รุกกลับ!! รัสเซียจัดคุยBRICS สันติภาพยูเครนหลังประชุมเจดดาห์ไม่มีมติใหม่ กี้ไม่กล้าโวลอบบี้ประณามรัสเซียไม่เวิร์ค

0

บาทบาทของซาอุดิอาระเบียที่ก้าวเข้ามาเรื่องสันติภาพยูเครน เป็นที่สนใจของทุกฝ่ายเพราะดูเหมือนว่าเมกาและตะวันตกชงแผนสันติภาพของเซเลนสกี้ฝ่ายเดียวต่อ ๔๒ ประเทศที่ได้รับเชิญ สำนักข่าว DPA กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูตว่า ประเทศเจ้าภาพซาอุดีอาระเบีย และประเทศอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เสนอแผนสันติภาพใหม่โดยเสนอการรักษาความสมบูรณ์ของยูเครน การหยุดยิงในแนวหน้าทั้งหมด การเริ่มต้นการเจรจากับตัวแทนของสหประชาชาติ และการแลกเปลี่ยนนักโทษ ซึ่งซาอุดีอาระเบียได้แจ้งรัสเซียเกี่ยวกับการปรึกษาหารือนี้แล้ว

ในขั้นต้นตามแหล่งที่มาของ DPA มีการวางแผนที่จะหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพของ Zelensky เท่านั้น รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน แอนนาเลนา แบร์บอค (Annalena Baerbock) ให้ความเห็นเกี่ยวกับการปรึกษาหารือที่เจดดาห์ ยอมรับว่ามุมมองของแอฟริกาใต้ บราซิล และจีนเกี่ยวกับการพัฒนาในยูเครนแตกต่างจากมุมมองของยุโรป การล็อบบี้ครั้งนี้ของกี้และลูกพี่เมกาก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคยไม่มีแถลงการณ์ร่วมประณามรัสเซียหรือข้อตกลงที่เป็นฉันทามติร่วมแต่อย่างใด  การเมือง-เศรษฐกิจก็ว่ากันไป การทหารก็ลุยกันต่อ

วันที่ ๗ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซซ์รายงานว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก รยาบคอฟ(Sergey Ryabkov)กล่าวว่า”มอสโกว์วางแผนที่จะจัดการประชุมปรึกษาหารือกับสมาชิกกลุ่มประเทศ BRICS ภายหลังการเจรจาสันติภาพยูเครนที่ซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซี่งไม่เชญรัสเซียเข้าร่วม แต่เชิญสมาชิกประเทศ BRICS อีก ๔ ประเทศทั้งหมดทั้ง จีน อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้ ซึ่งก็ได้รับการกระตุ้นให้เข้าร่วมในเหตุการณ์นี้

Ryabkov กล่าวว่า “สำหรับพันธมิตร BRICS ที่ได้รับเชิญและไปที่นั่นต่างมีความเข้าใจว่าเราและสมาชิก BRICS คนอื่นๆว่าจะจัดการเจรจาและแบ่งปันความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องหลังจากเหตุการณ์ประชุมในเจดดาห์” 

นักการทูตยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่ารัสเซียจะไม่เข้าร่วม แต่อย่างไรก็ตาม การพูดคุยก็มีเหตุผลอยู่บ้าง และการมีส่วนร่วมของสมาชิก BRICS อาจเป็นประโยชน์ในแง่ของการแนะนำผู้สนับสนุนตะวันตกของเคียฟให้รู้จัก “สามัญสำนึก” บางอย่าง

“เรายังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในเจดดาห์กันแน่”รองโฆษก FM เสริมว่าเป็นการสมควรที่จะเข้าใจ“ความสมดุลที่แท้จริงของอำนาจและแนวร่วมของกองกำลังทหารจากการประชุมครั้งนี้ และรัสเซียจะหารือเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้กับพันธมิตร BRICS”

ซาอุดีอาระเบียได้เป็นเจ้าภาพการเจรจาประเด็นสันติภาพยูเครนเป็นเวลาสองวันในเจดดาห์เมื่อวันที่ ๕ และ ๖ สิงหาคมที่ผ่านมา การประชุมมี ๔๒ ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ซึ่งสนับสนุนยูเครนในความขัดแย้งอย่างเปิดเผย เช่นเดียวกับจีน อินเดีย บราซิล เตอร์กิเย อินโดนีเซีย และแอฟริกาใต้ ยังคงยืนยันแนวทางที่สมดุลมากขึ้นในการเผชิญหน้าระหว่างมอสโกว์และเคียฟ ตามรายงานของสื่อต่างๆ ผู้เข้าร่วมเชื่อว่ามีความเห็นพ้องต้องกันว่าการแก้ปัญหาความขัดแย้งควรอยู่บนพื้นฐานของ”การเคารพบูรณภาพแห่งดินแดนและอำนาจอธิปไตยของยูเครน”และตามหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ ริยาดยังวางแผนที่จะเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานสำหรับประเด็นเฉพาะ ซึ่งรวมถึงผลกระทบทั่วโลกของสงคราม ความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ หรือความมั่นคงทางอาหาร”

นี่เป็นการประชุมครั้งที่สองหลังจากเหตุการณ์ที่คล้ายกันในโคเปนเฮเกน ซึ่งไม่เชิญรัสเซียเช่นกัน ในการประชุมครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเคียฟไม่ได้ผลักดันสิ่งที่เรียกว่าสูตรสันติภาพเซเลนสกี้อีกต่อไป ซึ่งเรียกร้องให้รัสเซียถอนตัวออกจากดินแดนทั้งหมดของยูเครนภายในพรมแดนในปี ๑๙๙๑ ซึ่งมอสโกว์ปฏิเสธ เสนอว่าไม่สอดคล้องความจริงในปัจจุบัน

ในระหว่างการประชุม จีนได้นำเสนอแผนสันติภาพ ๑๒ ข้อของตนเองอีกครั้ง ซึ่งเปิดเผยครั้งแรกโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ WSJ รายงาน ข้อเสนอดังกล่าวถูกต่อต้านโดยนักการทูตตะวันตก ซึ่งอ้างว่าเป็นเพียงการ”หยุด”ความขัดแย้งชั่วคราวเท่านั้น

หัวหน้าคณะผู้แทนของบราซิลในการประชุมสุดยอดที่ซาอุดิอาระเบียเป็นเจ้าภาพยังกล่าวว่าการพูดคุยที่แท้จริงเกี่ยวกับสันติภาพในยูเครนต้องเกี่ยวข้องกับรัสเซีย การประชุมในเจดดาห์จึงไร้ความหมาย เป็นดังที่เซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เป็นเกมตะวันตกที่จะกล่อมพันธมิตรรัสเซียให้ยอมรับแผนสันติภาพเซเลนสกี้ และสร้างภาพว่าทุกประเทศต่อต้านรัสเซียแม้แต่พันธมิตรรัสเซีย

ที่แรงที่สุดคงจะเป็นเม็กซิโก แม้ได้รับเชิญแต่ปฏิเสธไม่เข้าร่วมประชุม ชี้ว่าการเจรจาสันติภาพของยูเครนโดยไม่มีรัสเซียไร้ประโยชน์

อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโกกล่าวว่า การเจรจาสันติภาพในยูเครนมีความหมายก็ต่อเมื่อมีผู้เข้าร่วมทั้งเคียฟและมอสโกว์เท่านั้น การประชุมในซาอุดีอาระเบียพูดแต่ฝ่ายเดียวคือยูเครน ประเทศของเขาจึงไม่เข้าร่วม