ในการประชุมEast Economic Forum 2023 ที่เมืองวลาดิวอสต็อก รัสเซีย หลังการประชุม รัสเซียเตือนเครียดถึงวิกฤตใหม่ในคาบสมุทรเกาหลี กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียอ้างถึงกิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเร็วๆ นี้โดยสหรัฐฯ และพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นในภูมิภาค ในนามไตรภาคีใหม่
วันที่ ๑๒ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า คาบสมุทรเกาหลีอาจเข้าสู่วิกฤตครั้งใหม่ในไม่ช้า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเตือน โดยนักการทูตอาวุโสคนหนึ่งกล่าวถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น โดยหลักๆ แล้วเกิดจากการมีทหารสหรัฐฯ ประจำการเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้อย่างไม่ปกติ
กอร์กี ซิโคเวียฟ(Georgy Zinoviev) หัวหน้าแผนกเอเชียที่ ๑ ของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์นอกรอบการประชุม Eastern Economic Forum ในเมืองวลาดิวอสต็อก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เตือนว่า “พลวัตของเหตุการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีบ่งชี้ว่าวิกฤตครั้งใหม่กำลังใกล้เข้ามาแล้ว”
เขาชี้ให้เห็นวาทศิลป์เกี่ยวกับสงครามที่เพิ่มมากขึ้นจากทั้งเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น นักการทูตยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า วอชิงตันและพันธมิตรได้เพิ่มการซ้อมรบร่วมทางทหารในภูมิภาคนี้ติดๆกันตัวอย่างเช่น เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ๑๙๘๑ ที่เรือดำน้ำรัฐเคนตักกี้ของอเมริกาซึ่งมีขีปนาวุธนำวิถีได้ปรากฏตัวในน่านน้ำเกาหลีใต้
นอกจากนี้เขายังตั้งข้อสังเกตอีกว่าการฝึกซ้อมป้องกันขีปนาวุธไตรภาคีระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่นมีการจัดเป็นประจำมากกว่าแต่ก่อน คำกล่าวอ้างของวอชิงตันที่ว่าการซ้อมรบเหล่านี้เป็นไปในลักษณะการป้องกันล้วนๆ เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ เขากล่าว พร้อมเสริมว่าการซ้อมรบดังกล่าวยังมี เสียงแฝงต่อต้านรัสเซียและต่อต้านจีนด้วย”
ย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคม วอชิงตันได้ส่งเรือดำน้ำที่ใช้นิวเคลียร์ได้ของยูเอสเอส เคนตักกี้ นอกชายฝั่งเกาหลีใต้ โดยอ้างถึงความจำเป็นในการตอบโต้ ” การยั่วยุ ” ”
ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม นายพลคัง ซุนนัม รัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีเหนือ เตือนว่าสงครามนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือประกาศว่ากองทัพของตนได้ดำเนินการฝึกซ้อม ” การโจมตีด้วยนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ” เพื่อเตือนศัตรูถึงอันตรายที่แท้จริงของสงครามนิวเคลียร์ การจำลองการโจมตีด้วยนิวเคลียร์เกิดขึ้นหลังจากการซ้อมรบ Ulchi Freedom Shield 23 ของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซึ่งมีเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ B-1B ของสหรัฐฯ อย่างน้อยหนึ่งลำเข้าร่วม
และสถานการณ์ล่าสุด สถานีโทรทัศน์ YTN ของเกาหลีใต้ ซึ่งอ้างถึงเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลคนหนึ่งบอกว่าผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางด้วยรถไฟส่วนตัวกันกระสุน ไปทางชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือ” ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับรัสเซีย
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าวยืนยันการเยือนครั้งนี้ว่า ปูตินและคิมจะจัดการเจรจากับคณะผู้แทนรัสเซียและเกาหลีเหนือที่เข้าร่วมประชุม และหากจำเป็นจะเป็นในรูปแบบตัวต่อตัว
คำเตือนของรัสเซียไม่เกินความจริง เมื่อสถานการณ์แนวหน้ายูเครนรัสเซียเป็นต่อ เมกาเริ่มแบะท่าว่าอาจเกิดการเจรจาระหว่างรัสเซียยูเครน ยิ่งปัญหาภายในของสหรัฐฯปะทุหนักขึ้นมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่เมกาจะหันไปซัดกับจีนยิ่งเป็นไปได้สูงเพราะหัวใจก่อสงครามครั้งนี้คือต้องการล้างหนี้ เจ้าหนี้รายใหญ่อย่างจีนได้เปิดยุทธการโค่นเปโตรดอลลาร์อย่างอาจหาญส่งผลความเร็วในการเทดอลลาร์เงินกระดาษเร็วขึ้นเกินกว่าที่เมกาจะขยับเปลี่ยนเงินเฟียตเป็นดิจิทัลได้ เป้าหมายจุดวาบไฟที่เอเชียใครๆมองว่า คือไต้หวัน แต่เกิดแรงเฉื่อยขึ้นในไต้หวันเอง เพราะจะมีการเลือกตั้งใหม่ เกาหลีเหนือจึงกลายเป็นจุดเปราะบางที่สุด แตกเมื่อไหร่เมกาและพวกเจาะทะลุทะลวงจีนได้อย่างง่ายดาย??