ท่ามกลางการโฆษณาโอ้อวดของเซเลนสกี้ที่ว่ากำลังจะได้รับเครื่องบิน F-16 จากเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ แม้ว่าจะได้รุ่นมือสองช่วงปีใหม่ ที่หน้างานสนามรบการต่อสู้ดุเดือดยังคงดำเนินต่อไป
ล่าสุดกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดผลการรบที่พื้นที่ใกล้เมืองอาร์ติมอฟหรือบักห์มุต ว่ากองกำลังเคียฟ-นาโต้ยังคงล้มเหลวไม่สามารถตีฝ่าและยึดคืนได้อย่างที่ประกาศกร้าวมาหลายสัปดาห์
วันที่ ๒๒ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์ รายงานว่า ทหารพลร่มชาวรัสเซียได้ขับไล่การโจมตีกองกำลังผสมเคียฟ-นาโต้ในเขตชานเมืองด้านตะวันตกของเมือง Artyomovsk อดีตเรียกว่า Bakhmut ในยูเครน
“เจ้าหน้าที่ควบคุมโดรนของกองทหารอากาศรัสเซียตรวจพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มทหารราบเคียฟหลายกลุ่มไปยังตำแหน่งของรัสเซีย หน่วยพลร่มได้ปล่อยให้ศัตรูไปถึงจุดหนึ่งและยึดพื้นที่ป่าสองแห่ง พลร่มเปิดฉากยิงใส่หน่วยยูเครนที่กำลังรุกคืบโดยใช้เครื่องยิงลูกระเบิดต่อต้านรถถังแบบมือถือ”
กลุ่มติดอาวุธตกเป็นเป้าหมายด้วยเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ AGS-17 Plamya และปืนกล Kord ขนาด ๑๒.๗ มม.ดับมาก บางส่วนรอดชีวิตหนีกระเจิง
ที่แนวหน้ายังแพ้ยับ แต่นอกประเทศผู้นำยูเครนกำลังเดินสายขอการสนับสนุนบินรบจากนาโต้ มีรายงานว่า อเล็กซานเดอร์ มิคัยลอฟ(Alexander Mikhailov) หัวหน้าฝ่ายการทหาร-การเมือง สำนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มนักคิด กล่าวว่า “คำมั่นสัญญาที่ทำโดยเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16 ให้กับยูเครนเป็นเพียงการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อปลอบโยนฝ่ายยูเครน แต่แนวทางปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียจะไม่เปลี่ยนแปลง”
หัวข้อการส่งเครื่องบินไอพ่น F-16 ไปยังยูเครนจะมีการพูดคุยกันมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ แต่ “จนถึงขณะนี้ยังไม่มีเครื่องบินสักลำเดียวที่ไปถึงยูเครน”
ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า “เรากำลังพูดถึงเครื่องบินรบหลายสิบลำ ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันถูกสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 เครื่องบินรบเหล่านี้มีอายุเกือบ 30 ปี และจะต้องถูกตัดออกจากกองทัพเดนมาร์กและเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากพวกมันใช้งานการบินจนหมดแรง และถึงแม้ว่า ยังคงเป็นไปได้ที่จะส่งพวกมันขึ้นไปในอากาศและพยายามทำการต่อสู้ทางอากาศหรือใช้พวกมันในการโจมตีทางอากาศ พวกมันไม่ใช่กองเรือทหารประเภทที่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ในน่านฟ้าของเขตปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียได้อยู่แล้ว “
“กองทหารรัสเซียรู้ดีว่าต้องจัดการกับเป้าหมายดังกล่าวอย่างไร พวกเขามีระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะกลางและระยะไกลที่หลากหลาย ตั้งแต่ระบบ Buk-M2, Buk-M3 และระบบที่คล้ายกัน ไปจนถึงระบบ S-300 ทั้งชุด ระบบเหล่านี้สามารถโจมตีเป้าหมายนี้ได้โดยไม่ล้มเหลว แม้มันเป็นเครื่องบินรบความเร็วเหนือเสียงแต่ไม่มีอะไรเหนือธรรมชาติสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย”
เขากล่าวเสริมว่า ชาติตะวันตกจะใช้หัวข้อเรื่องช่วยส่งเสบียงเครื่องบินรบเป็น “เครื่องมือในการบงการระบอบการปกครองเคียฟต่อไปอีกเป็นระยะเวลานาน”
ไม่รู้ว่าใครหลอกใช้ใครกันแน่ระหว่างเซเลนสกี้กับเมกา-นาโต้???
