จากที่ชาติยุโรปพากันคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย ทำให้เกิดผลกระทบภายในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ซึ่งคาดกันว่าปีนี้จะวิกฤตหนักกว่าปีที่แล้วอีกหลายเท่าตัว รวมทั้งเรื่องอาหารด้วย
ทั้งนี้โดยข้อมูลล่าสุดวันที่ 06 สิงหาคม 2566 Blockdit World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยแพร่ไว้ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจว่า
“บริษัท การเกษตรในยูเครน ส่วนใหญ่เป็นของสหรัฐ อังกฤษ ลดการเก็บเกี่ยวหลังจากสิ้นสุดข้อตกลงธัญพืช ลดพื้นที่เพาะปลูก โอกาสสำหรับสินค้าเกษตรยูเครนกำลังหดหาย
ในปี 2566 ธนาคารชาติ ยูเครน ประเมินว่า ผลที่รัสเซียทำลายท่าเรือในแคว้นโอเดสซาทั้งหมด และวางทุ่นระเบิดทะเล จะส่งผลต่อความเร็วในการส่งออกธัญพืชทางเรือ ในปีนี้กำไรจะลดลงราว 69,360 ล้านบาท
ส่งผลให้ขาดเงินชำหนี้สินค่าอาวุธให้สหรัฐ และยุโรป ตามกำหนด ส่วนช่องทางขนส่งทางแม่น้ำดานูบ โรมาเนีย และขนส่งทางรถไฟ ผ่านฮังการี โปแลนด์ นั้นขนได้เพียงเล็กน้อย และล่าช้ามาก
นาย Robert Telus รัฐมนตรีเกษตรโปแลนด์ ยืนยันว่า ไม่ว่าคณะกรรมาธิการยุโรปจะตัดสินใจเช่นไร โปแลนด์ก็จะคว่ำบาตรธัญพืชยูเครน ปิดพรมแดนไม่ให้สินค้าเกษตรผ่าน โดยอีก 5 ประเทศ ก็จะทำเช่นเดียวกัน แม้เราต้องการช่วยเหลือยูเครน แต่สวัสดิการของเกษตรกรโปแลนด์คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญ
ปัจจุบัน รัสเซียเป็นผู้นำระดับโลกในปริมาณสำรองไม้ ด้วยการทำงานอย่างเชี่ยวชาญมืออาชีพในการปลูกป่าทดแทนอย่างเป็นระบบ ทำให้ปริมาณไม้สำรองในประเทศมีมากเหลือเฟือ
จึงลดภาษีไม้จาก 80% เป็น 15% สำหรับมิตรประเทศที่เป็นมิตรและไม่คว่ำบาตรรัสเซียเท่านั้น เพิ่มการส่งออกไม้ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) อิรัก สิงคโปร์ และอื่นๆ ทำให้สหภาพยุโรป ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ จึงพยายามขอร้องอ้อนวอนแกมขู่รัสเซีย ให้ลดภาษีไม้มากๆ และกลับมาส่งสินค้าไม้ไปยังยุโรปซะดีๆ แต่รัสเซียไม่สนใจ เพราะต้องปกป้องผลประโยชน์ชาติของตน
วิเคราะห์ว่าสถานการณ์ซัพพลายทรัพยากรก๊าซ น้ำมัน โลหะ แร่ ไม้ ของยุโรป ย่ำแย่วิกฤติลงทุกวัน คล้ายเอามือบีบจมูก อุดปากตนเอง จนหายใจไม่ออกร่างกายอ่อนล้า แต่ก็ยังดื้อดึงทำต่อ
การขาดแคลนพลังงาน และวัตถุดิบราคาถูกทำให้ยุโรป เกิดวิกฤติอัตราเงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจ GDP ถดถอยใกล้ศูนย์ หรือบางชาติติดลบ อุตสาหกรรมด้านต่างๆ กระทบธุรกิจเกี่ยวเนื่องขาดทุน นำไปสู่การปลดพนักงานครั้งใหญ่ อัตราการว่างงานสูง รายได้ไม่พอรายจ่าย ชักหน้าไม่ถึงหลัง ยิ่งส่งอาวุธไปก่อกวนทำสงครามกับรัสเซียมากเท่าไร สหภาพยุโรปก็ยิ่งเดือดร้อนเท่านั้น
แถมบริษัทเกษตรในยูเครนที่มีเจ้าของเป็นสหรัฐ และยุโรป ส่งออกข้าวทางท่าเรือไม่ได้แล้ว เพราะโดนทำลายพังหมด เทียบเรือสินค้าขนาดใหญ่ไม่ได้ กระหน่ำซ้ำด้วย โปแลนด์ และชาติติดยูเครนก็ คว่ำบาตร
ปิดพรมแดนห้ามส่งสินค้าเกษตรผ่านทางบก บีบให้สหภาพยุโรปด้วยกันเอง ต้องเปย์เงินทุกบาทสตางค์ที่มีในกระเป๋าจ่ายให้โปแลนด์และผองเพื่อน ชดเชยเยียวยาเกษตรกรของตน
สหภาพยุโรป กำลังยืนแห้งตายถูกรุมทึ้งขึ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำเป็นต่อชีวิตจากรัสเซีย สหรัฐ แคนาดา และชาติยุโรปตะวันออกพวกเดียวกันเอง
ฤดูหนาวปีนี้ราคาพลังงาน และอาหาร ในยุโรป จะทวีคูณแพงหนักขึ้นกว่าปีที่แล้วอีกหลายเท่าตัว กรรมเกิดแด่การกระทำ ปีที่ผ่านมาเผาหลอก ปีจากนี้ไปเผาจริงแน่นอน”
