จากสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ล่าสุด รัสเซียได้ประณามยูเครนในการกระทำที่ถูกระบุว่าเป็นการก่อการร้ายบนสะพานไครเมียเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม โดยระบุว่า เป็นการกระทำที่ทำให้ชีวิตผู้บริสุทธิ์ตกอยู่ในความเสี่ยง พร้อมสาบานว่าจะดำเนินการตอบโต้
ต่อมาทางด้านของ Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่รัสเซีย ได้ยึดดินแดนยูเครนไปแล้วกว่า 53 แห่ง โดยบอกว่า ในการทำสงครามนั้น ฝ่ายใดที่สายป่านยาวกว่าในปัจจัยด้านพลังงาน อาหาร ทรัพยากร แสนยานุภาพทางทหาร การสนับสนุนจากประชาชน โดย “ไม่ต้องร้องขอจากต่างชาติ” ฝ่ายนั้นจะได้เปรียบและชนะในที่สุด เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตร NATO จำนวนกว่า 50 ชาติ ใช้หลักนิยม “พื้นที่สำคัญกว่าทหาร” เสียทหารหมดเท่าไรไม่ว่าสั่งเดินหน้าบุกตีหาเรื่องรุมทำสงครามกับรัสเซีย ชาติเดียวที่ใช้หลักนิยม “ทหารสำคัญกว่าพื้นที่”
รัสเซีย จึงไม่หลงกลออกไปปะทะที่แนวหน้าด้วยแต่ปักหลักสวนด้วยลูกยาวใส่จากระยะไกล ใช้ตำรา “เองมาข้ามุด เองหยุดข้าแหย่ เองแย่ข้าตาม” ซึ่งวิธีนี้สหรัฐ และพวกเคยแพ้ที่ย่อยยับในคราสงครามเวียดนาม , เกาหลี , อัฟกานิสถาน มาแล้ว นายพล Serhiy Krivonos กองทัพยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Pryamiy เขายอมรับตรงไปตรงมาตามสไตล์ทหารว่า กองทัพรัสเซีย อัจฉริยะมากเตรียมพร้อมอย่างดีสำหรับการตอบโต้กองกำลังผสม
ทั้งกลางวันและกลางคืนพวกเขาเหมือนตัวตุ่น ใช้เครื่องจักรขุดสนามเพลาะ เสริมด้วยคอนกรีต วางทุ่นระเบิดต่อต้านรถถังและต่อต้านทหาร ติดตั้งระบบจรวดไฟ และปืนใหญ่รอเราอยู่ พวกเขาไม่ออกมารบแนวหน้า แต่อยู่แนวหลังไกลไปกว่า 45 กม.การส่งทหารกองกำลังผสมและอาวุธมหาเทพบุกเข้าไปในแนวหน้าชั้นแรก 15 กม.ไม่เคยเจอทหารรัสเซีย ไม่รู้จะรบกับใคร
แต่เจอทุ่นดงระเบิดที่รถถัง และยานเกราะ ไม่มีทางฝ่าไปได้ รวมทั้งโดนระดมยิงลูกยาว และโดรนพลีชีพใส่จากระยะไกลมืดฟ้ามัวดินระเบิดลงปานนรกแตก การสูญเสียย่อยยับจึงเกิดขึ้นทุกวัน และยึดพื้นที่แนวหน้าไม่ได้เลย แต่ทางการยูเครน มีการเน้นการประชาสัมพันธ์เกินจริงอย่างมาก แค่รุกคืบได้ 3 เมตร ก็ประโคมข่าวถึงความสำเร็จในชัยชนะแล้วในขณะที่ฝ่ายสัมพันธมิตร ยังติดติดหล่มสงครามในภาคใต้แนวหน้าแค่ 3 เมตรแรกแคว้นซาโปริชเซีย แต่กองทัพเชเชน ลูฮันสค์ โดเนตสค์ ฝ่ายรัสเซีย ได้แอบบุกยึดปลดปล่อยดินแดนทางทางภาคตะวันออกไปอื้อ
ล่าสุดทางการยูเครน ยอมแพ้ในนครขนาดใหญ่ Kupiansk ที่มีเมือง ตำบล หมู่บ้าน ชุมชน ในสังกัดมากถึง 53 แห่ง จัดเป็นเมืองหลักในแคว้นคาร์คิฟเป็นเมืองชุมทางรถไฟที่สำคัญ เป็นที่ตั้งหน่วยงานบริหาร ก่อนสงครามมีประชากรราว 27,169 คน หลังสงครามเมืองนี้ถูกดัดแปลงอาคารต่างๆ เป็นที่ตั้งและที่พักทหารกองกำลังผสมฝ่ายสัมพันธมิตร NATO จึงถูกกองทัพรัสเซีย ทิ้งระเบิดใส่อาคารสูงต่างย่อยยับ
พร้อมส่งกำลังรุกคืบบุกยึดพื้นที่ ทางการยูเครน ประกาศบังคับอพยพทหาร และพลเมืองหนีแล้ว เพราะไม่สามารถควบคุมบริหารดินแดนเหล่านั้นได้อีกต่อไป วันก่อนกองทัพรัสเซีย ยังแสบจัดตัดพลังงานการเดินทัพฝ่ายตรงข้ามโดยปล่อยโดรนแว้นพลีชีพ Genran-2 โจมตีถล่มคลังน้ำมันในแคว้น Rivne ส่งผลให้เกิดไฟลุกไหม้จนสิ้น
และยังปล่อยโดรนไปโจมตีเป้าหมายทางทหาร รันเวย์สนามบิน ที่พักนักบิน ในแคว้น Khmelnitsky , Zhytomyr , และเมืองหลวงกรุง Kyiv
แต่ที่บีบหัวใจมาก คือสื่อตุรกีรายงานว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศมหาเทพ Patriot ที่สนามบินเคียฟจูเลียนี ถูกทำลายด้วยขีปนาวุธร่อน Hypersonic Khinzal (Dagger) โดยอาวุธเทพราคาแพงจัดรุ่นนี้พังไปแล้ว 5 ระบบ
วิเคราะห์ว่า..รัสเซีย ยื้อสงครามในยูเครน เพื่อ “เป็นโรงงานเผาเงินงบประมาณ” ของสหรัฐ สหภาพยุโรป และฝ่ายสัมพันธมิตร ที่ให้กู้ยืมอาวุธมามากมาย เพราะส่งอะไรมาก็ถูกเผาทิ้งทำลายหมดไปฟรีๆ
งบประมาณของชาติตะวันตกที่เก็บภาษีประชาชนมาเข้าคลัง จะถูกยักย้ายออกเป็นค่าเงินกู้อาวุธ ส่งมาเผาทิ้งในยูเครน เงินทุนที่ไหลออกตลอดเวลาจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สัปดาห์ก่อนธนาคารในสหรัฐ เพิ่งล้มละลายไปอีกแห่ง บริษัทขนส่งเก่าแก่ที่สุด ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ก็เพิ่งล้มละลาย รัฐบาลไม่มีเงินช่วยเหลือภาวะฉุกเฉินไฟไหม้รัฐฮาวายจนเผาหมดทั้งเกาะแล้ว
ไฟป่าไหม้ยุโรป ภัยแล้งยุโรป พืชผลการเกษตรถูกทำลายไม่มีเงินงบประมาณช่วยเหลือ นี่คือผลย้อนกลับที่รัสเซีย วางกับดักไว้ ยังไม่รวมคลังธัญพืชที่ท่าเรือฝรั่งเศส เกิดระเบิดใหญ่ไฟไหม้เรียบ จะอดอยากช่วงฤดูหนาว
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454
