ในขณะที่เคียฟขาดแคลนกำลังพลจำนวนมาเพราะถูกบดขยี้ไปในการโถมกำลังปฏิบัติการตอบโต้ที่มืดบอด ด้านรัสเซียได้เปิดเผยจำนวนชาวรัสเซียที่เข้าร่วมกองทัพในปี ๒๕๖๖ แสดงให้เห็นว่ามีทหารเกณฑ์มากกว่า ๒๓๐,๐๐๐ นาย เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ล่าสุด ปธน.ปูตินยังได้ลงนามในกฎหมายให้มีการระดมอดีตพนักงานที่มียศตำรวจพิเศษ สามารถเข้าไปสังกัดหน่วยรักษาดินแดนแห่งชาติ ซึ่งจะมีบทบาทปกป้องพื้นที่ภายในรัสเซียที่ถูกกลุ่มก่อการร้ายของเคียฟ-นาโต้ก่อกวนเป็นระยะมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน การระดมกำลังของยูเครนมีสภาพตรงข้ามเหมือนขาวกับดำ ยูเครนได้ออกคำสั่งระดมพลแบบครอบคลุมในหลายภูมิภาค นอกจากไม่มีคนมาสมัคร ยังปรากฏภาพทหารออกไปไล่ล่าชายหนุ่มตามที่สาธารณะเผยแพร่ในสื่อเทเลแกรม และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานความมั่นคงบุกเข้าตรวจค้นสถานีรับสมัครและคณะกรรมการการแพทย์กว่า ๑๐๐ แห่งในเขตอำนาจศาล ๑๒ แห่ง โดยกล่าวหาว่ามีแผนการฉ้อโกงเพื่อขายหนังสือรับรองการยกเว้นทางการแพทย์เพื่อไม่ต้องเข้าเป็นทหารในราคา ๖,๐๐๐ ดอลลาร์ต่อฉบับ ไม่มีใครอยากไปรบเพราะรู้ว่าอาจถึงแก่ชีวิตโดยง่าย
วันที่ ๖ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า รองหัวหน้าสภาความมั่นคงแห่งชาติ ดมิทรี เมดเวเดฟ กล่าวในที่ประชุมสภาในกรุงมอสโกว์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า “ชาวรัสเซียเกือบ ๑ ใน ๔ ของชายล้านคนได้ลงนามในสัญญาเพื่อเกณฑ์ทหารในปีนี้ ตามบันทึกของกระทรวงกลาโหม มีชายหนุ่ม๒๓๑,๐๐๐ คนได้ลงนามในสัญญาเกณฑ์ทหารระหว่างวันที่ ๑ มกราคมถึงวันนี้ ๒ สิงหาคม”
เมดเวเดฟกล่าวว่า “ประการแรกและสำคัญที่สุด เราประสบความสำเร็จในการปรับระบบการเกณฑ์ทหารตามสัญญาให้เข้ากับเงื่อนไขของปฏิบัติการทางทหารพิเศษ และสิ่งนี้ก็ได้ผลลัพธ์ออกมาอย่างน่าชื่นชม” พร้อมเสริมว่าชุดมาตรการของรัฐบาลที่มีไว้สำหรับทั้งทหารและครอบครัวของพวกเขา มีส่วนทำให้งานบริการรับเหมาของกองทัพได้รับการชื่นชมและยกย่องจากประชาชน
ผู้ที่สมัครเป็นทหารจะได้รับโบนัสครั้งเดียว ได้รับวันหยุดพักร้อน และรับประกันงานเก่าเมื่อสิ้นสุดการรับราชการ แม้ว่ายังมีงานที่ต้องทำในการตรวจสอบในทางปฏิบัติ Medvedev ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของค่าชดเชย ระหว่างผู้ที่เข้าร่วมในสัญญาและกองหนุนที่ถูกเรียกตัว ในขณะที่ทุกภูมิภาคของรัสเซียได้กำหนดโปรแกรมจูงใจและโบนัสของตนเองด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ปูตินได้ลงนามกฎหมายเกี่ยวกับการไฟเขียวให้อดีตทหารผ่านศึกหรือหน่วยตำรวจพิเศษเข้าสังกัดกองกำลังพิทักษ์ชาติ
บัดนี้เป็นไปได้แล้วที่จะระดมพลเมืองที่รับผิดชอบในการรับราชการทหาร หรืออดีตทหารผ่านศึก หรือหน่วยตำรวจพิเศษ เข้าสู่ตำแหน่งของ Federal Service of the National Guard Troops หรือที่เรียกว่ากองกำลังพิทักษ์ชาติ หน่วยFSVNG, Rosguard กฎหมายของรัฐบาลกลางที่เกี่ยวข้องลงนามโดยประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซียแล้ว
พลเมืองที่อยู่ในกองหนุน และเคยปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยพิทักษ์รัสเซียในตำแหน่ง ที่กำหนด หรือมีตำแหน่งตำรวจพิเศษในกรณีที่มีการระดมพลเพื่อทำหน้าที่ใน FSVNG ในกรณีที่พวกเขาปฏิเสธที่จะทำหน้าที่ใน Russian Guard พวกเขาจะถูกส่งไปยังกองกำลังของสหพันธรัฐรัสเซีย ส่วนใหญ่เป็นการปลดล็อคเกี่ยวกับอดีตพนักงานของหน่วย OMON และ SOBR ซึ่งเป็นตำรวจพิเศษ แต่อยากโอนย้ายไปเป็นกองกำลังพิทักษ์ชาติหรือไปเป็นทหารสังกัดกลาโหมโดยตรง
การตัดสินใจดังกล่าวดูสมเหตุสมผล ตัวอย่างเช่น พันตำรวจโทที่สั่งการหน่วย SOBR อาจมียศทางทหารเป็น “ทหาร” และมีประสบการณ์ในการทำหน้าที่เป็นมือปืนหรือคนขับรถ แต่ไม่สามารถเข้าระดมพลในฐานะส่วนตัวสำหรับตำแหน่งดังกล่าว แต่จะต้องมีการพิสูจน์ประสบการณ์ในการรับใช้ในหน่วยรบพิเศษ และความพร้อมของความรู้และทักษะบางอย่าง ตอนนี้ก็ทำได้แล้ว
นอกจากนี้ กฎหมายอนุญาตให้ลงนามในสัญญาระยะสั้นสำหรับการปฏิบัติงานในกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติ สิ่งนี้จะช่วยให้ทหารผ่านศึกจำนวนมากของกองกำลังพิเศษและตำรวจสามารถกลับไปปฏิบัติหน้าที่ได้ระยะหนึ่ง ระยะเวลาของสัญญาระยะสั้นสูงสุด ๑ ปี
ข้อกำหนดที่เข้มงวดคือ ทหารและพนักงานของ Russian Guard ทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้โพสต์ข้อมูลในสื่อและโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมถึงรูปถ่ายวิดีโอเกี่ยวกับตัวเอง servicemen อื่น ๆ พนักงานรวมถึงผู้ที่ถูกไล่ออกจากการบริการรวมถึงสมาชิก ของครอบครัวซึ่งจะส่งผลให้สามารถค้นหาพวกเขาได้
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการเตรียมการด้านกำลังพลที่สำคัญ เมื่อฝั่งเมกา-นาโต้ยังคงเอาการเอางาน ถมเงินและอาวุธให้เคียฟต่อไป และไม่มีสัญญาณสันติภาพอย่างแท้จริง ไม่ว่าจีน อาฟริกา ตุรกีและซาอุดีอาระเบียจะพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไร้ผล เพราะมาสเตอร์มายด์คือเมกาไม่ยอมจบลูกน้องอย่างเคียฟย่อมไม่อาจปฏิเสธ!!