จากกรณีกองกำลังผสมยูเครนสูญเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมาก มีการเกณฑ์ทหารออกไปรบหลายครั้ง ก็ยังดูเหมือนว่าไม่เพียงพอในการาต้านทานกองทัพรัสเซีย ทำให้มีรายงานถึงการจะนำผู้หญิงออกไปสู้ศึกในครั้งนี้ด้วย
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 04 กันยายน 2566 Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความรายงานถึงสถานการณ์ในยูเครนในเรื่องการเกณฑ์กำลังพลออกไปรบว่า
ด้วยทางการยูเครน หมดสต็อคทหารชายวัยฉกรรจ์กำลังพลสำรองไปแล้ว 90% แต่ผู้นำยูเครน ไม่ต้องการเจรจารอมชอมกับรัสเซีย เขาได้สั่งเกณฑ์ทหารเพิ่มเป็นชายวัยคุณลุง คุณปู่อายุเกิน 50-70 ปี , นักศึกษาที่กำลังเรียนในมหาวิทยาลัย และเด็กมัธยมปลายอายุ 17 ปี
แต่ก็ยังมีจำนวนไม่เพียงพอตามที่เขาต้องการ วันที่ผ่านมาทางการยูเครน ออกประกาศเกณฑ์ทหารเพิ่มอีก สร้างความฮือฮาในสังคมยูเครนอย่างมาก เพราะไม่เคยมีที่ใดในโลกทำแบบนี้มาก่อน คือ
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ผู้หญิงทุกคนที่ทำงานเป็นแพทย์ พยาบาล และเภสัชกร จะต้องขึ้นทะเบียนและฝึกเป็นทหารหญิง ส่งไปบุกแนวหน้าตะลุยทุ่นระเบิดรัสเซียเหมือนทหารชายก่อนหน้า
ประกาศอีกฉบับยิ่งช็อคหนัก เมื่อให้ผู้ป่วยโรคร้ายแรง ตามรายชื่อดังนี้ต้องไปขึ้นทะเบียนเป็นทหาร เช่น วัณโรค , ไวรัสตับอักเสบ , เอชไอวี และเอดส์ , โรคของระบบต่อมไร้ท่อ , โรคจิตเวช , โรคประสาท , โรคเครียดและวิตกกังวลทุกประเภท , โรคระบบประสาทส่วนกลาง
โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีผู้ชายเพียงพอจึงต้องเกณฑ์ผู้หญิง และชาวยูเครนที่มีสุขภาพดีไม่เหลือแล้ว จึงต้องเกณฑ์ผู้ป่วยทุกคนไปเป็นทหารจนถึงชาวยูเครนคนสุดท้าย หวังให้สหรัฐ พึงพอใจให้กู้ยืมอาวุธและเงินมาอีก
ด้านนาย Medvedev รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซีย ระบุว่า กองทัพไม่มีการเกณฑ์ทหารเพิ่ม เพราะที่มีอยู่ก็เหลือเฟือแล้ว แต่ช่วงวันที่ 1 มกราคม – 3 กันยายน 2566 ก็ยังคงมีชายชาวรัสเซีย ที่ต้องเคยเป็นทหารมาแล้ว 1 ปี แห่มาสมัครใจรับราชการทหารซ้ำอีก 280,000 คน
คิดเป็นแค่ 1% ของกำลังสำรองทางทหารของรัสเซียเท่านั้นเอง เมื่อเปรียบเทียบกับฝ่ายสัมพันธมิตร NATO บังคับให้ยูเครนใช้กำลังสำรองทหารหมดสต็อคไปแล้วถึง 90%
ยูเครน สต็อคทหารชายหมดไป 90% จนต้องประกาศบังคับเกณฑ์ทหารจากผู้หญิง หมอ เด็กมัธยมปลาย เยาวชนในมหาวิทยาลัย ผู้ป่วยโรคร้ายแรง โรคจิตเวช ฯลฯ
การเกณฑ์ทหารยูเครนบรรลือโลกนี้ องค์กรสิทธิมนุษยชน NGOs , สื่อหลักตะวันตกและสื่อไทยจะไม่พูด ไม่รายงาน ไม่ประโคมข่าว และเงียบกริบ เพราะถือว่าเกณฑ์หมอ และผู้ป่วยไปเป็นทหารตะลุยทุ่นระเบิดและลูกยาวรัสเซีย เพื่อประชาธิปไตย
แต่ชายชาวรัสเซีย วัยฉกรรจ์ที่เคยเป็นทหารมาแล้ว 1 ปี อยากกลับมาสมัครทหารอาสาซ้ำอีกครั้งถึง 280,000 นาย หรือ 1% ของกำลังสำรอง เรื่องนี้สื่อจะประโคมข่าวกันว่ารัสเซีย แย่แล้วแน่นอน