กวาดล้างโจร!? รัสเซีย-ซีเรียซ้อมรบจ่อปะทะสหรัฐฯน่านฟ้าซีเรีย นักข่าวมะกันยันเมกาหนุนก่อการร้ายขโมยน้ำมัน

0

รัสเซีย-ซีเรียจัดการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ในตอนกลางคืน เป็นการฝึกซ้อมครั้งแรกของพวกเขา เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดในภูมิภาคที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการเพิ่มจำนวนของกองทัพสหรัฐอย่างผิดกฎหมายภายในชายแดนและรอบๆ ซีเรีย รัฐบาลวอชิงตันล้มเหลวในการลงโทษผู้ก่อการร้าย เบื้องหลังเป็นสงครามสกปรกของซีไอเอที่ยาวนานนับทศวรรษ

วันที่ ๔ ส.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและอัลอะราบิญารายงานว่า เครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ของ Russian Aerospace Forces และกองกำลังพิเศษของซีเรียได้เสร็จสิ้นการฝึกซ้อมขนาดใหญ่ในเวลากลางคืนในจังหวัด Hama ทางตะวันตกตอนกลางของซีเรีย

ภายใต้สถานการณ์การฝึกซ้อม กองกำลังของศัตรูได้โจมตีกองกำลังของซีเรียและสามารถเข้ายึดพื้นที่ตั้งถิ่นฐานของพลเรือนได้ ดังนั้น หน่วยคอมมานโดของซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากกำลังทางอากาศของรัสเซียจึงได้รับมอบหมายให้ยึดคืนถิ่นฐานในปฏิบัติการกลางคืนที่มีการประสานงานกันครั้งใหญ่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกองกำลังจำนวนมาก หน่วยคอมมานโดที่บินด้วยเฮลิคอปเตอร์ เครื่องบิน ปืนใหญ่ และขีปนาวุธประสานกัน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่วีดิโอแสดงให้เห็น เครื่องบินขับไล่ Su-35 ของรัสเซียและเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธวิธี Su-24 บินขึ้นจากฐานทัพอากาศ Khmeimim ในลาตาเกีย ทางตะวันตกของซีเรีย และทำการจำลองการทิ้งระเบิดขนาดใหญ่ใส่ตำแหน่งของศัตรู ในขณะที่กองกำลังซีเรียก็ทำเช่นเดียวกันโดยใช้ ขีปนาวุธทางยุทธวิธีภาคพื้นดินและปืนใหญ่จรวด Grad เฮลิคอปเตอร์โจมตี Ka-52 ของรัสเซียเข้าร่วมปฏิบัติการ

กองกำลังของซีเรียที่เกี่ยวข้องกับการฝึกซ้อมประกอบด้วยบุคลากรจากกองปฏิบัติการพิเศษที่ ๒๕ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อกองกำลังเสือ กองกำลังขนาดใหญ่ระดับกองพลน้อยที่สร้างขึ้นในปี ๒๕๕๖ และใช้อย่างกว้างขวางในการสู้รบของซีเรียกับกลุ่มติดอาวุธและกองกำลังติดอาวุธของซีเรีย กับกลุ่มกบฏทั่วประเทศในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ผู้บัญชาการทหารของรัสเซียและซีเรียได้แสดงความพอใจกับการประสานงานในระดับสูงระหว่างกองกำลังของทั้งสองประเทศในระหว่างการฝึกซ้อม

พันธมิตรต่อต้านการก่อการร้ายได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยรัสเซียเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักของซีเรียในการต่อสู้กับการก่อการร้าย และร่วมกับนักสู้กลุ่มเฮซบอลเลาะห์จากเลบานอนตลอดจนที่ปรึกษากองกำลังไออาจีซี คุดส์ (IRGC Quds)จากอิหร่าน มีบทบาทสำคัญในการสู้รบช่วงกลางถึงปลายปี ๒๐๑๐ โดยกองกำลังซีเรียเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศของพวกเขาพังทลายลงเมื่อถูกปิดล้อมโดยสหรัฐอเมริกาและผู้มีบทบาทมีอำนาจในภูมิภาค ในช่วงเวลานั้นน่าจะหมายถึงตุรกีและอิสราเอล

นับจากฤดูใบไม้ผลินี้ ซีเรียเริ่มฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านส่วนใหญ่อย่างรวดเร็วและกลับสู่สันนิบาตอาหรับอย่างมีชัย ซึ่งถูกระงับการเป็นสมาชิกในปี ๒๕๕๔ ท่ามกลางการกดดันให้โค่นล้มปธน.บาชาร์ อัสซาด ล่าสุดดามัสกัสกำลังเจรจากับรัสเซียและอิหร่านเพื่อปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติกับตุรกี

สหรัฐอเมริกา ซึ่งควบคุมพื้นที่ราวหนึ่งในสามของประเทศทางตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรตีสร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นชาวเคิร์ด ปฏิเสธที่จะยุติการยึดครองซีเรียอย่างผิดกฎหมาย โดยอ้างว่าเป็นการคุกคามการเกิดขึ้นอีกครั้งของดาอิชหรือไอซิส กลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่ครั้งหนึ่งเคยยึดครองพื้นที่ขนาดใหญ่ทางตะวันตกของอิรักและซีเรียตะวันออก และขู่ว่าจะก่อตั้ง ‘ผู้นำศาสนาอิสลาม’ ในระดับภูมิภาค ซีเรียและพันธมิตรปฏิเสธเหตุผลของวอชิงตัน และกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าช่วยเหลือกลุ่มก่อการร้ายอย่างลับๆ สหรัฐอเมริกาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้

ริก สเตอร์ลิง นักข่าวอิสระสหรัฐฯได้เปิดโปงบทบาทที่แท้จริงของสหรัฐฯในซีเรีย และการได้รับคำร้องขอจากเจ้าบ้านต่อรัสเซียว่า สองประเทศมหาอำนาจทางทหารทั้งสองมีบทบาทต่างกันฟ้ากับเหวในซีเรีย ขณะที่รัสเซียได้รับการร้องขอจากเจ้าบ้านให้มาช่วย แต่สหรัฐฯกลับดึงดันอยู่ในแผ่นดินซีเรียด้วยข้ออ้างปราบก่อการร้ายแต่กลับขโมยน้ำมันซีเรีย หนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียอย่างโจ่งแจ้งเป็นเช่นนี้นับทศวรรษ จนวันนี้ยังขโมยทรัพยากรน้ำมันของซีเรียถึงร้อยละ ๘๐”

เมื่อเร็วๆนี้น่านฟ้าของซีเรียเป็นที่ตั้งของการเผชิญหน้าอย่างใกล้ชิดอย่างน้อย ๒๓ ครั้ง ระหว่างเครื่องบินขับไล่ไอพ่นของรัสเซียกับโดรนโจมตีระยะไกลของสหรัฐฯ ซึ่งนำไปสู่การกล่าวหาจากทั้งสองฝ่ายถึงพฤติกรรมที่ “อันตรายและไม่เป็นมืออาชีพ” สเตอร์ลิงกล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือความขัดแย้งในยูเครนและการล่มสลายของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย”  “สหรัฐฯกล่าวหาว่ารัสเซียละเมิดข้อตกลงลดความขัดแย้งแต่โดยพื้นฐานแล้ว รัสเซียอยู่ที่นั่นตามข้อตกลงของรัฐบาลซีเรีย และสหรัฐฯ ไม่อยู่” เขาเน้นย้ำว่า “สหรัฐฯ อยู่ที่นั่นเพื่อต่อสู้กับ ISIS แต่มีข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกันมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ หนึ่งในข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือในปี ๒๕๕๙ สหรัฐฯ โจมตีกองกำลังซีเรียเนื่องจากพวกเขากำลังโจมตีกลุ่ม ISIS เมืองเดอีร์เอซซอร์ และกองกำลังสหรัฐฯได้สังหารทหารซีเรียไป ๗๐ นาย”

เขาระบุว่า การที่รัสเซียเข้าแทรกแซงปัญหาในซีเรีย แทนที่จะปล่อยให้ซีเรียล่มสลาย ได้สร้างความผิดหวังให้กับสหรัฐฯ และชาติตะวันตกเป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกตะวันตกอยากเห็นซีเรียกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว แทนที่จะเป็นรัฐที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งกลายเป็นรัฐกึ่งสังคมนิยมและเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นของรัสเซีย”

จับตาหลังการซ้อมรบใหญ่ของรัสเซีย-ซีเรีย อาจมีปฏิบัติการสั่งสอนหรือกระทั่งขับไล่กองกำลังทหารที่ผิดก.ม.ของสหรัฐอย่างจริงจัง หลังทั้งเมกาและอิสราเอลส่งเครื่องบินมาโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยอ้างคำเดียวว่าถล่มIS แต่คนที่ตายคือคนซีเรีย และการปล้นน้ำมันของเมกากับกลุ่มต้านอัสซาดยังเร่งมือขุดน้ำมันหน้าตาเฉย วันนี้เมการัสเซียคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว!!??