ชาวคองโกลุกฮือ! ท้วงขับไล่กองกำลัง MONUSCO ที่ชักใยโดยฝรั่งเศส พ้นปท.! ถูกปราบปรามเดือดดับกว่าครึ่งร้อย
จากกรณีที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เปิดเผยว่า นาย ซิลแวง อิตเต เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำไนเจอร์ ยังคงอยู่ในกรุงนีอาเม เมืองหลวงของไนเจอร์ แม้รัฐบาลทหารจะยื่นคำขาดให้นายอิตเต เดินทางออกจากไนเจอร์
ล่าสุดทางด้าน Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีสถานการณ์ในคองโก ที่มีการชุมนุมขับไล่ กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ โดยบอกว่า คองโก ชาติในแอฟริกากลาง มีขนาดใหญ่อันดับที่ 2 ของทวีป เคยเป็นอาณานิคมของเบลเยียม ต่อมาเป็นอาณานิคมฝรั่งเศส ปัญหาใหญ่ตามมาเมื่อ คองโกเป็นประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากรที่สุดในโลก แหล่งแร่วัตถุดิบหายาก มีมูลค่าเกินกว่า 841 ล้านล้านบาท เช่น แร่โคลแทน 70% , โคบอลต์ 33% , เพชร 30% และทองแดง 10% ของโลก เมื่อชาติใดเคยเป็นอาณานิคมฝรั่งเศส จะถูกปล้นจนย่อยยับ
ฝรั่งเศส จึงชักใยโดยกำหนดให้ใช้ภาษาฝรั่งเศส เป็นภาษาประจำชาติ , แบ่งรายใดสัมปทานให้รัฐต่ำมาก , ให้ใช้เงินสกุลที่กำหนด , กำหนดให้กระทรวงคลังฝากเงินกับธนาคารฝรั่งเศส ถ้าจะใช้ต้องขอกู้เงินตนเองต้องจ่ายดอกเบี้ย แก้รัฐธรรมนูญให้สืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้งได้ยาวนานมาก ผู้นำคนก่อน ถูกชักใยให้ครองอำนาจนานถึง 18 ปี ถึงปี 2562
ผู้นำคนปัจจุบัน ประธานาธิบดี เฟลิกซ์ ชีเซเกดี หุ่นเชิดฝรั่งเศส ปกครองคองโกอย่างโหดเหี้ยม มีการอุ้มสูญหาย จำคุก ประชาชนที่ต่อต้านฝรั่งเศส ตามอำเภอใจ รายได้ 90% ของคองโกมาจากส่งออกแร่ธาตุมากมาย แต่เศรษฐกิจคองโกก็ตกต่ำอย่างมาก ประชาชนติดอันดับหนึ่งในชาติที่ยากจนที่สุดในโลก
มี GDP ต่อหัวต่ำที่สุดหรือเกือบต่ำที่สุดเสมอมา การขาดโครงสร้างพื้นฐาน การคอร์รัปชั่นสูงมากติดอันดับโลกพอๆ กับยูเครน จึงเกิดกลุ่มประชาชนหลายกลุ่มที่ต้องทนทุกข์ทรมานพยายามปลดปล่อยชาติจากการครอบงำของฝรั่งเศสมากว่า 60 ปี จับอาวุธขึ้นต่อสู้ เกิดความไม่มั่นคงทางการเมือง
คองโก มีเมืองหลวงค่อ กินชาซา เมืองที่ใหญ่รองลงมาคือเมืองลูบูมบาชี และเมืองอึมบูจีไมอี เป็นชุมชนเหมืองแร่ส่งออกที่ใหญ่ที่สุด ช่วงหลังมาเมื่อประชาชนไม่ยอมรับทหารกองทัพฝรั่งเศส ก็มีการจัดฉากผ่านสหประชาชาติ (UN)
ฝรั่งเศส อ้างว่าคองโกมีกลุ่มก่อการร้ายจำนวนมาก ต้องส่งกองกำลังทหารรักษาสันติภาพที่ใหญ่ที่สุดของสหประชาชาติ เรียกว่า MONUSCO มากถึง 18,000 คน ในจำนวนนี้มีทหารไทยรวมอยู่ด้วย แต่ในความจริงแล้วกลุ่มก่อการร้ายหลากหลายชื่อบังหน้าเหล่านั้น ก็คือบรรดาทหารรับจ้างของชาติตะวันตกให้ต่อสู้กับอีกฝ่ายคือกลุ่มประชาชนที่รวมตัวกันปลดปล่อยอิสระภาพของคองโก
บรรดาทหารรักษาสันติภาพชาติจากชาติต่างๆ ในคราบ UN หมวกสีฟ้าเหล่านั้น จึงถูกหลอกให้เป็นเครื่องมือของกองทัพฝรั่งเศส ที่คอยปกป้องเหมืองแร่ ส่วนทหารจากชาติอื่นให้ไปอยู่พื้นที่ชาวบ้านยากจน ด้วยความที่ถูกทหารหมวกฟ้า UN ฝรั่งเศส กดขี่และคอยปกป้องรัฐบาล ทหารหมวกฟ้าชาติอื่นปลาข้องเดียวกันจึงถูกประชาชนรังเกียจ ต่อต้าน และต้องการขับไล่ทหารต่างชาติออกไปจากดินแดน จึงเกิดม็อบประท้วงต่อต้านบ่อยครั้ง
ล่าสุดม็อบพลเรือนจำนวนมากชุมนุมอย่างสันติ เรียกร้องอิสระภาพ ขอให้ถอนกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ MONUSCO ที่ชักใยโดยฝรั่งเศส ออกจากคองโก
กองทัพคองโก ที่ชักใยโดยกองทัพฝรั่งเศส ในคราบ UN ได้ปราบปรามพลเรือนอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 48 ราย บาดเจ็บ 75 ราย ร่างพลเรือนผู้เสียชีวิต ถูกทหารโปรฝรั่งเศส ทะยอยขนใส่รถบรรทุกออกไปซ่อนอำพราง
วิเคราะห์ว่า..เรื่องนี้ฝรั่งเศส สหรัฐ และสหภาพยุโรป จะไม่ประนาม และคว่ำบาตรรัฐบาลคองโก โดยอ้างว่าเป็นเรื่องปกติยอมรับได้ เพื่อปกป้องประชาธิปไตย องค์กร NGOs , สื่อหลักตะวันตก และสื่อไทย จะไม่พูดถึง ไม่ประโคมข่าว ไม่รู้ไม่ชี้ และจะโยนบาปว่าพลเรือนที่เป็นเหยื่อบนท้องถนนเหล่านี้คือ ผู้ก่อการร้ายไปดื้อๆ
ดังนั้น ทหารต่างชาติ ควรพิจารณาถอนทหารกลับบ้าน เพื่อแสดงถึงการไม่ยอมรับการกระทำป่าเถื่อนต่อพลเรือนของกองทัพฝรั่งเศสในคราบ UN เช่นนี้ และที่นั่นไม่ใช่บ้านเมืองของชาติอื่น ควรปล่อยให้ประชาชนคองโก เขาตัดสินอนาคตตของตนเอง ไม่ควรมีชาวต่างชาติอื่นไปขีดเส้นกรอบกำหนดชะตาชีวิตของพวกเขาที่หมดยุคล่าอาณานิคม ล่าทรัพยากรฟรีและถูกไปแล้ว นับแต่นี้ไปชาวคองโกจะเคียดแค้นชิงชัง เหมารวมไล่ล่าเอาคืนทหารหมวกฟ้าทุกชาติในดินแดนของพวกเขาแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://web.facebook.com/profile.php?id=100077775671454
