Exเพนตากอนกลัว! ยอมอาวุธลับรัสเซียเหนือชั้น วัดรถถังประจันบาน โดนปราบเรียบ

0

ความโดดเด่นของการศึกภาคพื้นที่ในสงครามตัวแทนยูเครนของรัสเซีย ทำให้ฝ่ายตะวันตกตกตะลึงและอดที่จะออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ แม้NATO ได้ส่งรถถังหลักหลายร้อยคันและยานเกราะอื่นๆ อีกหลายพันคันในยูเครนแต่ถูกทุบเละทำให้เมกา-นาโต้โม้ไม่ค่อยออก 

ล่าสุดอดีตนักวิเคราะห์ของเพนตากอนเอง ได้ออกมาเปิดเผยอาวุธลับของรัสเซียต่อเกราะของนาโตในการดวลรถถังต่อรถถัง ขณะที่เป็นโอกาสการฉลอง “วันรถถัง”ของรัสเซีย

วันที่ ๑๑ ก.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า วันอาทิตย์เป็นวันกองทัพรถถังในรัสเซีย ซึ่งเป็นวันหยุดทางการทหารมืออาชีพที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี ๑๙๔๖ เพื่อรำลึกถึงผู้บัญชาการรถถังและลูกเรือของกองทัพแดงที่ปกป้องประเทศของตนจากผู้รุกรานของนาซี และขับไล่พวกเขากลับไปยังใจกลางยุโรปเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตรในปี ๑๙๔๕

อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม เดวิด ที ไพน์(David T. Pyne) กล่าวว่า

วันนักขับรถถังซึ่งปัจจุบันเรียกว่า “วันกองทัพรถถัง” มีการเฉลิมฉลองในพื้นที่ส่วนใหญ่หลังโซเวียต รวมถึงรัสเซีย เบลารุส คาซัคสถาน และแม้แต่ยูเครนในอดีต แต่ในขณะที่รัสเซียและพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมCSTO (Collective Security Treaty Organization) ได้จัดกองกำลังรถถังเป็นส่วนใหญ่โดยอาศัยสัญญาณจากอดีตของสหภาพโซเวียต แต่กองทัพที่ได้รับคำแนะนำจาก NATO ของยูเครนกลับพยายามทำสงครามรถถังในทิศทางที่แตกต่างออกไป โดยมุ่งไปที่อุปกรณ์ มาตรฐาน และแผนการฝึก ของพันธมิตรตะวันตก

ในขณะที่กองกำลังรถถังของรัสเซียสมัยใหม่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยรุ่นอัพเกรดของการออกแบบรถถังรุ่นที่สองและสามในช่วงปลายๆ เช่นT-72, T-80 และ T-90 ด้านกองกำลังของยูเครน ในขณะเดียวกันก็คุ้นเคยกับ T-72 และ T-80 เป็นอย่างดี ตอนนี้ยังได้รับการเสริมด้วย MBT ซีรีส์ Leopard 1 และ Leopard 2 ของเยอรมัน, Challenger 2 ที่ผลิตในอังกฤษ และเร็วๆ นี้ M1 Abrams ของอเมริกา

เมื่อถูกขอให้ประเมินประสิทธิภาพโดยรวมของกองกำลังรถถังรัสเซียในยูเครน ไพน์อธิบายว่า “ผสมปนเปกันอย่างแน่นอน” ส่วนใหญ่เนื่องมาจากข้อจำกัดที่กำหนด “ตามวัตถุประสงค์ด้านอาณาเขตที่จำกัดของปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” และการขาด “การรุกขนาดใหญ่ใดๆ ในส่วนของรัสเซีย “ตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2022” ในเวลาเดียวกัน เขากล่าว กองกำลังรัสเซียรวมถึงรถถัง “มีความเป็นเลิศในการปฏิบัติการป้องกันและปืนใหญ่ ส่งผลให้กองกำลังยูเครนได้รับบาดเจ็บหนักกว่ามาก” มากกว่าที่พวกเขาทำได้เอง

โดยรวมแล้วรัสเซียมีจุดแข็งที่ชนะรถถังยูเครนและตะวันตก

๑. รัสเซียมีกองหนุนจากท้องฟ้าอย่างเต็มที่ ทั้งกองการบินอวกาศ โดรน ปืนใหญ่

๒. ความเหนือกว่าของรัสเซียในด้านจำนวนรถถัง

๓. รัสเซียใช้อิเล็กทรอนิกซ์วอร์แฟร์ที่เหนือกว่ายูเครน อย่างมีประสิทธิผล

ไพน์สรุปว่า นับจากนี้ไป ผู้สังเกตการณ์คาดหวังว่าความสามารถของกองกำลังรถถังรัสเซียจะพัฒนาต่อไป “เราได้เห็นกองทัพรัสเซียด้นสดและปรับปรุงมาตรการตอบโต้ต่อการโจมตีด้วยยานพาหนะต่อต้านยานเกราะด้วยโดรนของยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับเครื่องรบกวน GPS ของรัสเซียระยะไกล ซึ่งมีรายงานว่าประสบความสำเร็จในการสร้างความขัดข้องถึง ๘๐-๙๐ เปอร์เซ็นต์ของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความแม่นยำของสหรัฐฯ และโดรนต่อสู้ของยูเครน”

ในที่สุดแม้แต่อดีตเพนตากอนเองยังต้องออกมายอมรับว่า รัสเซียเหนือกว่าทั้งในทางศักยภาพของอาวุธและยุทธวิธี ที่สำคัญสามารถประสานกันให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถามว่ารบกันต่อจะมีเครื่องมืออะไรเปลี่ยนเกมจากแพ้ซ้ำๆเป็นชนะได้หรือไม่ ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีสัญญาณ หลังนายพลเมกาให้เวลาเคียฟรบต่ออีกแค่ ๑ เดือน!!??