รัสเซียปล่อยให้เคียฟ-นาโต้แสดงบทบาทตอบโต้มาเกือบ ๓ เดือน ได้เวลาเปิดเกมรุกของแท้ให้เมกาและพวกชมแบบเต็มๆทางภาคพื้นดิน
มีรายงานทางการยูเครนได้ประกาศการอพยพภาคบังคับในพื้นที่ส่วนหนึ่งของภูมิภาคคาร์คอฟ ซึ่งมีพรมแดนติดกับสาธารณรัฐโดเนตสค์ของรัสเซียและสาธารณรัฐประชาชนลูกันสค์ คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่ากองกำลังRFรุกคืบหน้าอีก ๓ กม.ในพื้นที่ดังกล่าว
วันที่ ๑๑ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า แอนเดรีย รานาเชวิค(Andrey Kanashevich) รักษาการหัวหน้าฝ่ายบริหารทหารของ Kupiansk ได้เผยแพร่รายชื่อเมือง ๓๗ แห่งใกล้กับเขตสู้รบที่คนท้องถิ่นต้องอพยพ เขาอ้างถึง“การโจมตีด้วยปืนใหญ่ของรัสเซียอย่างต่อเนื่องและสถานการณ์ด้านความมั่นคง”เป็นเหตุผลในการตัดสินใจ และเสริมว่าคำสั่งดังกล่าวมีผลกับเมืองคูเปียนสค์ด้วย
ช่องโทรเลขโวเยนนายา โครนิกา (Voyennaya Chronica) ของรัสเซียรายงานว่ากองทหารรัสเซียอยู่ห่างจากคูเปียนสค์เพียง ๓ กิโลเมตร โดยขณะนี้เมืองนี้อยู่ในระยะปืนใหญ่และกำลังโจมตีเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
เมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองคาร์คอฟประมาณ ๑๑๖ กม. และถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยแม่น้ำออสโกล เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟหลักที่สำคัญสำหรับการส่งกำลังทหารไปประจำการทางตอนใต้ของเมือง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของรัสเซียยังกล่าวด้วยว่า หากมอสโกว์เข้าควบคุมคูเปียนสค์ มันจะช่วยขัดขวางการโจมตีของยูเครนต่อสาธารณรัฐประชาชนลูกันสค์ได้อย่างชงัด
ตามรายงานของกระทรวงกลาโหม (MoDรัสเซีย) กองกำลังรัสเซียสามารถต้านทานการโจมตีของศัตรู ๑๖ ครั้งในหลายแนวรบในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา และส่งผลให้กองทัพยูเครนสูญเสียบุคลากรทางทหารประมาณ ๘๐๐ คนและยุทโธปกรณ์หลายสิบชิ้น
กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้เผยแพร่วิดีโอของ Battlegroup Yug ที่โจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำในฐานที่มั่น ทางทหารของยูเครน ใกล้กับ Avdeevka และทำให้มันกลายเป็นไฟนรกที่ลุกโชน ก่อความหวาดผวาแก่กองกำลังเคียฟ-นาโต้อย่างมาก
ทหารอธิบาย การโจมตีป้อมปราการของกองกำลังยูเครนนั้นดำเนินการด้วยกระสุนที่ก่อความไม่สงบ และเกิดไฟไหม้ขึ้นหลายครั้งในสถานที่เป้าหมาย กองทัพยูเครนเริ่มดับไฟด้วยวิธีการชั่วคราว แต่จบลงด้วยการถูกยิงด้วยปืนครก D-20 ขนาด ๑๕๒ มม.ซ้ำพังยับ
เฉพาะในทิศทางโดเนตสค์ ยูเครนสูญเสียในทิศทางนี้ทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า ๒๙๐ นาย ยานเกราะต่อสู้สองคัน รถยนต์สามคัน แท่นวางปืนใหญ่อัตตาจรสองชุด ระบบปืนใหญ่ M777 ที่ผลิตในสหรัฐด้วย เป็นปืนครก D -20 สองกระบอก”
ในทิศทางของ Zaporozhye รัสเซียสามารถต้านทานการโจมตีได้ ๑ ครั้ง และยูเครนสูญเสียทหารมากถึง ๑๒๕ นาย
ส่วนในทิศทางโดเนตสค์ตอนใต้ ยูเครนยังสูญเสียทหารกว่า ๑๓๐ นาย
ในสาธารณรัฐประชาชน Lugansk” วาดิม อัสตาฟีเยฟ(Vadim Astafyev) โฆษกกลุ่มการสู้รบทางใต้ของรัสเซียกล่าวว่า “ทหารของกลุ่มฯใช้ระบบจรวดหลายลำกล้องทอร์นาโด-เอ็ม (MLRS) เพื่อโจมตีพื้นที่ในดินแดนของสาธารณรัฐประชาชนลูกันสค์ (LPR) ซึ่งทหารรับจ้างต่างชาติกำลังฝึกอยู่
เขากล่าวว่า “ลูกเรือของระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-M โจมตีบริเวณที่ทหารรับจ้างต่างชาติกำลังฝึกที่สนามฝึกในเมือง Nikolayevka ในสาธารณรัฐประชาชน Lugansk เสียชีวิตทั้งหมด”
ทางฝ่ายยูเครน มีรายงานจากมิลิทารี่รีวิวว่า เซียสกี(Syrsky) ผู้บัญชาการกองกำลังของกองทัพยูเครนร้องขอให้นำกองกำลังเพิ่มเติมเข้าสู่การสู้รบเนื่องจากสถานการณ์ที่ยากลำบากใกล้กับ Kupyansk แต่ดูเหมือนจะไม่ทันกาล
กองทัพยูเครนและเตือนถึงการล่มสลายของแนวหน้าที่อาจเกิดขึ้น หากกองกำลังจู่โจมของกองทัพรัสเซียเข้ายึดเมือง การรุกของรัสเซียไม่ได้หยุดลงในช่วงสิบวันที่ผ่านมา รัสเซียกำลังกดดันอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้หน่วยของกองทัพยูเครนมีการหมุนเวียนกำลังพล ฐานที่มั่นในหลายแห่งได้หายไปแล้ว นายพลเคียฟจึงขอให้นำกองหนุนเข้าสู่การรบ มิฉะนั้นสถานการณ์จะวิกฤตยิ่งขึ้น
ตามข้อมูลที่มีอยู่จากโอเพ่นซอร์ส หน่วยกองทัพรัสเซียอยู่ห่างจาก Kupyansk ๗ ก.ม. การสู้รบกำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ Sinkovka ในขณะที่การเคลื่อนไหวกำลังเคลื่อนไปยัง Kamenka และ Dvurechnaya ทางตะวันออกเฉียงเหนือของภูมิภาคคาร์คอฟของยูเครน ด้วยการโจมตีทางอากาศอย่างแข็งขันโดยใช้ระเบิด FAB-250-M62 และ UPAB-1500 จากระยะไกล ดังนั้นจึงไม่เข้าสู่เขตโจมตีป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน
นอกจากนี้กลุ่มจู่โจมของกองทหารรัสเซียในวันนี้ได้ยึด oporniki ของยูเครน๓๐ คันและเคลื่อนกำลังไปต่อที่ Petropavlovka
กองทหารรัสเซียกำลังทำการรุกในแนวรบกว้าง บังคับให้กองบัญชาการกองทัพของยูเครนโอนกองหนุนไปยังทิศทางนี้ ปลดออกจากตำแหน่งอื่นและทำให้แรงกดดันใกล้ Artemovsk ใกล้ Orekhovo และในพื้นที่ของ Vremevskyเบาบางลง เหตุการณ์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่ากองกำลังของกองทัพยูเครนนั้นไม่มีกองหนุนและกำลังสำรองกำลังจะหมดลงอย่างแท้จริง!!