ตาแหก!! สหรัฐฯโวยรัสเซีย-จีนท้าทาย จัดหนักเรือรบ ๑๑ ลำควงลาดตระเวนเฉียดอะลาสก้า เรือพิฆาตมะกันแจวอ้าว

0

เรือรบรัสเซียและจีนกลุ่มใหญ่แล่นผ่านใกล้ชายฝั่งอลาสกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีกลุ่มเรือพิฆาตของสหรัฐฯ ตะเกียกตะกายเพื่อหลบหลีกการลาดตระเวนของกองทัพเรือร่วมรัสเซีย-จีน  ตามการระบุของเจ้าหน้าที่กลาโหมและสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯชี้ว่าเป็นการคุกคามต่อสหรัฐฯและเชียร์ให้สั่งสอน แต่แห้วเพราะเรือรบสหรัฐฯแจวอ้าวหลีกเลี่ยงไม่ปะทะ

วอชิงตันเชื่อว่าตนมีสิทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่จะส่งเรือรบไปทุกที่ที่ต้องการ แต่เมื่อ ‘คู่แข่ง’ ทำเช่นเดียวกัน ก็ถือว่าเป็นภัยคุกคาม

วันที่ ๘ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่าวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ๒ คนซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐอลาสกาแถลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถึงกรณีการลาดตระเวณของรัสเซียและจีนในมหาสมุทรแอนตาร์ติก  

ลิซา เมอร์คอฟสกี้ และแดน ซัลลิแวน สว.ของอลาสกา(Senators representing the state of Alaska – Lisa Murkowski and Dan Sullivan) กล่าวว่า “มีการตรวจพบเรือทั้งหมด ๑๑ ลำที่ “ผ่านน่านน้ำสหรัฐในหมู่เกาะอะลูเทียน” สื่อบอกว่าเป็นการบรรยายสรุปแบบลับๆ และระบุกิจกรรมดังกล่าวว่า “เป็นการบุกรุก” บรรยายลับแต่แพร่สะพัดในสื่อตะวันตก

ซัลลิแวนกล่าวว่า “นับเป็นการย้ำอีกครั้งว่าเราได้เข้าสู่ยุคใหม่ของการรุกรานของเผด็จการที่นำโดยกรุงปักกิ่งและมอสโกว์”พร้อมเสริมว่าเขาจะยินดีที่ได้เห็นการตอบโต้ที่รุนแรงของสหรัฐฯ เกี่ยวกับเรือพิฆาตอเมริกัน ๔ ลำ ที่อยู่ในสถานที่เวลานั้น อ้าวไม่ยังกะปะทะกลับเผ่นกลับฐานมารายงานเท่านั้นฝ่ายเชียร์ให้เกิดความรุนแรงเลยเก้อ

หน่วยบัญชาการเหนือของสหรัฐฯ ยืนยันว่าเรือรัสเซียและจีนกำลังทำการลาดตระเวนในพื้นที่ดังกล่าวจริง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนเรือที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ โฆษกของหน่วยงานยังระบุด้วยว่า ตามรายงานของ Wall Street Journal ว่า“ทรัพย์สินทางอากาศและทางทะเลภายใต้คำสั่งของเราได้ปฏิบัติการเพื่อประกันการป้องกันของสหรัฐฯ และแคนาดา” ภาษาหรูแต่ไม่บอกว่ายิงหรือเตือนหรืออะไร ซึ่งผิดธรรมเนียมของการโฆษณาของสหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ไม่ได้ยืนยันคำพูดของวุฒิสมาชิกเกี่ยวกับ“การรุกราน”ของกองเรือรัสเซีย-จีนแต่อย่างใด แต่เน้นว่ากองกำลังจีน-รัสเซีย“ยังคงอยู่ในน่านน้ำสากลและไม่ถือว่าเป็นภัยคุกคาม”

วอลสตรีทเจอร์นัล(WSJ) รายงานว่า เบรนต์ แซดเลอร์ นักวิจัยอาวุโสของมูลนิธิเฮอริเทจ (Brent Sadler, a senior research fellow at the Heritage Foundation)เรียกการลาดตระเวนครั้งนี้ว่า“เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์”และ“เป็นการยั่วยุอย่างมาก”เมื่อพิจารณาถึงความตึงเครียดเหนือไต้หวันและความขัดแย้งในยูเครน 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่ากองทัพเรือมอสโกว์ยังคงลาดตระเวนในมหาสมุทรแปซิฟิกร่วมกับเรือรบของจีน โดยแล่นผ่านทะเลญี่ปุ่น ช่องแคบลาเปรูส ทะเลโอค็อตสค์ และช่องแคบคัมชัตกา พร้อมเสริมว่าการฝึกซ้อมเกี่ยวข้องกับการฝึกต่อต้านเรือดำน้ำร่วมกัน ตลอดจนการลงจอดและการบินขึ้นของเฮลิคอปเตอร์จากดาดฟ้าเรือของกันและกัน

หลิว เปงหยู(Liu Pengyu) โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ wargamesที่สหรัฐฯอ้าง  ยืนยันว่า”การกระทำนี้ไม่ได้มีเป้าหมายที่บุคคลหรือประเทศที่สามใด ๆ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ระหว่างประเทศและภูมิภาคในปัจจุบัน”เห็นได้ชัดว่าหมายถึงความขัดแย้งในยูเครนและ ความขัดแย้งระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งเหนือไต้หวัน  

ถ้าเป็นคนทั่วไปคงบอกว่า ก็เป็นการลาดตระเวนในเส้นทางเดินเรือปกติเพราะเสรีภาพต้องเปิดกว้าง แบบที่เมกาและพันธมิตรใช้อ้างอยู่ตลอดเวลาไปแล่นเรือในช่องแคบไต้หวันหรือแถวๆทะเลเหลืองเฉี่ยวเกาหลีเหนือและตอนนี้ก็มาวนเวียนอยู่แถวทะเลจีนใต้ถี่เป็นพิเศษ

นิโคไลย์ เอฟเทนอฟ(Nikolay Evmenov) หัวหน้ากองทัพเรือรัสเซียกล่าวในระหว่างการเยือนจีนเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า “มอสโกว์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมความร่วมมือทางทหารกับปักกิ่ง หลี ฉางฟู่(Li Shangfu) รัฐมนตรีกลาโหมของจีนแสดงความมั่นใจว่าทั้งสองประเทศ“จะเสริมสร้างการสื่อสารในทุกระดับ และจัดการซ้อมรบร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ”

การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่ผ่านมา มีส่วนร่วมในการเสริมกำลังทางทหารอย่างเต็มที่ในบริเวณรอบนอกของทั้งจีนและรัสเซีย ในลักษณะที่แสดงเป็นนัยว่าพวกเขามีสิทธิ์โดยไม่มีเงื่อนไขที่จะทำเช่นนั้น พฤติกรรมนี้ไม่เพียงก่อให้เกิดสงครามตัวแทนในยูเครนเท่านั้น  แต่ยังเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดสงครามครั้งใหม่เหนือช่องแคบไต้หวันด้วย แน่นอน ความจริงก็คือทั้งรัสเซียและจีนต่างก็ไม่เป็นภัยคุกคามต่ออลาสก้าแต่อย่างใด เพราะความขัดแย้งหรือความเสี่ยงนั้นอยู่ที่ประตูหน้าบ้านของพวกเขาเอง ไม่ใช่ของอเมริกาเพราะอเมริกาชอบแอบหลังดันให้ตัวแทนออกหน้าสู้

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีการกระจายฐานทัพมากที่สุดในโลก และมีพฤติกรรมการทหารที่ก้าวร้าวที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ โดยอ้างว่าสนับสนุนเสรีภาพ-ประชาธิปไตยและการตัดสินใจด้วยตนเองของผู้อื่น ในความเป็นจริง กลับโอบล้อมรัฐต่างๆ อย่างยั่วยุและมองว่าเป็นคู่แข่งในการครอบงำโลกของตนเองจะมาแย้งผลประโยชน์ของตน  เพิ่มความตึงเครียดอย่างไม่สนใจผลกระทบของผู้อื่น และเมื่อรัฐเหล่านี้ตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างเป็นตัวของตัวเอง ก็ตราหน้าพวกเขาว่าเป็น “ผู้รุกราน” 

ต่อรัสเซีย สหรัฐฯได้ผลักดันการขยายตัวของนาโต้ไปทางตะวันออกอย่างไม่หยุดยั้งนับตั้งแต่สงครามเย็น ดูดกลืนอดีตสมาชิกในระบบพันธมิตรของสหภาพโซเวียต แม้ว่ารัสเซียจะไม่มีความตั้งใจที่จะแข่งขันกับสหรัฐฯก็ตาม นาโต้ได้พัฒนาจากหน่วยของการป้องกันตนเองโดยรวมในภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง ไปสู่สงครามครูเสดทางอุดมการณ์ทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตอบสนองเป้าหมายของสหรัฐอเมริกา คำว่า “แอตแลนติกเหนือ” หรือนาโต้ ในชื่อนั้นซ้ำซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากวันนี้วอชิงตันขยายบทบาทไปยังเอเชียและแปซิฟิกอย่างเข้มข้น มุ่งหน้าต้านจียอย่างโจ่งแจ้ง!!???