป็นจริง ตรงข้ามกับความฝันอันไพเราะและการฝึกซ้อมทางทหารที่พวกเขาที่กำลังจะทำ” 

มาลูฟพูดอีกก็ถูกอีก ถ้าดูเฉพาะยุโรป แต่หากมีการยกระดับศึกจริง สปอนเซอร์หลักจะคือเมกา ซึ่งอาวุธในคลังยังไม่หมดและComplex ทางทหารของเมกามั่งคั่งมาทั้งปี เพราะได้รับคำสั่งซื้อจากทั่วโลกมหาศาล ขณะนี้ฐานทัพทั่วโลกของสหรัฐฯขยับพร้อม อะไรจึงอาจเกิดขึ้นได้ มันสำคัญที่ว่าเมกาจะเอายังไงมากกว่า???