แม้รัสเซียและผู้นำวากเนอร์จะเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีอาฟริกาอย่างระมัดระวัง เพราะการดำเนินนโยบายทางการทูตและเศรษฐกิจของรัสเซียและอาฟริกาเป็นไปอย่างก้าวหน้าดูได้จากการประชุมรัสเซีย-อาฟริกาที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเร็วๆนี้
แต่พอเกิดการรัฐประหารในไนเจอร์ สหรัฐฯก็เป็นฝ่ายเริ่มเปิดเกมก่อน โดยส่งนูแลนด์เจ้าแม่ปฏิวัติส้มในวิกฤตไมดานที่ยูเครน ไปขู่สำทับทีมรัฐประหารว่า อย่าไปยุ่งกับวากเนอร์ หลังมีกระแสข่าวไนเจอร์ทำสัญญาจ้างวากเนอร์มาลุย เตรียมชนกับกองกำลังโปรตะวันตกที่ออกหน้าโดยอีโควาส แต่สุดท้ายหน้าแตกเพราะประเทศสมาชิกหลายแห่งไม่เล่นด้วย
เมื่อนูแลนด์เอ่ยถึงวากเนอร์โดยไม่ปิดบัง ปริโกชินในฐานะลูกพี่ใหญ่ของวากเนอร์ก็ขอออกความเห็นในฐานะผู้ถูกพาดพิงจนได้
วันที่ ๙ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ และนิวส์วีค รายงานเรื่องนี้อย่างมีสีสันเยฟเกนี ปริโกชิน(Yevgeny Prigozhin) ผู้นำกลุ่มวากเนอร์ กองกำลังทหารเอกชน กล่าวว่า “นักการทูต ‘สะใภ้ไมดานอย่างวิคตอเรีย นูแลนด์”พยายามขู่คณะรัฐประหารไนเจอร์ให้ กันกองทหาร Wagner ออกห่างจากไนเจอร์ เขายิ้มอ่อนรู้สึกมีความสุขที่ถูกกล่าวถึง
เขาเย้ยว่า “การกล่าวถึง Wagner PMC เพียงอย่างเดียว ว่าจะเอาหรือไม่เอา สามารถทำให้สหรัฐฯพิจารณายอมรับรัฐบาลใหม่ในไนเจอร์ได้”
ปริโกชินกล่าวว่า “เขาภูมิใจในสมาชิกของกองร้อยทหารส่วนตัวของเขา เพราะเพียงแค่เอ่ยชื่อของพวกเขาก็สามารถบังคับให้วอชิงตันประเมินตำแหน่งใหม่ได้”
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ปริโกซินถูกขอให้แสดงความเห็นกับนักข่าวทางโทรศัพท์เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเยือนไนเจอร์เป็นการส่วนตัวของนูแลนด์ และคำแนะนำของเธอต่อรัฐบาลใหม่ที่ไม่ให้ทำข้อตกลงใด ๆ กับวากเนอร์
พริโกซินตอบว่า“ฉันภูมิใจในตัวเด็กๆ จากวากเนอร์” “แค่นึกถึงพวกเขาก็ทำให้ ISIS และ Al Qaeda กลายเป็นตัวเล็ก เชื่อฟัง และเป็นเด็กเนียน และแม้แต่สหรัฐฯก็จะยอมรับรัฐบาลที่ไม่รู้จักเมื่อวานนี้ เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงการคบหากับWagner PMC ในประเทศ” “สิ่งนี้นำมาซึ่งความสุข จริงไหมคุณนาย Nuland”เขาเหน็บคนมักคุ้นซะด้วย
หนึ่งในสมาชิกของรัฐบาลทหารใหม่ในไนเจอร์ พล.อ.ซาลิฟู มูดี (Niger, Gen. Salifou Moody)มีรายงานว่าขอความช่วยเหลือจากวากเนอร์เพื่อช่วยปกป้องอำนาจของพวกเขา ผู้นำการรัฐประหารกำลังเผชิญกับเส้นตายที่ใกล้เข้ามาในการคืนอำนาจให้กับประธานาธิบดีโมฮาเหม็ด บาซูม ที่ถูกขับไล่กลับคืนสู่อำนาจ หรือเผชิญกับการแทรกแซงทางทหารที่อาจเกิดขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันจันทร์ นูแลนด์ ผู้มีบทบาทในเหตุการณ์ที่นำไปสู่การก่อรัฐประหารในยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกในปี ๒๕๕๗ เปิดเผยว่า เธอได้พบกับมูสซา บาร์มู หัวหน้าฝ่ายกลาโหมคนปัจจุบันของไนเจอร์ และผู้บัญชาการอาวุโสอีก ๓ คนเป็นการส่วนตัว เพื่อเรียกร้องให้พวกเขาฟื้นฟูรัฐธรรมนูญ คืนตำแหน่งแก่ปธน.คนกอนผู้ซี่งเป็นที่ไว้วางใจของเมกา
ผู้นำคนใหม่ของไนเจอร์กลับละเว้นจากการให้คำมั่นใดๆ เกี่ยวกับประเด็นนี้ในขณะเดียวกัน มอสโกว์กล่าวว่าพวกเขาต่อต้านการแทรกแซงของต่างชาติใดๆ ต่อสถานการณ์ในไนเจอร์ โดยฟันธงว่าเป็นไปได้มากที่จะล้มเหลวในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้น โฆษกของเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ แสดงความหวังว่าประเทศที่ปั่นป่วนจะกลับคืนสู่“ภาวะปกติตามรัฐธรรมนูญ” ในเร็วๆ นี้
หันมาดูบริวารเมกา สมาชิกนาโต้อย่างโปแลนด์ กำลังเคลื่อนไหวหนักทางการทหารเพราะหลอนวากเนอร์ ล่าสุดกองทัพโปแลนด์เสริมกำลังตามแนวชายแดนด้านเบลารุสเพิ่ม หลังพบผู้ลี้ภัยที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ และการปรากฏตัวของหน่วยปฏิบัติการที่ทำงานให้บริษัทวากเนอร์ กรุ๊ป กลุ่มทหารเอกชนรัสเซีย
ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนท้องถิ่นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมโปแลนด์ อนุมัติคำขอของ โธมัสซ์ พรากา ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ชายแดนของประเทศ สำหรับส่งทหารเพิ่มเติมอีก ๑,๐๐๐ นาย ไปแนวหน้าโปแลนด์-เบลารุส อ้างถึงสถานการณ์ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน โปแลนด์มีทหารประจำการตามแนวชายแดนเบลารุสอยู่ก่อนหน้าราว ๒,๐๐๐ นาย
คำขอเสริมกำลังครั้งนี้มีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยโปแลนด์ กล่าวอ้างว่าแรงกดดันเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดนโปแลนด์ติดกับเบลารุสมีมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าสถานการณ์การไหลบ่าเข้ามาผิดปกติของผู้ลี้ภัยไม่มีทางเป็นไปได้ หากปราศจากการสมรู้ร่วมคิดกับบรรดาเจ้าหน้าที่พิทักษ์ชายแดนเบลารุส
อ้างอิงข้อมูลจากผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ชายแดนของโปแลนด์ พบว่าในปีนี้มีคนพยายามเข้าชายแดนแบบผิดกฎหมายไปแล้วกว่า ๑๙,๐๐๐ คน ในขณะที่ตลอดทั้งปี๒๐๒๒ ที่ผ่านมามีเพียง ๑๖,๐๐๐ คนเท่านั้น
ความตึงเครียดตามแนวชายแดนเพิ่มสูงขึ้นไปอีกในสัปดาห์ที่แล้ว หลังโปแลนด์อ้างว่าเฮลิคอปเตอร์เบลารุส ๒ ลำ ล่วงละเมิดน่านฟ้าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม มินสก์ปฏิเสธคำกล่าวหาและบอกว่าได้มอบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเที่ยวบินดังกล่าวแก่วอร์ซอแล้ว และยืนยันว่าคำกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แต่วากเนอร์บอกว่าตอนนี้มีทหารของกลุ่มอยู่ชายแดนแค่ ๗,๐๐๐ เอง!!??
