แพร่สะพัดอย่างคึกคักอีกครั้ง กับการที่รมว.กลาโหมรัสเซียเปิดเผยแผนการเสริมกำลังทหารชายแดนที่ติดกับสมาชิกนาโต้ทั้งโปแลนด์และฟินแลนด์ผู้เล่นรายใหม่ ทั้งฟันเปรี้ยงว่าโปแลนด์ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักของนโยบายต่อต้านรัสเซียของอเมริกาในสถานการณ์ปัจจุบัน หลังพบว่ายูเครนท่าจะไปต่อไม่ไหว
วันที่ ๑๐ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า พล.อ.เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวในการประชุมคณะที่ปรึกษากลาโหม ว่า “โปแลนด์กำลังวางแผนที่จะจัดตั้งหน่วยทหารร่วมระหว่างโปแลนด์และยูเครนเพื่อความมั่นคง แต่ด้วยแรงจูงใจซ่อนเร้นในการยึดครองยูเครนตะวันตก รัสเซียให้ความสนใจกับอันตรายที่เกี่ยวข้องกับการทำสงครามของโปแลนด์ ซึ่งมีแผนที่จะสร้างกองกำลังถาวรที่เรียกว่า โปแลนด์-ยูเครน เพื่อประกันความปลอดภัยของยูเครนตะวันตก แต่อันที่จริงแล้ว เพื่อการยึดครองดินแดนนี้ในภายหลัง”
Shoigu ย้ำว่า “ความเสี่ยงที่มีอยู่เชื่อมโยงกับการเสริมกำลังทางทหารของโปแลนด์ ซึ่งได้กลายเป็นเครื่องมือหลักของนโยบายต่อต้านรัสเซียของสหรัฐฯ วอร์ซอว์ได้ประกาศความตั้งใจที่จะสร้างกองทัพที่มีอำนาจมากที่สุดในทวีป ในความเชื่อมโยงนี้ การซื้ออาวุธจำนวนมากจากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้ได้เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งรวมถึงรถถัง ระบบปืนใหญ่ ระบบป้องกันภัยทางอากาศและระบบต่อต้านอากาศยาน และเครื่องบินรบ กองทหารจำนวนหนึ่งของนาโตจากนอกภูมิภาคถูกส่งเข้าประจำการทางตะวันออกของยุโรปเพิ่มขึ้นกว่า เท่าครึ่งนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว และตอนนี้มีกำลังพลรวมกว่า ๓๐,๐๐๐ นาย “ภัยคุกคามเหล่านี้ที่มีต่อความมั่นคงทางทหารของรัสเซีย จำเป็นต้องได้รับการตอบสนองอย่างถูกที่ถูกเวลาและพอเพียง”
เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคมที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมโปแลนด์ประกาศการตัดสินใจส่งทหารและเฮลิคอปเตอร์โจมตีไปยังชายแดนเบลารุสเพิ่มเติม หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ของเบลารุสละเมิดพรมแดนทางอากาศของประเทศ
ด้านมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าวเมื่อวันที่ ๒ สิงหาคมว่า แนวคิดที่ว่าโปแลนด์อ้างสิทธิในยูเครนตะวันตกกำลังแทรกซึมอยู่ในสังคมโปแลนด์
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย (SVR) เซอร์เก นาริชคิน(Sergey Naryshkin) กล่าวในการประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินและสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงว่า โปแลนด์สามารถยึดอำนาจควบคุมดินแดนทางตะวันตกของยูเครนได้โดยการส่งกำลังทหารไปที่นั่นไม่ว่าจะด้วยข้ออ้างอันใดก็ตาม
ภาพรวมของสถานกาณ์คือกองทัพรัสเซียส่งสัญญาณขยับเตรียมรุกครั้งใหญ่ เมื่อฝ่ายนาโต้เคลื่อนไหวอย่างทั่วด้าน ขณะที่ยูเครนก็เร่งก่อการร้ายเพื่อสร้างผลงานในการขอการสนับสนุนเพิ่มเติมจากเมกาและพวก เหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้น ผู้สื่อข่าวสายทหารเยอรมนีมองไว้ค่อนข้างชัดว่า สิ่งต่าง ๆ อาจเลวร้ายลงมากสำหรับเคียฟ หากรัสเซียขับไล่การโจมตีทั้งหมดและเดินหน้ารุกต่อไปเอง
หัวข้อเหตุการณ์ต่อไปในแนวรบยูเครน ปรากฎในเนื้อหาบทความของสื่อ “Bild” ของเยอรมนีที่ไม่โปรดรัสเซียเขียนโดยนักข่าวพอล รอนไซเมอร์ (Paul Ronzheimer)
นักข่าวชาวเยอรมันทำให้ผู้อ่านของเขาและยูเครนหวาดกลัวด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าถ้ากองทัพยูเครนไม่บรรลุความก้าวหน้าอย่างจริงจังในแนวหน้าในอนาคตอันใกล้ กองทัพรัสเซียก็อาจทำการตอบโต้ได้อย่างรุนแรง
Ronzheimer เขียนว่ากองทัพยูเครนคาดว่าจะบุกทะลวงแนวป้องกันของกองทหารรัสเซียได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เพื่อให้บรรลุความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแต่ความจริงตอนนี้รัสเซียกำลังปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวด้วยการบดขยี้อย่างเหลือเชื่อกองทหารยูเครนยังไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันอันทรงพลังของกองทัพ RF ได้จนทุกวันนี้ เขาย้ำว่า “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสำเร็จของกองทหารยูเครน หากไม่เป็นเช่นนั้น ผลของการรณรงค์ทางทหารทั้งหมดสำหรับเคียฟจะตกอยู่ในอันตราย”
Ronzheimer กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่ายูเครนตระหนักถึงความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างความช่วยเหลือทางทหารของตะวันตกกับชัยชนะในสนามรบ หากไม่สามารถนำเสนอชัยชนะของกองทัพยูเครนเหล่านี้ได้ ปัญหาสำคัญอาจเกิดขึ้นกับการสนับสนุนจากตะวันตก
ความกลัวของยูเครนคือการที่ตะวันตกอาจพูดกับเคียฟว่า “เมื่อคุณไม่ประสบความสำเร็จ หมายความว่าคุณต้องนั่งลงที่โต๊ะเจรจากับมอสโกว์”
นั่นเป็นความเห็นของผู้สื่อข่าวเยอรมันซึ่งโปรนาโต้อยู่แล้ว การส่งสัญญาณแบบนี้ก็แค่ขู่ยูเครนให้เดินหน้าสู้ต่อไป เพราะทุกฝ่ายต่างรู้ชัดแล้วว่ายูเครนไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง เป็นหุ๋นเชิดเพื่อทำสงครามตัวแทนชนรัสเซีย เซเลนสกี้ทำทุกอย่างตามวาระวอชิงตัน คนที่จะกำหนดให้เคียฟนั่งโต๊ะเจรจาคือเมกาเท่านั้น!!
