สงครามเศรษฐกิจคุกรุ่น ท่ามกลางสงครามพื้นที่ในสมรภูมิยูเครนที่มีแนวโน้มขยายวงสู่ยุโรป หรืออย่างน้อยก็โปแลนด์กองหน้าต้านรัสเซียอย่างออกหน้าออกตา จับตาการประชุมBRICS สัปดาห์หน้าอุณภูมิขัดแย้งยิ่งเดือด เมื่ออาฟริกาคุโชนหลังรัฐประหารล่าสุดที่ไนเจอร์ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของทวีปมีโอกาสเผชิญหน้าทางทหาร ทั้งระหว่างคนอาฟริกันด้วยกันและกับประเทศเจ้าอาณานิคมทั้งเก่าและใหม่ ในขณะที่การประชุมสำคัญระดับพลิกโลกกำลังจะเกิดขึ้นที่อาฟริกาใต้
จีนซึ่งเป็นแกนนำหลัก หนึ่งในห้าเสือแห่งBRICS ยังคงเดินหน้า de-dollarizations อย่างเอาการเอางาน หลังจากไม่ซื้อพันธบัตรสหรัฐฯเพิ่มก็ยังคงตุนทองคำแท่งอย่างต่อเนื่อง
วันที่ ๑๐ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิครายงานว่า เพื่อ’เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด’ จีนกระจายความด้วยการเพิ่มถือทองคำ สดทุนสำรองดอลลาร์สหรัฐกลายเป็นเดิมพันที่มีความเสี่ยง
การที่จีนใช้ทุนสำรองที่ไม่ใช่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่จีนมีอยู่ ซึ่งรวมถึงทองคำแท่งจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ กำลังได้รับแรงหนุนจากความไม่เสถียรของเงินดอลลาร์สหรัฐ ประเทศต่างๆ เช่น รัสเซีย ซึ่งมีทุนสำรองไม่กี่ดอลลาร์ เสนอทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับนักลงทุนและผู้ค้า
จีนยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคงเพื่อมุ่งสู่การลดค่าเงินดอลลาร์ โดยมีรายงานเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่ ๙ ติดต่อกันของการซื้อทองคำ และเงินสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนยังสูงกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญตะวันตกคาดการณ์ไว้”
ธนาคารประชาชนจีน(PBOC) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของรัฐระบุว่า “เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารได้ซื้อทองคำแท่งจำนวน ๒๓ ตัน หรือ ๗๔๐,๐๐๐ ทรอยออนซ์ นั่นทำให้คลังสินค้าทั้งหมดมีน้ำหนักทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ ๒,๑๓๗ ตัน มีการเพิ่มประมาณ ๑๘๘ ตันท่ามกลางความคึกคักในการจับจ่ายทอง ที่เริ่มเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ธนคารกลางฯระบุว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น ๑๑,๓๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ค. ตามรายงานรวมแล้วเท่ากับ ๓.๐๒ ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญตะวันตกประเมินไว้ก่อนหน้านี้
คริส เดวอนแชร์-เอลลิส(Chris Devonshire-Ellis)ประธานบริษัท Dezan Shira & Associates ผู้ซึ่งทำงานด้านการลงทุนและธุรกิจในจีน รัสเซีย และเอเชียมากว่า ๓๐ ปีกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “จีนมีแรงจูงใจหลักมาจากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งการเมืองเกี่ยวกับหนี้สาธารณะในประเทศของสหรัฐฯกำลังคุกคามฐานะความมั่นคงของสกุลเงินดอลลาร์”
เขากล่าวว่า “เป็นที่ชัดเจนว่าจีนกำลังกระจายพอร์ตการลงทุนและเพิ่ม ‘ความแข็งแกร่ง’ ให้กับทุนสำรอง ทองคำสำรองถือเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงที่เชื่อถือได้เสมอในช่วงเวลาที่ปั่นป่วน”
“มีปัญหาอยู่ ๒-๓ ประการคือ พวกเขาไม่สามารถลดการถือครองหนี้สหรัฐฯ จำนวนมากได้ในคราวเดียว เพราะจะทำให้มูลค่าคงเหลือลดลงและทำให้ดุลการค้าในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯทั่วโลกเสียสมดุล แต่พวกเขาสามารถทำได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์ระยะยาวและอาจใช้เวลาสองสามทศวรรษในการแปลงหนี้สหรัฐเป็นสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้สภาวะปกติ”
Ellis ชี้ให้เห็นว่า“นั่นถือว่าหากสิ่งต่างๆยังคงเป็นปกติ แต่นี่เป็นช่วงเวลาที่ปั่นป่วน สหรัฐจะแตะเพดานหนี้อีกครั้งในปีหน้า พวกเขาสามารถผิดนัดชำระหนี้ได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขาไดนปรับลดอันดับความเสี่ยงด้านเครดิตโดย Fitch ratingซึ่งทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของชาวอเมริกันสูงขึ้น”
เขาตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว รัสเซียมีหนี้ต่างประเทศน้อยมาก แทบจะไม่มีเงินทุนสำรองต่างประเทศเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐเลย และเงินรูเบิลก็ “เข้าสู่การประเมินมูลค่าทางการค้าที่สมเหตุสมผลและยั่งยืนซึ่งช่วยสนับสนุนการผลิตภายในและการส่งออก” นอกจากนี้รัสเซียยังสะสมเงินตราต่างประเทศอื่น ๆ มากกว่าดอลลาร์หรือยูโรอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า“จีนใช้กลยุทธ์ ‘หวังว่าจะดีที่สุด’ โดยหวังว่าสหรัฐฯ จะไม่ผิดนัดชำระหนี้ในเร็วๆ นี้ เพราะผมคิดว่าพวกเขาไม่พร้อมที่จะรับผลกระทบดังกล่าว แต่ในขณะเดียวกันก็เตรียมกลยุทธ์ ‘เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด’ ในการดำเนินต่อไป การแปลงสกุลเงินของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปในระดับหนึ่ง หนี้และสกุลเงินเป็นทางเลือก รวมถึงเงินสำรองของสกุลเงินอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงเงินหยวนของพวกจีนเอง นอกเหนือจากรูปีอินเดีย เยนญี่ปุ่น เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรูเบิลรัสเซีย รวมถึงสกุลเงินจากการซื้อขายที่มีปริมาณน้อยกว่า เช่น เรียลบราซิล เปโซเม็กซิกัน สกุลเงินแอฟริกาบางสกุล รวมทั้งเงินเอเชียกลาง”
เขาย้ำว่า “ทองคำทำหน้าที่ป้องกันความเสี่ยงและสนับสนุนสิ่งเหล่านี้ได้ หากจำเป็น ชาวจีนสามารถทำให้สกุลเงินขนาดเล็กเหล่านี้มีเสถียรภาพได้ด้วยทองคำสำรอง รัสเซียก็จะทำเช่นกัน”
พอล กอนแชรอฟฟ์(Paul Goncharoff)ที่ปรึกษาด้านการจัดการของ Dezan Shira & Associates ในมอสโกว์กล่าวว่าความเชื่อมั่นระหว่างประเทศที่มีต่อเงินดอลลาร์สหรัฐได้ “หายไป” ทำให้ทุกประเทศที่อยู่นอกกลุ่ม จี๗ ต้องดิ้นรนเพื่อหาสถานที่ที่ดีกว่าในการรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินของตน “แนวโน้มการลดค่าเงินดอลลาร์นั้นไม่สามารถหยุดยั้งได้เนื่องจากความไว้วางใจได้หายไป และทองคำเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด”