กองทัพรัสเซียปรับตัว ‘อย่างรวดเร็ว’ รองรับการใช้ระเบิดกลุ่มหรือคลัสเตอร์บอมบ์ของยูเครน ปัญหาหลังของกองกำลังยูเครนคือบุกเข้าไม่ถึงแนวป้องกันหลัก แม้จะโม้ให้สื่อตะวันตกคุยว่าฝ่าแนวป้องกันรัสเซียไปถึงแนวที่สามสี่แล้วนั้นเป็นเรื่องไม่จริง เพราะเส้นทางเดิมแนวป้องกันเดิม เคียฟ-นาโต้ยังคงส่งทหารมาสังเวยนับไม่ถ้วน
วันที่ ๙ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า กองทหารรัสเซียที่ประจำการในแนวป้องกันซึ่งสามารถหยุดการรุกที่ยูเครนหนุนหลังของยูเครนได้ กำลังปรับตัวให้เข้ากับการใช้คลัสเตอร์บอมบ์ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โดยกองกำลังยูเครน สื่อธุรกิจของสหรัฐฯ รายงานชัดโดยอ้างผู้บัญชาการแนวหน้าของยูเครนและกองทหารที่คุ้นเคยกับ สถานการณ์ว่ากองกำลังผสมของเคียฟ-นาโต้เริ่มใช้คลัสเตอร์บอมบ์แล้วทั้งในเป้าหมายพลเรือนและทหารแนวหน้าของรัสเซีย
ผู้บัญชาการกองร้อยลาดตระเวนของยูเครนคนหนึ่งบอกกับสื่อว่า “คลัสเตอร์บอมบ์นั้นดี พวกมันมีประสิทธิภาพ แต่รัสเซียขุดสนามเพลาะให้ลึกลงไป และพวกเขาเรียนรู้อย่างรวดเร็วที่จะจัดการกับระเบิดพวกนี้” เขาอธิบายว่ารัสเซียได้ขุดสนามเพลาะลึก ๗ ฟุต และกระจายกำลังทหารออกไปทั่วบริเวณกว้างเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียอย่างหนัก ที่สำคัญรัสเซียมีหน่วยแพทย์ทหารที่สามารถปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตทหารที่โดนระเบิดพวกนี้ได้เร็ว
นอกเหนือจากการใช้คลัสเตอร์บอมบ์ของอเมริกาแล้ว มีรายงานว่ากองกำลังยูเครนได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการใช้ยานเกราะขับดัน ไปเป็นการเดินเท้าที่มีค่าใช้จ่ายสูงไปยังตำแหน่งของรัสเซียผ่านทุ่งทุ่นระเบิด ส่งผลให้มี “การบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก” มีรายงานว่าการเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีเกิดขึ้นหลังจากกองกำลังยูเครนสูญเสียรถหุ้มเกราะจำนวนมากให้กับทุ่นระเบิดที่รัสเซียวางเมื่อการตอบโต้เริ่มขึ้นในต้นเดือนมิถุนายน
ผู้บังคับหมวดยูเครนคนหนึ่งของกองทหารที่ได้รับการฝึกฝนจากตะวันตกบอกกับสื่อว่า “เรากำลังทำลายล้างทุ่งด้วยศพ” “มันแย่มาก” อีกคนหนึ่งซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียระหว่างความพยายามรุกคืบ กล่าวว่า จากชาย๖๐ คนที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีตำแหน่งของรัสเซีย มี ๔๕ คนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัส ที่เหลือก็ร่อแร่
กลุ่มอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธวิธีใหม่ไม่อนุญาตให้กองกำลังของยูเครนเข้าถึง “แนวป้องกันที่น่าเกรงขามที่สุดของรัสเซีย”ได้ ซึ่งประกอบด้วยสนามเพลาะทหารราบ กับดักรถถัง และสิ่งกีดขวางอื่นๆ ซึ่งต้องใช้รถถังหนักในการเจาะทะลวงแต่รถถังที่เข้ามาส่วนใหญ่ก็ถูกLancet ถล่มหรือไม่ก็ทหารราบรัสเซียถล่มยับด้วยเครื่องยิงประทับบ่า รอดจากนี้ก็จะเจอกับดักทุ่นระเบิดซึ่งไม่มีสัญญลักษณ์ด้วยว่าอยู่ตรงไหนบ้างในทุ่งกว้างไร้ร้างผู้คน
ทหารยูเครนคนหนึ่งกล่าวว่า “ด้วยคลัสเตอร์บอมบ์ คุณยิงไป ๓ ครั้ง ต้นไม้ก็พังราบเป็นหน้ากลอง” โดยอ้างถึงพื้นที่ป่าที่เต็มไปด้วยกองทหารรัสเซีย ซึ่งทำให้การรุกคืบทำได้ยาก เมื่อต้นไม้ถูกทำลายกองทหารรัสเซียก็ไม่มีที่ซุ่มโจมตี
วัดกันไปเวลาประจันบาน แต่ก็ต้องผ่านลูกยาวของรัสเซียและกระสุนปืนใหญ่จากรัสเซียก่อนชั้นหนึ่งด้วย
ช่วงวันที่ผ่านมาในพื้นที่คราสนีย์-ลิมัน หน่วยของกลุ่มกองกำลังศูนย์กลางของรัสเซียได้ขัดขวางการโจมตีที่ของยูเครน ๖ครั้งในทิศทางของสวาโตโวและคราสนีย์ ลิมาน โดยยูเครนสูญเสียทหารไปประมาณ ๖๐ นาย
อเล็กซานเดอร์ ซาฟชุก (Alexander Savchuk) หัวหน้าศูนย์ข่าวของกลุ่มกล่าวว่า “หน่วยของกลุ่มกองกำลังศูนย์กลาง ได้รับการสนับสนุนจากการยิงปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศได้ขัดขวางและขับไล่การโจมตีของหน่วยจู่โจมของกองพลยานยนต์ที่๒๑ และ ๔๒ และกองพลเยเกอร์ที่ ๖๘ ของกองกำลังยูเครนในระหว่างการป้องกันเชิงรุกบนแนวยึดครองของรัสเซีย”
เขาเสริมว่ายานพาหนะต่อสู้ของทหารราบยูเครน รถหุ้มเกราะ และรถกระบะสองคันถูกทำลาย กองกำลังยังโจมตีฐานที่มั่นของยูเครน ๒ แห่ง ฐานบัญชาการและสังเกตการณ์ ๑ แห่ง และศูนย์บุคลากรทางทหารชั่วคราว ๒ แห่ง
ล่าสุดมีรายงานว่าการป้องกันทางอากาศของรัสเซียสกัดโดรนต่อสู้ ๒ ลำที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้กรุงมอสโกว์อีกครั้ง นายกเทศมนตรีเซอร์เก ซอบยานิน (Sergey Sobyanin) ได้ระบุว่าโดรนลำหนึ่งตกใกล้กับโดโมเดโดโว และลำที่สองถูกกำจัดบนทางหลวงสายมอสโกว์-มินสค์
นายกเทศมนตรีกล่าวว่าไม่มีข้อมูลในทันทีเกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายจากเศษซากที่ตกลงมา พร้อมเสริมว่าหน่วยฉุกเฉินกำลังทำงานอยู่ที่ไซต์