โลกจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มBRICS ซึ่งเป็นพันธมิตรที่รวมประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ล่าสุดมีหลายประเทศประกาศเจตจำนงค์ที่จะเข้าร่วมกลุ่มเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ ได้แก่ อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตุรกี แอลจีเรีย อาร์เจนตินา อียิปต์ อินโดนีเซีย และเพื่อนบ้านละตินอีกหลายแห่งรวมทั้งประเทศอื่นๆอีกมากมายในแอฟริกา เอเชียที่แสดงความสนใจขอเข้าร่วมประชุม
แอฟริกาใต้ ซึ่งรับตำแหน่งประธาน BRICS หมุนเวียนในเดือนมกราคม จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ ๑๕ ในวันที่ ๒๒-๒๔ สิงหาคมนี้ที่เมืองJohannesburg ที่ศูนย์ Sandton International Convention Center ทางเจ้าภาพเปิดเผยว่าจะมีวีไอพีจาก ๗๐ ประเทศตอบรับเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ เป็นการสั่นสะเทือนอำนาจการครอบงำของมหาอำนาจเดี่ยวแองโกลแซกซอนที่กำลังแผ่ขยายบทบาทการล่าอาณานิคมใหม่ ผ่านกองหน้าจัดตั้งทางทหารในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก มีความพยายามยุแหย่ให้เกิดความแตกแยกระหว่างแกนนำหลัก ๕ ประเทศอย่างต่อเนื่องแต่ยังไร้ผล
วันที่ ๖ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า บราซิลและอินเดียได้หักล้างข้อกล่าวหาที่ปรากฏในสื่อตะวันตกกระแสหลักเมื่อเร็วๆ นี้ที่ว่าทั้งสองประเทศต่อต้านการขยายตัวของ BRICS เป็นความพยายามเสี้ยมให้แกนนำบริกส์ขุ่นข้องหมองใจกัน
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสื่อบางแห่งอ้างว่าบราซิลต่อต้านการขยายสมาชิกภาพของ BRICS โดยอ้างถึงนักการทูตบราซิลที่ไม่เปิดเผยชื่อบางคนว่าการขยายดังกล่าวอาจลดอิทธิพลของสมาชิกที่มีอยู่ ประธานาธิบดีลุลา ดา ซิลวา (Lula da Silva) ของบราซิลออกมาแถลงข่าวทันทีว่าประเทศของเขาสนับสนุนประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วม BRICS ให้มากขึ้นถึงมากที่สุด
เขากล่าวว่า “ผมมีความเห็นว่าหลายๆ ประเทศต้องการเข้ามา หากพวกเขาปฏิบัติตามกฎที่เรากำหนด เราจะยอมรับประเทศต่างๆเข้าสู่การเป็นสมาชิกอย่างยินดี”
ในขณะเดียวกันอรินดัม แบ็กจี (Arindam Bagchi) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอินเดียเน้นย้ำว่าการอ้างว่าประเทศของเขาต่อต้านการขยายตัวของ BRICSนั้นเป็นเท็จเช่นกัน
เขากล่าวว่า “เราได้เห็นการคาดเดาที่ไม่มีมูลความจริงว่าอินเดียมีข้อสงวนสิทธ์คัดค้านต่อการขยายตัวของ BRICS ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย”
แอเดรียล คาซอนตา(Adriel Kasonta) นักวิเคราะห์กิจการต่างประเทศ นักข่าว และผู้วิจารณ์ในลอนดอน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการนี้ บอกกับ Sputnik ว่าคำกล่าวอ้างที่หักล้างเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นความพยายามของชาติตะวันตกที่จะหว่านความบาดหมางในหมู่สมาชิกกลุ่ม BRICS
คาซอนตากล่าวว่า “ผมคิดว่าอินเดียถูกโลกตะวันตกมองว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดในกลุ่มบริกส์ เพราะอินเดียกำลังแข่งขันอย่างเปิดเผยกับจีนเมื่อพูดถึงการสร้างอิทธิพลในเอเชีย” “ผมไม่ต้องการลงลึกในรายละเอียด แต่ความจริงก็คือ บทความจำนวนมากและนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญจากตะวันตกจำนวนมาก เช่น ในสหราชอาณาจักร กำลังพยายามพรรณนาอินเดียว่าเป็นประเทศที่สามารถถูกชักจูงได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งตะวันตกซึ่งไม่สอดคล้องกับความจริง”
ตะวันตกอาจกำลังพยายาม “สร้างสถานการณ์เพื่อขัดขวางการตัดสินใจครั้งใหญ่บางอย่าง” ในการประชุมสุดยอด BRICS ที่จะมาถึงในเมืองโจฮันเนสเบิร์กในปลายเดือนนี้
“ดังนั้นมันจึงไม่เกี่ยวกับความแตกแยก เพราะกลุ่ม BRICS ได้ให้คำมั่นสัญญาและตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยการเพิ่มสมาชิกใหม่ ไม่เพียงแต่ในระหว่างการประชุมสุดยอดครั้งนี้ แต่ในอนาคตข้างหน้าด้วย” “แต่มันเกี่ยวกับความพยายามของชาวตะวันตกที่จะพยายามทำลายการรวมกลุ่มซึ่งกลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรง ต่ออำนาจและผลประโยชน์ของพวกเขา แต่ผมอยากจะแสดงความเป็นห่วงต่อความเป็นเจ้าโลกตะวันตกที่พยายามรักษาความเป็นเจ้าโลกนี้ไว้ อนาคตโลกจะไม่เหมือนเดิม”
เมื่อสังเกตว่ามหาอำนาจตะวันตกพยายามบังคับให้แอฟริกาใต้บังคับใช้คำตัดสินของ ICC ต่อปธน.ปูตินของรัสเซีย หากเขาปรากฏตัวในการประชุมสุดยอด BRICS คาซอนตาโต้แย้งว่ามันอาจทำได้โดยพฤตินัย และเรื่องนี้ทำให้เจ้าภาพอาฟริกาใต้ซึ่งก็มีสัมพันธ์อันดีกับปูตินไม่สบายใจ ปูตินเลยตัดสินใจเข้าร่วมผ่านวีดิโอลิงก์แทน ทำให้เจ้าภาพถึงกับโล่งอก
Kasonta แย้งว่าปัจจุบัน BRICS ยืนหยัดเป็น “คู่แข่งที่ร้ายแรง” ไม่ใช่แค่ความเป็นเจ้าโลกของสหรัฐฯ แต่เป็น “ความเป็นเจ้าโลกตะวันตกและลัทธิจักรวรรดินิยมตะวันตกด้วย เรียกว่าล้างบางหรือ Reset กันเลยก็ว่าได้”
“ผมคิดว่า BRICS เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการได้รับอำนาจอธิปไตยเต็มรูปแบบของ Global South และประเทศที่เข้าร่วมเมินองค์กรระหว่างประเทศที่สหรัฐฯก่อตั้งไว้่เช่น Bretton Woods สถาบันต่างๆ อย่าง IMF หรือ World Bank”
เขามองว่า “เป้าหมายสูงสุด” ของ BRICS คือ “เป็นความสำเร็จขั้นสุดท้ายในความพยายามอันยาวนานของผู้นำ Global South เพื่อแยกตัวออกจากลัทธิอาณานิคมใหม่”
ในเวลาเดียวกัน Kasonta เตือนว่าในความเห็นของเขา “การคุกคามของความขัดแย้งที่ถูกต้องตามกฎหมายระหว่างจีนและอินเดียนั้น ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อ BRICS แม้ว่าเขาจะแสดงความหวังว่าผู้นำของประเทศสมาชิกทั้งจีนและอินเดียจะมองเห็นภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น และพวกเขาตัดสินใจอยู่เหนือข้อพิพาทเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ และหลีกเลี่ยงความพยายามขยายความขัดแย้งนี้จากตะวันตกที่จะหว่านความบาดหมางกันนั้นจึงจะไร้ผล”
การประชุมสุดยอดที่จะถึงนี้จะให้คำตอบกับประเด็นที่Kasonta เตือน ท่ามกลางการปะทุขึ้นของแนวร่วมต่อต้านเจ้าอาณานิคมใหม่ในแอฟริกาตะวันตก!??
