สถานการณ์ล่าสุดในสงครามตัวแทนยูเครน ที่วันนี้โลกรับรู้แล้วว่า เป็นการสู้รบระหว่างรัสเซียกับนาโต้ ซึ่งเมกาเป็นโต้โผใหญ่ วันนี้ทหารรับจ้างต่างชาติชาวอเมริกันออกมาเปิดเผยอัตราผู้เสียชีวิตที่น่าตกใจในสงครามยูเครน
วันที่ ๑๙ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ทหารรับจ้างจากตะวันตกได้ให้สัมภาษณ์สื่อเอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯว่า “ในบางหน่วย ทหารมากกว่าแปดในสิบคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หน่วยรบของยูเครนบางหน่วยมีอัตราการบาดเจ็บล้มตายถึง ๘๕% ในระหว่างการปฏิบัติการต่อต้านกองกำลังรัสเซียอย่างต่อเนื่อง”
รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เผยแพร่โดยรัสเซีย ซึ่งอ้างว่ากองกำลังรัสเซียได้ทำลายกองทหารยูเครน ๔๓,๐๐๐ นายในเวลาสองเดือน
ทหารผ่านศึกชาวอเมริกันที่ต่อสู้กับกองกำลังพิเศษของยูเครนใกล้กับเมืองโดเนตสค์ เปิดเผยว่า หน่วยทหารของเขาซึ่งมี”หลายสิบ”ได้รับบาดเจ็บ “๘๕%” ระหว่างการโจมตีหมู่บ้านใกล้เมืองเมื่อ ๒ สัปดาห์ก่อน จากการโจมตีเหล่านั้น ๔๐% ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนทำให้”การต่อสู้ไร้ประสิทธิภาพ ” เพื่อนของเขาซึ่งเป็นชาวอเมริกันอีกคนหนึ่งกล่าวว่าหน่วยนี้พบกับ”การต่อต้านอย่างเป็นระบบ”จากกองทหารรัสเซีย
ทหารรับจ้างคนที่สามจากประเทศตะวันตกที่ไม่ปรากฏชื่อ บอกกับเครือข่ายว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในช่วงแรกๆของการต่อต้าน และประมาณ ๘๐% ของกองพันของเขาได้รับบาดเจ็บตั้งแต่นั้นมา
รัฐบาลยูเครนไม่เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิต หมายความว่าประชาชนชาวยูเครนต้องพึ่งพาเบาะแสอื่น ๆ เช่นรายงาน ที่ไม่ได้รับการยืนยัน สุสานที่ขยายใหญ่ขึ้น เพื่อยืนยันขนาดของการสูญเสีย ไม่นับที่สูญหายไม่มีรายงาน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกกับ Politico เมื่อต้นเดือนนี้ว่า ขณะนี้มีทหาร ๑๕๐,๐๐๐ นายเข้าร่วมปฏิบัติการ นั่นหมายถึงกองกำลังผสมเคียฟและนาโต้ สองเดือนหายไปแล้วครึ่ง มีทหารต่างชาติที่หนีกลับประเทศไปแล้ว ๔,๘๐๐ นาย
ทหารรับจ้างชาวตะวันตกคนหนึ่งบอกกับเอบีซีนิวส์ว่า “เราเสีย Leopards รถถังที่ผลิตในเยอรมันถึง ๓ คันในวันเดียว เพราะพวกเขาได้รับคำสั่งให้ขับไปข้างหน้าในทุ่งทุ่นระเบิด ทหารยูเครนที่เพิ่งเกณฑ์ทหารยังขาดการฝึกอบรมที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติการรุกที่ซับซ้อนด้วย”
เซเลนสกี้และผู้สนับสนุนอย่างเมกา-นาโต้ยังคงดิ้นรน ผลักดันให้การสู้รบกับรัสเซียเดินหน้าต่อไป แม้รู้ว่ายูเครนไม่อาจเอาชนะรัสเซียได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้รัสเซียสูญเสียอาวุธและเงินไปกับสงคราม ยิ่งยืดเยื้อยิ่งบาดเจ็บอ่อนล้า สมมติฐานนี้อาจไม่สอดคล้องกับมุมมองของรัสเซียก็ได้ เพราะยิ่งนานวันเมกายิ่งลอกคราบนักประชาธิปไตยที่เลี้ยงตัวด้วยสงครามให้โลกได้เห็นชัดขึ้น นั่นแหละที่ปูตินต้องการ!!
