จากที่มีรายงานนักรบซีเรียโจมตีถล่มฐานทัพเถื่อนสหรัฐ 3 แห่งด้วยขีปนาวุธจากพื้นดิน 5 ลูก ลงในฐานทัพเถื่อน ใกล้แหล่งก๊าซโคนิโก และยิงถล่ม อีก 4 ลูก ลงในฐานทัพเถื่อนใกล้แหล่งน้ำมันเอล โอมาร์นั้น
ทั้งนี้โดยในกรณีดังกล่าวนี้มีข้อมูลเผยแพร่ต่อมาจาก Blockdit World Update ที่โพสต์ข้อความไว้เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2566 ว่า ช่วงปี 2557 – 2558 รัสเซีย ทิ้งระเบิดยักษ์จากเครื่องบินรบ และยิงขีปนาวุธจากเรือรบโจมตีกลุ่มก่อการร้าย ISIS ฉายานักรบฮอลีวู๊ด เพราะเป็นฉากหน้าในเครือบริษัททหารรับจ้าง Black water สหรัฐ อีกที
ในช่วงนั้นบรรดานักรบรับจ้างเหล่านี้เป็นปุ๋ยทะเลทรายไปราว 150,000 ราย เหลือกำลังคอยก่อกวนแค่ 900 รายเท่านั้น สหรัฐ ต้องหันไปหากลุ่มกบฎชาวเคิร์ด SDF ในอิรักให้มาช่วยแทน
ตั้งแต่ปี 2558 สหรัฐ ได้ตั้งฐานทัพเถื่อน 9 แห่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยรัฐบาลไม่อนุญาต และสหประชาชาติ ไม่ให้การยอมรับ แต่สหรัฐไม่สน
โดยฐานทัพที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ในเมือง Tell Beidar ทางเหนือของศูนย์กลางการปกครองของแคว้น Hasakah ราว 620 กิโลเมตร จากเมืองหลวงกรุงดามัสกัส เพื่อปล้นสดมป์ขโมยทรัพยากรน้ำมัน และก๊าซ 80% ที่ผลิตได้ในดินแดนซีเรีย
เดือนมิถุนายน 2560 รัสเซีย ใช้ขีปนาวุธจากเรือรบ โจมตีกลุ่มก่อการร้าย ISIS ครั้งสุดท้าย ระหว่างปฏิบัติการ Great Dawn ซึ่งส่งผลให้กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้เป็นปุ๋ยเฝ้าทะเลทรายจนแทบสูญพันธุ์
ท่ามกลางการร้องขอห้ามปรามจากสหรัฐ และพันธมิตร แต่รัสเซียไม่สนใจ ยังคงร่วมกับกองทัพซีเรีย ถล่มไปจนถึงเมือง Abu Kemal และปลดปล่อยเมืองดังกล่าวจากกลุ่ม ISIS โปรสหรัฐ กลับมาอยู่ใต้การปกครองของซีเรีย ภายในสิ้นปี 2560
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2566 เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ขณะบินลงจอดในเมืองอัช ชัดดาดี ซีเรีย ถูกยิงด้วยจรวดต่อต้านอากาศยานจากนักรบซีเรีย จนเฮลิคอปเตอร์พังตกลงมา ทำให้มีทหารหน่วยรบเทพบนเครื่องและพื้นดินได้รับบาดเจ็บสาหัส 22 นาย
จากนั้นสหรัฐ สั่งให้กลุ่มติดอาวุธ ISIS เริ่มมีบทบาทมากขึ้นโดยทำการจู่โจมและโจมตีตำแหน่งของกองทัพซีเรีย มีทหาร 25 นาย ถูกสังหารใกล้กับที่ตั้งเมือง Al Mayadin
มีการยั่วยุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเมือง Idlib ทางตะวันตกของเขต Aleppo และทางตอนเหนือของ Latakia โดยกลุ่มก่อการร้าย Nusra กลุ่มย่อยสาขาของกลุ่ม ISIS
มีรายงานความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อพบเครื่องบินรบของกองทัพรัสเซีย ใกล้เคียงในพื้นที่โจมตี แต่เพียงทำการถ่ายภาพเป้าหมายทางอากาศผลการโจมตี นำไปวิเคราะห์ผลความแม่นยำของขีปนาวุธนักรบซีเรีย
แต่ที่เสียวหลังวาบสุด คือกองทัพเรือรัสเซีย ที่ประจำการนอกชายฝั่งซีเรีย ได้ยิงขีปนาวุธร่อนโจมตีสำนักงานใหญ่ของ ISIS ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลทรายระหว่างจังหวัด Homs และ Hama จนเกิดระเบิดขนาดใหญ่
Cr.https://www.blockdit.com/world.update
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454